ญาตินักธุรกิจเยอรมันร้อง “บิ๊กโจ๊ก” ช่วยตามหาตัว

10 ก.ค. – ญาติร้อง “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” รอง ผบ.ตร. ช่วยตามหานักธุรกิจชาวเยอรมันที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. หลังพบรถยนต์แล้ว ด้าน “บิ๊กโจ๊ก” เผยขณะนี้ยังไม่พบตัวนักธุรกิจชาวเยอรมัน แต่มูลเหตุเชื่อว่าประสงค์ต่อทรัพย์และทำเป็นขบวนการ


จากกรณีที่มีญาติประกาศให้ช่วยติดตามนายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค อายุ 62 ปี ชาวเยอรมัน ที่ได้หายออกจากบ้าน เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมรถเบนซ์สีเทา พร้อมระบุว่าหากผู้ใดพบเห็นเจอรถคันดังกล่าว จะให้รางวัล 100,000 บาท แต่หากพบตัวผู้สูญหาย และยังมีชีวิตอยู่จะให้ 3 ล้านบาท โดยญาติได้เข้าแจ้งความคนหาย กับ สภ.หนองปรือ ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนายฮันส์ได้หายออกจากหมู่บ้านสวิตพาราไดร์ โดยมีหลักฐานคลิปจากกล้องวงจรปิด

ก่อนที่ในเวลาต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ จะพบกับรถยนต์คันดังกล่าวเมื่อวานนี้ (9 ก.ค.) บริเวณที่จอดรถชั่วคราว ของซีซีคอนโด จังหวัด ชลบุรี และมีการเก็บหลักฐานเพิ่มเติมจากการตรวจสอบสิ่งผิดปกติภายในรถคันดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย


วันนี้ที่สมาคมพนักงานสอบสวน สโมสรตำรวจ ครอบครัวนายฮันส์ ปีเตอร์ ซึ่งมีภรรยาชาวไทย 2 คน และลูกชาย 2 คน เดินทางพร้อมตัวแทนมูลนิธิวินวิน เข้าพบกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ช่วยเหลือตามหาตัว นายฮันส์ ปีเตอร์ โดยภรรยาคนล่าสุดของนายฮันส์ ปีเตอร์ ระบุว่าในวันเกิดเหตุมีการนัดหมายกับทางสามีว่าจะไปดูที่ดินกันโดยสามีบอกว่าจะไปหาลูกค้าก่อน จนเมื่อถึงเวลานัดหมาย สามีก็ไม่มาตามนัด และเมื่อทางครอบครัวพยายามติดต่อ ซึ่งตนเองได้พยายามติดต่อสามีแต่ไม่สามารถติดต่อได้แต่จะมีข้อความส่งกลับมาจากทางสามีว่าอยู่กับลูกค้า ทั้ง ๆ ที่ปกติสามีเป็นคนไม่ส่งข้อความ จนเวลาล่วงเลยตั้งแต่ประมาณ 15.00-22.00 น. ทางครอบครัวก็ยังไม่สามารถติดต่อกับนายฮันส์ ปีเตอร์ได้ และสามีก็ยังคงส่งข้อความมาบอกว่าต้องอยู่กับลูกค้ารายนี้เขาเป็นลูกค้ารายสำคัญ จนมาตอนเช้าวันที่ 5 ก.ค.ก็ยังพยายามติดต่อสามีอยู่ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จนมีข้อความสุดท้ายในช่วงเช้าวันที่ 5 ว่าจะอยู่กับลูกค้า ครอบครัวจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ

เรื่องที่นัดหมายคือจะมีลูกค้ามาดูที่ดินที่พัทยา แต่ในข้อความมีการพูดถึงเกาะสมุย ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีการคุยกับตนเองเรื่องเกาะสมุย ตนเองมองว่าสามีถูกจับตัวไปแน่นอน เพราะสามีไม่เคยผิดนัดเรื่องงาน เป็นคนตรงเวลา ไม่ชอบให้ครอบครัวเป็นห่วง และคนที่จับตัวไป ไม่น่าใช่เรื่องที่ดินแล้ว แต่น่าจะเป็นกลุ่มคนที่รู้ว่าสามีตนเองทำธุรกิจอะไรมากกว่า และไม่ทราบว่าเป็นคนกลุ่มไหนมาจับสามีตนเองไปและเรื่องอะไร แต่ก็อยากให้ปล่อยสามีตนเอง ส่วนคนที่ตำรวจเชิญมาเมื่อวาน ไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน โดยครอบครัวยังคงสงสัย คนที่ปรากฏในวงจรปิด แต่ต้องรอดให้ตำรวจตรวจสอบในประเด็นนี้

พร้อมฝากถึงคนที่พาสามีไปขอให้ปล่อยตัว อยากได้อะไรให้มาคุยกัน ไม่ใช่เก็บตัวสามีตนเองไปแล้วหายเงียบแบบนี้ วันนี้จึงอยากให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ช่วยตามหาตัวสามี และมั่นใจว่าสามียังอยู่ในประเทศ และหวังว่าจะมีชีวิตกลับบ้าน ตลอดเวลาที่สามีหายตัวไป ยังไม่เคยมีโทรศัพท์มาเรียกเงินแต่อย่างใด ส่วนกระแสข่าวที่ปรากฏในประเทศเพื่อนบ้าน ตนเองยืนยันว่า สามีไม่เคยเดินทางไปแถว ๆ ชายแดนย่านจังหวัดสระแก้ว ด้านลูกชายก็อยากให้เจอพ่อเร็ว ๆ เพราะครอบครัวเป็นห่วง ส่วนคนที่ตำรวจเอาตัวไปสอบเมื่อวานก็เห็น ที่ สภ.ตนเองฟังออกว่ามีการสื่อสารอะไรกับตำรวจ แต่ยังไม่ขอเปิดเผย


ขณะที่มีรายงานในคดีว่า เบื้องต้นหลังจากที่ทางตำรวจได้พบกับรถยนต์คันที่หายไปพร้อมกับตัวนายฮันส์ ปีเตอร์ ต่อมาตำรวจได้มี เชิญตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 3 ราย ชาวเยอรมัน ไปให้ปากคำในฐานะพยาน ซึ่งการให้ปากคำตลอดคืนที่ผ่านมายังไม่ค่อยเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมากนัก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ รวมถึงตำรวจยังได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ซึ่งขณะนี้พบข้อมูลของความเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปในครั้งนี้

ขณะที่การตรวจสอบเส้นทางการเงินของทางนายฮันส์ ปีเตอร์ ตอนนี้พบมีการโอนเงินออกจากแอพพลิเคชั่นธนาคารของ นายฮันส์ ปีเตอร์ จำนวนหลายครั้ง รวมยอด 2 ล้านบาท ซึ่งการโอนดังกล่าวเป็นการโอนอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบบัญชีรับโอนปลายทาง

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 และชุดสืบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุเพื่อติดตามตัวนายฮันส์ ปีเตอร์ ชาวเยอรมัน ที่ได้หายออกจากบ้าน เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่าตอนนี้ยังไม่พบเบาะแสร่องรอยของตัวผู้สูญหาย แต่พบรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์สีเทาจอดทิ้งไว้ในพื้นที่ อ.หนองปรือ จังหวัดชลบุรี และขยายผล เชิญตัวผู้ต้องสงสัยในคดี เป็นหญิงทำหน้าที่ชี้เป้า 1 คน และผู้ต้องสงสัยอีก 1 คน คือนายโอลาฟ รับโอนเงิน ซึ่งยังให้การปฏิเสธ เนื่องจากมีการคุยกับทนายความมาก่อนแล้วถึงแนวทางที่จะให้การกับเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลคดีนี้ พบว่า ผู้ก่อเหตุมีการวางแผนเตรียมการมาเป็นอย่างดี ส่วนมูลเหตุขณะนี้เชื่อว่าประสงค์ต่อทรัพย์เนื่องจากผู้สูญหายมีทรัพย์สินจำนวนมาก และในช่วงที่หายตัวไปมีการโอนเงินออกจากบัญชี ขณะเดียวกันพบว่ามีการพยายามทำลายหลักฐาน โดยพบสารเคมีบางชนิดอยู่ภายในรถ ซึ่งก็อยู่ระหว่างรอผลจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานว่าเป็นสารชนิดใด และจะต้องไล่ดูกล้องวงจรปิดให้ครบเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สิ่งสำคัญ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งติดตามตัวผู้สูญหายมาให้ได้โดยเร็วไม่ว่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพื่อให้ความจริงปรากฏ และสร้างความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยว เพราะไม่อย่างนั้น การอุ้มหายดังเช่นกรณีดังกล่าว ทั้งชาวจีนหรือชาวเยอรมัน รวมทั้งชาวต่างชาติ จะทำให้นักท่องเที่ยวไม่มีความเชื่อมั่นในความปลอดภัยเมื่อมาประเทศไทย. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]