fbpx

ช่วย 2 พี่น้องถูกแม่ติดยาบังคับทำอนาจาร แลกเงินซื้อยาบ้า

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – “สายไหมต้องรอด” บุกช่วย 2 พี่น้องในชุมชนป่ากล้วย ย่านจตุจักร หลังถูกแม่ติดยาบังคับให้ผู้ชายมาทำอนาจารลูก แลกเงินซื้อยาบ้า


เวลา 10.00 น. วันที่ 9 ก.ค.66 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และตำรวจ สน.ประชาชื่น ลงพื้นที่ชุมชนป่ากล้วย ถ.เลียบทางรถไฟ แขวงและเขตจตุจักร เพื่อเข้าช่วยเหลือเด็กสาว 2 พี่น้อง อายุ 11 ปี และ 16 ปี ที่ถูกแม่ อายุ 52 ปี ซึ่งมีพฤติกรรมเสพยาบ้า บังคับและทำร้าย ให้ผู้ชายมากระทำอนาจาร เพื่อแลกกับเงิน แล้วนำไปซื้อยาบ้าเสพ โดยทางเพจสายไหมต้องรอด ได้รับร้องเรียนจากหญิงสาวอายุ 19 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของเด็กสาวผู้เสียหายทั้งสอง เพื่อขอให้ไปช่วยเหลือ ซึ่งเมื่อทั้ง 3 พี่น้องได้พบเจอกัน ต่างก็กระโดดเข้าโผกอดร่ำไห้ด้วยความดีใจที่มีคนมาช่วยเหลือ

พี่สาว อายุ 19 ปี คนที่ไปร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอด เล่าว่า แม่มีลูกทั้งหมด 8 คน จาก 3 สามี ซึ่งตนเองและน้องอีก 2 คน เป็นลูกของพ่อคนที่ 3 ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว เมื่อก่อนตอนที่ตนเองยังพักอาศัยอยู่กับแม่ ก็ถูกบังคับให้กระทำในลักษณะดังกล่าวตั้งแต่อายุ 11 ปี จนทนไม่ไหวต้องหนีออกจากบ้านมาตั้งแต่อายุ 16 ปี แต่ก็ไปมาหาสู่ติดต่อกับน้องสาวอยู่ตลอด จึงรู้พฤติกรรมของแม่ที่ทำกับน้องสาวคนที่อายุ 16 ปี มาอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับที่ตนเองถูกกระทำ คือให้ผู้ชายมากระทำอนาจาร แล้วให้เงินกับแม่ เพื่อนำไปเสพยาบ้า ซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่ก็เป็นคนในชุมชนนั่นเอง โดยชาวบ้านในชุมชนก็รับรู้เรื่องราวที่น้องสาวของตนถูกแม่กระทำมาตลอด แต่ก็ไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือแต่อย่างใด ส่วนน้องสาวอายุ 16 ปี บอกว่า อยากฆ่าตัวตาย ตนจึงต้องหาหนทางเพื่อรีบช่วยเหลือน้องทั้งสองออกมาให้ได้


ขณะที่ตำรวจควบคุมตัวแม่ไปสอบสวน โดยได้ปฏิเสธว่า ไม่เคยมีพฤติกรรมดังกล่าวที่บังคับลูกให้ผู้ชายกระทำอนาจาร เพื่อแลกกับเงินแต่อย่างใด พร้อมกับตรวจหาสารเสพติดในร่างกายด้วย

นายเอกภพ เปิดเผยว่า หลังได้รับการร้องเรียนก็ตรวจสอบข้อมูล พบว่าแม่ของเด็กมีพฤติการณ์ดังกล่าวจริง จึงเร่งมาให้ความช่วยเหลือโดยเร็ว เพราะแม่ของเด็กผู้เสียหายมีพฤติกรรมเหมือนไม่ใช่แม่คน อีกทั้งยังฝากว่า หากผู้ใดพบเห็นการกระทำความรุนแรงเกิดขึ้นภายในครอบครัวในลักษณะดังกล่าว ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความช่วยเหลือ ไม่ควรนิ่งเฉยหรือปล่อยผ่าน เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องของครอบครัวคนอื่น

ด้าน พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ซึ่งได้มาติดตามคดีนี้ด้วยตนเอง เปิดเผยว่า จะเชิญสหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคำเด็กผู้เสียหาย ส่วนแม่เด็กผู้เสียหายนั้น จะต้องสอบปากคำเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในการแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดข้อหาค้ามนุษย์ อีกทั้งยังได้ส่งไปให้แพทย์ตรวจร่างกาย เพื่อหาสารเสพติด


ส่วนนายเรืองศักดิ์ กลับเนียม พนักงานเจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัว กทม. เปิดเผยว่า จะพาเด็กสาวผู้เสียหายทั้งสองคนไปพักอาศัยและฟื้นฟูสภาพจิตใจ ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จนกว่าสภาพจิตใจและร่างกายจะเป็นปกติ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้