ปอท. 17 ก.ค. – เพจรีวิวสินค้าร้อง ปอท. ดำเนินคดีเพจดัง หลังกล่าวหาใช้บุคคลอื่นหากิน จนถูกยกเลิกงาน เสียหายเกือบล้านบาท
นายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ พาผู้เสียหายเพจรีวิวสินค้า เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) หลังถูกเพจใหญ่ชื่อดัง สร้างโพสต์เพื่อดิสเครดิต และกล่าวหาว่าเพจของตนนำภาพคนอื่นมาใช้เพื่อหารายได้ จนถูกลูกเพจเข้ามาด่าทอ ถูกยกเลิกงาน และถูกปฏิเสธจ่ายค่าจ้าง ความเสียหายเกือบล้านในระยะเวลา 4 วัน
ทนายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า เพจใหญ่ดังกล่าวมีผู้ติดตามหลายล้านคน ตั้งตัวเป็นผู้พิพากษาทางโซเชียล ทำร้ายเพจเล็ก ๆ หลายเพจที่เขาทำมาหากินสุจริต วันนี้จึงพาผู้เสียมาเพียง 2 เพจมาแจ้งความ เพื่อต้องการให้เพจใหญ่ดังกล่าวหยุดการกระทำแบบนี้
ด้านเจ้าของเพจ บีนบอก ผู้เสียหาย ระบุว่า เมื่อ 4 วันที่แล้ว ตนถูกเพจใหญ่ดังกล่าว แคปภาพหน้าเพจของตนที่มีการรีวิวสินค้า ไปโพสต์ในเพจใหญ่เพจนั้นและโพสต์ข้อความประมาณว่า “นำภาพของผู้อื่นมาใช้ และไม่ได้ใช้สินค้าจริง” หลังจากเพจดังกล่าวขึ้นโพสต์ ทำให้ตนถูกลูกเพจและพวกเกรียนคีย์บอร์ดด่าทอด้วยข้อความเสียๆ หายๆ จำนวนมาก ทั้งยังอินบล็อกเข้ามาในเพจของตนอีกหลายครั้ง ถูกทักมาทางอินบล็อกทุก 6 ชม. แต่ตนไม่ตอบโต้ และการไม่ตอบโต้ทำให้พวกเกรียนคีย์บอร์ดยิ่งเข้ามาต่อว่าหนักขึ้น หาว่าตนไม่กล้าสู้ และถูกเจ้าของผลิตภัณฑ์ยกเลิกงาน บางสินค้าไม่ได้ค่าจ้าง โดนมีเหตุผลว่าตนไม่ได้รีวิวเอง ใน 4 วัน ตนขาดรายได้กว่า 6 หลักจึงต้องการดำเนินการกับเพจดังกล่าวและเกรียนคีย์บอร์ดที่เข้ามาดิสเครดิตตน และทำลายช่องทางหาเงิน ซึ่งจะดำเนินเรื่องให้ถึงที่สุด
ด้านเจ้าของเพจ พูดไปเรื่อย รีวิวไปงั้น ผู้เสียหายอีก 1 เพจ ก็ระบุเช่นเดียวกันว่า ตนเองก็ถูกกระทำเช่นเดียวกันกับเพจ บีนบอก ต้องเสียรายได้เกือบล้านบาท จึงอยากชี้แจงกับสังคมว่า ภาพที่เห็นเป็นภาพของตนจริงๆ และที่สำคัญคนที่ก็อบภาพคือเพจอื่นที่ก็อบไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาต หากจะต่อว่าใคร ให้ตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อนไม่ใช่มาลงโพสต์แบบนี้ ซึ่งตนไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่เพจดังกล่าวทำ แต่การกระทำเช่นนี้ไม่บริสุทธิ์ จึงต้องแจ้งความดำเนินคดี ทั้งแพ่งและอาญา ให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างและไม่ให้กระทำกับเพจอื่น ๆ อีก เพราะเท่าที่ทราบมีเพจที่ได้รับความเสียหายมากกว่า 10 เพจ บางเพจเริ่มออกมาตอบโต้บ้างแล้ว แต่ตนจะไม่ตอบโต้ทางโซเชียล แต่จะใช้กฎหมายดำเนินการ โดยจะมีการแจ้ง 3 ข้อหาหลัก คือ นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์, หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ด้านพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องเอาไว้เพื่อทำการตรวจสอบ. -สำนักข่าวไทย