รวบ “เจ๊เล็ก” ลวงข่มขืนสาวอยากเข้าวงการบันเทิง

กรุงเทพฯ 8 ก.ค. – สืบนครบาลรวบ “เจ๊เล็ก” อ้างเป็นโมเดลลิ่ง ลวงสาวอยากเข้าวงการบันเทิงมาข่มขืน เคยถูกจับ และสารภาพก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง ทำมานานเกือบ 20 ปี


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ ติดตามจับกุมตัว นายสนธิชัย หรือ “เจ๊เล็กหรือบัว” อายุ 60 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.2007/2566 ลงวันที่ 27 มิ.ย.66 โดยกล่าวหาว่า พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้และกระทำอนาจาร และพบประวัติการเคยถูกจับกุมและดำเนินคดีในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราฯ” เมื่อปี 2558 พื้นที่ สน.พญาไท

พฤติการณ์กล่าวคือ “เจ๊เล็กหรือบัว” ก่อเหตุข่มขืนหญิงสาวมาอย่างโชกโชน โดยเจ้าตัวเคยถูกชุดสืบนครบาล จับกุมเมื่อปี พ.ศ.2558 ในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราฯ” และเคยสารภาพไว้กับชุดจับกุมว่าทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง ล่าสุดได้พ้นโทษออกมาแล้วเมื่อ 20 พ.ค.65 แต่ไม่ได้กลับตัวกลับใจแต่อย่างใด ตระเวนลงมือก่อเหตุข่มขืนเหยื่อเช่นเดิม โดยช่วงแรกที่คนร้ายเริ่มตระเวนก่อเหตุหลังพ้นโทษออกมา เจ้าหน้าที่ในแต่ละท้องที่ยังไม่สามารถยืนยันตัวคนร้ายได้ เนื่องจากปลอมเป็นสาวประเภทสอง แมวมองขั้นเทพหานางแบบ นักร้อง นักแสดง ใช้จิตวิทยาลวงเหยื่อไปก่อเหตุ และที่สร้างความพิศวงกับเจ้าหน้าที่ที่สุดคือ เหยื่อทุกรายต่างไม่ทราบว่าคนร้ายคือใคร ไม่ทราบข้อมูลใดๆ ของคนร้ายเลยเพียงสักนิดเดียว จำได้เพียงใบหน้าและการกระทำ ทำให้เจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามได้อย่างยากลำบาก


โดยเบาะแสเบื้องต้นมีผู้ตกเป็นเหยื่อไม่ต่ำกว่า 30 ราย แต่ส่วนใหญ่จะไม่กล้าแจ้งความดำเนินคดีเพราะอับอาย และส่วนใหญ่ก็ไม่ทราบว่าคนร้ายมีชื่อนามสกุลจริงใด พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. วิเคราะห์คนร้ายรายนี้แล้วไม่ใช่อาชญากรทั่วไปได้รายงานให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ทราบ จึงจัดทีมสืบสวนมือดี แกะรอยจนพบ “ลายเซ็น” อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ เจ๊เล็ก โดยมีแผนประทุษกรรม ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 66 ได้ลงมือล่อลวงหญิงสาวรายหนึ่งโดยล่อลวงจากที่ห้างชื่อดัง ย่านลาดพร้าว โดยอ้างว่าตนเองชื่อ “บัว” และอ้างว่าเป็นหุ้นส่วนของห้างดังกล่าว และเป็นโมเดลลิ่งแมวมองหานางแบบมาถ่ายแบบ ก่อนใช้จิตวิทยาพาไปที่ลับตาภายในห้างขอดูสัดส่วนแบบวับๆแวมๆ เมื่อเห็นเหยื่อหลงเชื่อและยินยอม ก็ออกอุบายต่อว่าจะขอดูห้องพักของเหยื่อ เพื่อประเมินสภาพแวดล้อมของตัวนางแบบ ด้วยลักษณะท่าทางและการพูดเชิงจิตวิทยาทำให้เหยื่อเชื่อว่าคนร้ายเป็นคนในวงการบันเทิงจริงๆ และทางกายภาพเป็นสาวประเภท 2 ทำให้เหยื่อหลงเชื่อพาคนร้ายเดินทางไปที่ห้องพัก เมื่อเข้าห้องกับเหยื่อ สลับคราบสาว 2 ลงมือข่มขืนเหยื่อแต่ไม่สำเร็จ แล้วหลบหนีไป

โดยจัดทีม พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ กับพวกกระจายกำลังแฝงตัวตามห้างดังในพื้นที่ จ.กรุงเทพฯ เป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่แฝงตัวได้พบกับชายต้องสงสัยรายหนึ่ง มีพฤติกรรมใกล้เคียงกับแผนประทุษกรรมของคนร้าย คือนั่งมองเหล่าเด็กผู้หญิง และบางครั้งมีการเข้าไปพูดคุยทั้งที่ไม่ได้รู้จักกัน สะกิดสัญชาตญาณนักสืบแอบติดตามชายต้องสงสัยคนดังกล่าวไปจนทราบว่า คืออาชญากรต่อเนื่องผู้เลื่องชื่อที่ถูกจับกุมไปเมื่อปี 2553 และ 2558 คือ นายสนธิชัย หรือเจ๊เล็ก โดยสมัยนั้นถูกจับกุมในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราฯ” และสารภาพไว้กับชุดจับกุมในสมัยปี 2558 ว่า “ก่อเหตุลักษณะนี้ 14 คดี ยอมรับว่าทั้งชีวิตทำมาแล้ว 100 กว่าราย มีทั้งข้าราชการ ผู้บริหารบริษัทดังใหญ่ๆ และนักศึกษาระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ที่มีเงินโดยจะใช้เวลาพูดคุยหว่านล้อมรายละ 2 นาที”

การจับกุมในปี 2558 นั้นคนร้ายรายนี้ได้รับโทษและเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อ 20 พ.ค.65 และตระเวนลงมือก่อเหตุข่มขืนเหยื่อเช่นเดิม พล.ต.ต.ธีรเดช ย้อนขุดประวัติคนร้าย ตั้งแต่ ปี 2535-2552 เจ๊เล็กเปลี่ยนงานมาแล้วประมาณ 15 ที่ ทำมาตั้งแต่ก่อสร้าง คนขับรถขนส่ง โรงงานชิ้นส่วนรถยนต์ เครื่องจักร บริษัทที่ปรึกษา จัดหางาน รปภ. งานติดตั้งผ้าม่านและแต่ละที่ส่วนใหญ่จะทำงาน ไม่เกิน 1-5 เดือน ก็เปลี่ยนงานใหม่ ส่วนใหญ่จะวนเวียนหางานเปลี่ยนไปเรื่อยแต่ในพื้นที่ กทม. ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง กระทั่ง พ.ศ.2552 ได้เริ่มเข้ามารู้จักในคนแวดวงการบันเทิงและผุดไอเดียวิปริต หลอกข่มขืนเหยื่อหญิงสาวผู้ที่อยากเข้าวงการบันเทิง


ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวเป็นหญิงสาวเดินตามห้างดัง ในกรุงเทพ จนกระทั่งสืบสวนจนติดตามจับกุมได้ในที่สุด โดยจับได้ที่ห้องพักไม่มีเลขที่ ชุมชนริมทางรถไฟสายแปดริ้ว แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต กรุงเทพ เมื่อเวลา 15.20 น. วันที่ 8 ก.ค.66 อยู่กับหญิงสาวรายหนึ่ง ในชั้นจับกุม นายสนธิชัย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าต้องมีกล้องวงจรปิดมาเป็นหลักฐาน และสาวๆ ยินยอมพร้อมใจเอง เมื่อธุรกิจไม่สำเร็จจึงถูกแจ้งความ หลังจากจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัว ส่งที่ สน.บางซื่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “แผนประทุษกรรมคนร้ายจะใช้ “วันเสาร์-อาทิตย์” สรรหาเหยื่อตามห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่ต่างๆ ที่เดินทางไป และคัดเลือกเหยื่อที่เป็นหญิงสาววัยรุ่น หน้าตาดีที่มีความใฝ่ฝันจะเป็นนางแบบ หรือดารานักแสดง จากนั้นจะเข้าตีสนิทโดยแสร้งเป็นสาวประเภท2 และใช้ตัวตนปลอมโดยอ้างว่าตนเองเป็นโมเดลลิ่งสามารถพาเข้าวงการบันเทิงได้ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อก็จะถูกพาเข้าโรงแรมโดยจะอ้างว่าไปเพื่อดูรูปร่างสัดส่วน หรือการแคสติง ซึ่งความเป็นจริงเมื่อไปถึงที่โรงแรมก็จะลงมือข่มขืนเหยื่อ และเหยื่อเกือบทั้งหมดไม่กล้าแจ้งความ หรือไม่ทราบชื่อว่าคนร้ายเป็นผู้ใด จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้เคยตกเป็นเหยื่อโปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย