fbpx

ญาตินักธุรกิจเยอรมันร้อง “บิ๊กโจ๊ก” ช่วยตามหาตัว

10 ก.ค. – ญาติร้อง “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” รอง ผบ.ตร. ช่วยตามหานักธุรกิจชาวเยอรมันที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. หลังพบรถยนต์แล้ว ด้าน “บิ๊กโจ๊ก” เผยขณะนี้ยังไม่พบตัวนักธุรกิจชาวเยอรมัน แต่มูลเหตุเชื่อว่าประสงค์ต่อทรัพย์และทำเป็นขบวนการ


จากกรณีที่มีญาติประกาศให้ช่วยติดตามนายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค อายุ 62 ปี ชาวเยอรมัน ที่ได้หายออกจากบ้าน เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมรถเบนซ์สีเทา พร้อมระบุว่าหากผู้ใดพบเห็นเจอรถคันดังกล่าว จะให้รางวัล 100,000 บาท แต่หากพบตัวผู้สูญหาย และยังมีชีวิตอยู่จะให้ 3 ล้านบาท โดยญาติได้เข้าแจ้งความคนหาย กับ สภ.หนองปรือ ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนายฮันส์ได้หายออกจากหมู่บ้านสวิตพาราไดร์ โดยมีหลักฐานคลิปจากกล้องวงจรปิด

ก่อนที่ในเวลาต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ จะพบกับรถยนต์คันดังกล่าวเมื่อวานนี้ (9 ก.ค.) บริเวณที่จอดรถชั่วคราว ของซีซีคอนโด จังหวัด ชลบุรี และมีการเก็บหลักฐานเพิ่มเติมจากการตรวจสอบสิ่งผิดปกติภายในรถคันดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย


วันนี้ที่สมาคมพนักงานสอบสวน สโมสรตำรวจ ครอบครัวนายฮันส์ ปีเตอร์ ซึ่งมีภรรยาชาวไทย 2 คน และลูกชาย 2 คน เดินทางพร้อมตัวแทนมูลนิธิวินวิน เข้าพบกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ช่วยเหลือตามหาตัว นายฮันส์ ปีเตอร์ โดยภรรยาคนล่าสุดของนายฮันส์ ปีเตอร์ ระบุว่าในวันเกิดเหตุมีการนัดหมายกับทางสามีว่าจะไปดูที่ดินกันโดยสามีบอกว่าจะไปหาลูกค้าก่อน จนเมื่อถึงเวลานัดหมาย สามีก็ไม่มาตามนัด และเมื่อทางครอบครัวพยายามติดต่อ ซึ่งตนเองได้พยายามติดต่อสามีแต่ไม่สามารถติดต่อได้แต่จะมีข้อความส่งกลับมาจากทางสามีว่าอยู่กับลูกค้า ทั้ง ๆ ที่ปกติสามีเป็นคนไม่ส่งข้อความ จนเวลาล่วงเลยตั้งแต่ประมาณ 15.00-22.00 น. ทางครอบครัวก็ยังไม่สามารถติดต่อกับนายฮันส์ ปีเตอร์ได้ และสามีก็ยังคงส่งข้อความมาบอกว่าต้องอยู่กับลูกค้ารายนี้เขาเป็นลูกค้ารายสำคัญ จนมาตอนเช้าวันที่ 5 ก.ค.ก็ยังพยายามติดต่อสามีอยู่ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จนมีข้อความสุดท้ายในช่วงเช้าวันที่ 5 ว่าจะอยู่กับลูกค้า ครอบครัวจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ

เรื่องที่นัดหมายคือจะมีลูกค้ามาดูที่ดินที่พัทยา แต่ในข้อความมีการพูดถึงเกาะสมุย ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีการคุยกับตนเองเรื่องเกาะสมุย ตนเองมองว่าสามีถูกจับตัวไปแน่นอน เพราะสามีไม่เคยผิดนัดเรื่องงาน เป็นคนตรงเวลา ไม่ชอบให้ครอบครัวเป็นห่วง และคนที่จับตัวไป ไม่น่าใช่เรื่องที่ดินแล้ว แต่น่าจะเป็นกลุ่มคนที่รู้ว่าสามีตนเองทำธุรกิจอะไรมากกว่า และไม่ทราบว่าเป็นคนกลุ่มไหนมาจับสามีตนเองไปและเรื่องอะไร แต่ก็อยากให้ปล่อยสามีตนเอง ส่วนคนที่ตำรวจเชิญมาเมื่อวาน ไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน โดยครอบครัวยังคงสงสัย คนที่ปรากฏในวงจรปิด แต่ต้องรอดให้ตำรวจตรวจสอบในประเด็นนี้

พร้อมฝากถึงคนที่พาสามีไปขอให้ปล่อยตัว อยากได้อะไรให้มาคุยกัน ไม่ใช่เก็บตัวสามีตนเองไปแล้วหายเงียบแบบนี้ วันนี้จึงอยากให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ช่วยตามหาตัวสามี และมั่นใจว่าสามียังอยู่ในประเทศ และหวังว่าจะมีชีวิตกลับบ้าน ตลอดเวลาที่สามีหายตัวไป ยังไม่เคยมีโทรศัพท์มาเรียกเงินแต่อย่างใด ส่วนกระแสข่าวที่ปรากฏในประเทศเพื่อนบ้าน ตนเองยืนยันว่า สามีไม่เคยเดินทางไปแถว ๆ ชายแดนย่านจังหวัดสระแก้ว ด้านลูกชายก็อยากให้เจอพ่อเร็ว ๆ เพราะครอบครัวเป็นห่วง ส่วนคนที่ตำรวจเอาตัวไปสอบเมื่อวานก็เห็น ที่ สภ.ตนเองฟังออกว่ามีการสื่อสารอะไรกับตำรวจ แต่ยังไม่ขอเปิดเผย


ขณะที่มีรายงานในคดีว่า เบื้องต้นหลังจากที่ทางตำรวจได้พบกับรถยนต์คันที่หายไปพร้อมกับตัวนายฮันส์ ปีเตอร์ ต่อมาตำรวจได้มี เชิญตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 3 ราย ชาวเยอรมัน ไปให้ปากคำในฐานะพยาน ซึ่งการให้ปากคำตลอดคืนที่ผ่านมายังไม่ค่อยเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมากนัก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ รวมถึงตำรวจยังได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ซึ่งขณะนี้พบข้อมูลของความเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปในครั้งนี้

ขณะที่การตรวจสอบเส้นทางการเงินของทางนายฮันส์ ปีเตอร์ ตอนนี้พบมีการโอนเงินออกจากแอพพลิเคชั่นธนาคารของ นายฮันส์ ปีเตอร์ จำนวนหลายครั้ง รวมยอด 2 ล้านบาท ซึ่งการโอนดังกล่าวเป็นการโอนอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบบัญชีรับโอนปลายทาง

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 และชุดสืบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุเพื่อติดตามตัวนายฮันส์ ปีเตอร์ ชาวเยอรมัน ที่ได้หายออกจากบ้าน เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่าตอนนี้ยังไม่พบเบาะแสร่องรอยของตัวผู้สูญหาย แต่พบรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์สีเทาจอดทิ้งไว้ในพื้นที่ อ.หนองปรือ จังหวัดชลบุรี และขยายผล เชิญตัวผู้ต้องสงสัยในคดี เป็นหญิงทำหน้าที่ชี้เป้า 1 คน และผู้ต้องสงสัยอีก 1 คน คือนายโอลาฟ รับโอนเงิน ซึ่งยังให้การปฏิเสธ เนื่องจากมีการคุยกับทนายความมาก่อนแล้วถึงแนวทางที่จะให้การกับเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลคดีนี้ พบว่า ผู้ก่อเหตุมีการวางแผนเตรียมการมาเป็นอย่างดี ส่วนมูลเหตุขณะนี้เชื่อว่าประสงค์ต่อทรัพย์เนื่องจากผู้สูญหายมีทรัพย์สินจำนวนมาก และในช่วงที่หายตัวไปมีการโอนเงินออกจากบัญชี ขณะเดียวกันพบว่ามีการพยายามทำลายหลักฐาน โดยพบสารเคมีบางชนิดอยู่ภายในรถ ซึ่งก็อยู่ระหว่างรอผลจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานว่าเป็นสารชนิดใด และจะต้องไล่ดูกล้องวงจรปิดให้ครบเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สิ่งสำคัญ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งติดตามตัวผู้สูญหายมาให้ได้โดยเร็วไม่ว่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพื่อให้ความจริงปรากฏ และสร้างความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยว เพราะไม่อย่างนั้น การอุ้มหายดังเช่นกรณีดังกล่าว ทั้งชาวจีนหรือชาวเยอรมัน รวมทั้งชาวต่างชาติ จะทำให้นักท่องเที่ยวไม่มีความเชื่อมั่นในความปลอดภัยเมื่อมาประเทศไทย. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ลาบูบู้ เที่ยววัดพระแก้ว – ททท.จ่อดึงน้องเนย ร่วมโปรโมตท่องเที่ยว

ลาบูบู้ เริ่มภารกิจโปรโมตท่องเที่ยวไทย แต่งชุดไทยไปวัดพระแก้ว ขณะที่ ททท.เตรียมดึง Butter Bear หรือ “น้องเนย” ร่วมโปรโมตท่องเที่ยว ดึงแฟนคลับจีนมาเที่ยวไทย

ตามหา “โยเซฟ” คนดวงเฮงถูกรางวัลปีเดียว 2 หน รวย 114 ล้าน

หลังมีข่าว นายโยเซฟ หัวหน้าองค์กรช่วยเหลือผู้ลี้ภัย และพลัดถิ่นชาวเมียนมา ดวงเฮง 4 เดือน ถูกรางวัลที่ 1 ถึง 2 ครั้ง รวมเงินรางวัล 114 ล้านบาท ทำให้นักข่าวหลายสำนักต่างตามหาตัว เพื่อพูดคุยยืนยันความโชคดี

ข่าวแนะนำ

ลุ้น กกต.กลางประกาศรับรอง “ชาญ” นั่งนายก อบจ.ปทุมฯ

กกต.ปทุมฯ ส่งผลเลือกตั้ง “นายก อบจ.ปทุมธานี” แล้ว รอ กกต.กลาง พิจารณาประกาศรับรอง “ชาญ พวงเพ็ชร์” จับตาสนามต่อไป “อยุธยา-ชัยนาท-พะเยา” หย่อนบัตร 4 ส.ค.นี้

แจ้ง 4 ข้อหาหนุ่มใหญ่ซิ่งเก๋งชนรถพังยับ 6 คัน-เจ็บ 7

ตำรวจเร่งสอบปากคำและตรวจประวัติหนุ่มใหญ่ซิ่งเก๋งชนยับ 6 คัน บาดเจ็บ 7 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 1 คน พร้อมแจ้ง 4 ข้อหา ก่อนให้ประกันตัวโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์

ศาลนัด “บิ๊กโจ๊ก-อัจฉริยะ” คู่ความไต่สวนคดีหมิ่นประมาทนัดแรก

ศาลอาญากรุงเทพฯ ใต้ นัด “บิ๊กโจ๊ก-อัจฉริยะ” คู่ความไต่สวน คดีหมิ่นประมาท ด้าน “บิ๊กโจ๊ก” ลั่นจะถอนฟ้องทุกคนรวมทั้งนายกฯ เมื่อได้กลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น