ญาตินักธุรกิจเยอรมันร้อง “บิ๊กโจ๊ก” ช่วยตามหาตัว

10 ก.ค. – ญาติร้อง “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” รอง ผบ.ตร. ช่วยตามหานักธุรกิจชาวเยอรมันที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. หลังพบรถยนต์แล้ว ด้าน “บิ๊กโจ๊ก” เผยขณะนี้ยังไม่พบตัวนักธุรกิจชาวเยอรมัน แต่มูลเหตุเชื่อว่าประสงค์ต่อทรัพย์และทำเป็นขบวนการ


จากกรณีที่มีญาติประกาศให้ช่วยติดตามนายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค อายุ 62 ปี ชาวเยอรมัน ที่ได้หายออกจากบ้าน เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมรถเบนซ์สีเทา พร้อมระบุว่าหากผู้ใดพบเห็นเจอรถคันดังกล่าว จะให้รางวัล 100,000 บาท แต่หากพบตัวผู้สูญหาย และยังมีชีวิตอยู่จะให้ 3 ล้านบาท โดยญาติได้เข้าแจ้งความคนหาย กับ สภ.หนองปรือ ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนายฮันส์ได้หายออกจากหมู่บ้านสวิตพาราไดร์ โดยมีหลักฐานคลิปจากกล้องวงจรปิด

ก่อนที่ในเวลาต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ จะพบกับรถยนต์คันดังกล่าวเมื่อวานนี้ (9 ก.ค.) บริเวณที่จอดรถชั่วคราว ของซีซีคอนโด จังหวัด ชลบุรี และมีการเก็บหลักฐานเพิ่มเติมจากการตรวจสอบสิ่งผิดปกติภายในรถคันดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย


วันนี้ที่สมาคมพนักงานสอบสวน สโมสรตำรวจ ครอบครัวนายฮันส์ ปีเตอร์ ซึ่งมีภรรยาชาวไทย 2 คน และลูกชาย 2 คน เดินทางพร้อมตัวแทนมูลนิธิวินวิน เข้าพบกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ช่วยเหลือตามหาตัว นายฮันส์ ปีเตอร์ โดยภรรยาคนล่าสุดของนายฮันส์ ปีเตอร์ ระบุว่าในวันเกิดเหตุมีการนัดหมายกับทางสามีว่าจะไปดูที่ดินกันโดยสามีบอกว่าจะไปหาลูกค้าก่อน จนเมื่อถึงเวลานัดหมาย สามีก็ไม่มาตามนัด และเมื่อทางครอบครัวพยายามติดต่อ ซึ่งตนเองได้พยายามติดต่อสามีแต่ไม่สามารถติดต่อได้แต่จะมีข้อความส่งกลับมาจากทางสามีว่าอยู่กับลูกค้า ทั้ง ๆ ที่ปกติสามีเป็นคนไม่ส่งข้อความ จนเวลาล่วงเลยตั้งแต่ประมาณ 15.00-22.00 น. ทางครอบครัวก็ยังไม่สามารถติดต่อกับนายฮันส์ ปีเตอร์ได้ และสามีก็ยังคงส่งข้อความมาบอกว่าต้องอยู่กับลูกค้ารายนี้เขาเป็นลูกค้ารายสำคัญ จนมาตอนเช้าวันที่ 5 ก.ค.ก็ยังพยายามติดต่อสามีอยู่ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จนมีข้อความสุดท้ายในช่วงเช้าวันที่ 5 ว่าจะอยู่กับลูกค้า ครอบครัวจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ

เรื่องที่นัดหมายคือจะมีลูกค้ามาดูที่ดินที่พัทยา แต่ในข้อความมีการพูดถึงเกาะสมุย ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีการคุยกับตนเองเรื่องเกาะสมุย ตนเองมองว่าสามีถูกจับตัวไปแน่นอน เพราะสามีไม่เคยผิดนัดเรื่องงาน เป็นคนตรงเวลา ไม่ชอบให้ครอบครัวเป็นห่วง และคนที่จับตัวไป ไม่น่าใช่เรื่องที่ดินแล้ว แต่น่าจะเป็นกลุ่มคนที่รู้ว่าสามีตนเองทำธุรกิจอะไรมากกว่า และไม่ทราบว่าเป็นคนกลุ่มไหนมาจับสามีตนเองไปและเรื่องอะไร แต่ก็อยากให้ปล่อยสามีตนเอง ส่วนคนที่ตำรวจเชิญมาเมื่อวาน ไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน โดยครอบครัวยังคงสงสัย คนที่ปรากฏในวงจรปิด แต่ต้องรอดให้ตำรวจตรวจสอบในประเด็นนี้

พร้อมฝากถึงคนที่พาสามีไปขอให้ปล่อยตัว อยากได้อะไรให้มาคุยกัน ไม่ใช่เก็บตัวสามีตนเองไปแล้วหายเงียบแบบนี้ วันนี้จึงอยากให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ช่วยตามหาตัวสามี และมั่นใจว่าสามียังอยู่ในประเทศ และหวังว่าจะมีชีวิตกลับบ้าน ตลอดเวลาที่สามีหายตัวไป ยังไม่เคยมีโทรศัพท์มาเรียกเงินแต่อย่างใด ส่วนกระแสข่าวที่ปรากฏในประเทศเพื่อนบ้าน ตนเองยืนยันว่า สามีไม่เคยเดินทางไปแถว ๆ ชายแดนย่านจังหวัดสระแก้ว ด้านลูกชายก็อยากให้เจอพ่อเร็ว ๆ เพราะครอบครัวเป็นห่วง ส่วนคนที่ตำรวจเอาตัวไปสอบเมื่อวานก็เห็น ที่ สภ.ตนเองฟังออกว่ามีการสื่อสารอะไรกับตำรวจ แต่ยังไม่ขอเปิดเผย


ขณะที่มีรายงานในคดีว่า เบื้องต้นหลังจากที่ทางตำรวจได้พบกับรถยนต์คันที่หายไปพร้อมกับตัวนายฮันส์ ปีเตอร์ ต่อมาตำรวจได้มี เชิญตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 3 ราย ชาวเยอรมัน ไปให้ปากคำในฐานะพยาน ซึ่งการให้ปากคำตลอดคืนที่ผ่านมายังไม่ค่อยเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมากนัก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ รวมถึงตำรวจยังได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ซึ่งขณะนี้พบข้อมูลของความเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปในครั้งนี้

ขณะที่การตรวจสอบเส้นทางการเงินของทางนายฮันส์ ปีเตอร์ ตอนนี้พบมีการโอนเงินออกจากแอพพลิเคชั่นธนาคารของ นายฮันส์ ปีเตอร์ จำนวนหลายครั้ง รวมยอด 2 ล้านบาท ซึ่งการโอนดังกล่าวเป็นการโอนอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบบัญชีรับโอนปลายทาง

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 และชุดสืบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุเพื่อติดตามตัวนายฮันส์ ปีเตอร์ ชาวเยอรมัน ที่ได้หายออกจากบ้าน เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่าตอนนี้ยังไม่พบเบาะแสร่องรอยของตัวผู้สูญหาย แต่พบรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์สีเทาจอดทิ้งไว้ในพื้นที่ อ.หนองปรือ จังหวัดชลบุรี และขยายผล เชิญตัวผู้ต้องสงสัยในคดี เป็นหญิงทำหน้าที่ชี้เป้า 1 คน และผู้ต้องสงสัยอีก 1 คน คือนายโอลาฟ รับโอนเงิน ซึ่งยังให้การปฏิเสธ เนื่องจากมีการคุยกับทนายความมาก่อนแล้วถึงแนวทางที่จะให้การกับเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลคดีนี้ พบว่า ผู้ก่อเหตุมีการวางแผนเตรียมการมาเป็นอย่างดี ส่วนมูลเหตุขณะนี้เชื่อว่าประสงค์ต่อทรัพย์เนื่องจากผู้สูญหายมีทรัพย์สินจำนวนมาก และในช่วงที่หายตัวไปมีการโอนเงินออกจากบัญชี ขณะเดียวกันพบว่ามีการพยายามทำลายหลักฐาน โดยพบสารเคมีบางชนิดอยู่ภายในรถ ซึ่งก็อยู่ระหว่างรอผลจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานว่าเป็นสารชนิดใด และจะต้องไล่ดูกล้องวงจรปิดให้ครบเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สิ่งสำคัญ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งติดตามตัวผู้สูญหายมาให้ได้โดยเร็วไม่ว่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพื่อให้ความจริงปรากฏ และสร้างความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยว เพราะไม่อย่างนั้น การอุ้มหายดังเช่นกรณีดังกล่าว ทั้งชาวจีนหรือชาวเยอรมัน รวมทั้งชาวต่างชาติ จะทำให้นักท่องเที่ยวไม่มีความเชื่อมั่นในความปลอดภัยเมื่อมาประเทศไทย. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

South Korea's presidential election voting place

เกาหลีใต้เลือกตั้ง ปธน.หลังการเมืองวุ่นหลายเดือน

โซล 3 มิ.ย.- ชาวเกาหลีใต้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันนี้ หลังจากการเมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง 44.39 ล้านคน ในเกาหลีใต้เริ่มออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีตามหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ ทั่วประเทศในวันนี้ ที่เปิดให้ลงคะแนนตั้งแต่เวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของเกาหลีใต้ส่งกำลังตำรวจทั้งหมด 28,590 นายไปประจำการตามคูหาเลือกตั้งทั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย การลงคะแนนจะเสร็จสิ้นในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คาดว่าจะทราบผลเลือกตั้งได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังปิดหีบ โดยเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่แล้ว มีการจัดให้ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า มีผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนมากกว่า 15 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 34.74 สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เริ่มให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ตั้งแต่ปี 2557 การเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ต้องจัดขึ้นก่อนกำหนดเดิมที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 มีนาคม 2570 หลังเกิดความวุ่นวายทางการเมืองนานหลายเดือน จากการที่นายยุน ซ็อก ยอล อดีตประธานาธิบดี ประกาศใช้กฎอัยการศึกเป็นเวลาสั้นๆ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทำให้เขาถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งในเวลาต่อมา หลายฝ่ายมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการลงประชามติต่อการกระทำของนายยุน มากกว่าการชูนโยบายแข่งขันกันของผู้สมัครชิงตำแหน่ง […]

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

นายกฯ นำทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.- นายกฯ เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตักบาตรพระสงฆ์ 148 รูป ถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เมื่อเวลา 07.30 น. ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 148 รูป เพื่อถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 ณ บริเวณท้องสนามหลวง โดยมีคณะองคมนตรีและภริยา ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรอิสระและคู่สมรส รองนายกรัฐมนตรีและภริยา รัฐมนตรีว่าการผู้บริหารหน่วยราชการในพระองค์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการทหารและตำรวจ พร้อมภริยา และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย ทั้งนี้ เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงปะรำพิธี พระสงฆ์จำนวน 10 รูป ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ จากนั้น […]

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 3 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนมรสุมพัดปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้ยังมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย