สโมสรตำรวจ 7 ก.ค. – “บิ๊กโจ๊ก” ระบุรอ ปปป. ตรวจสอบลูกน้อง หลังถูก “อัจฉริยะ” ร้องเรียน ปมตบทรัพย์เว็บพนัน 140 ล้านบาท หากพบกระทำผิดจริงต้องให้ออกและดำเนินการทางวินัย ย้ำไม่ช่วยเหลือลูกน้องที่กระทำชั่ว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าสำนวนคดีตำรวจรีดเงินผู้ต้องหาเว็บพนันออนไลน์ 140 ล้านบาท ว่า วันนี้มีการออกหมายจับตำรวจที่เข้าร่วมตรวจค้นเพิ่มอีก 1 ราย ส่วนเมื่อวานนี้ที่มีการออกหมายจับ 5 ราย เป็นตำรวจ 3 ราย และพลเมือง 2 รายนั้น ทั้งหมดได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา และประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนแล้ว โดยใช้หลักทรัพย์รายละ 200,000 บาท
สำหรับตอนนี้สำนวนคดีคืบหน้ามากแล้ว รอเพียงเส้นทางการเงินที่จะได้ครบสมบูรณ์ในสัปดาห์หน้า ก็จะเห็นภาพรวมความเชื่อมโยงครบทั้งกระบวนการว่าเงินทั้งหมดเข้าไปที่ใครบ้าง ซึ่งตอนนี้ใครจะให้การจริงหรือโกหก ก็ไม่เป็นไร เพราะหลักฐานเส้นทางการเงินเปลี่ยนแปลงไม่ได้
ส่วนกรณีที่มีการไปร้องเรียนว่าการทำคดีนี้ มีการบังคับข่มขู่พยานให้การเท็จ ขอยืนยันว่า ไม่มีแน่นอน ตนทำงานอย่างเปิดเผยและโปร่งใส การสอบสวนทำในสถานที่ราชการทั้งหมด ยืนยันว่าจะไม่เสียสมาธิในการทำงาน เพราะความจริงก็คือความจริง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า คดีนี้เป็นการจับตำรวจด้วยกันเอง เป็นเรื่องปกติที่ต้องเจอกับการพยายามทำให้ชุดทำงานไม่มีความน่าเชื่อถือ แต่ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไร ก็ไม่ถือโทษโกรธ เพราะไม่ใช่คู่กรณีหรือศัตรูใคร ตนเป็นผู้รักษากฎหมายต้องยึดหลักการและผลประโยชน์ของส่วนรวม
สำหรับกรณีของ รอง ผบก.สส.สตม. หนึ่งในชุดทำงานของตนที่ถูกนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พาดพิงว่าเป็นผู้ช่วยเหลือนายบอย ให้หลบหนีออกนอกประเทศนั้น ได้สั่งการให้ชุดทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว หากพบว่ากระทำผิดจริง ยืนยันว่าจะไม่มีการช่วยเหลือ ยิ่งเป็นลูกน้องในชุดทำงาน ก็จะต้องโดน 2 เท่าด้วย ไม่มีปกป้องลูกน้องที่กระทำเรื่องชั่ว ๆ เพราะตำรวจที่ทำงานดีก็มีเยอะ ต้องทำให้เห็นเป็นขวัญกำลังใจ
ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายอัจฉริยะแล้ว หลังจากนายอัจฉริยะ ไปร้องเรียนที่ บก.ปปป. ยืนยันว่าให้อำนาจ บก.ปปป.สอบสวนอย่างตรงไปตรงมา โดยตนจะรอรายงานสรุปสำนวนการสอบสวน หาก บก.ปปป. ชี้ว่ามีมูลความผิดจริง ก็ต้องให้ออกจากชุดทำงาน และดำเนินการทางวินัยไปด้วย โดยใครทำอะไรไว้ต้องรับผิดชอบ แค่มีภาพไปปรากฏอยู่ในห้อง สังคมก็ตั้งคำถามแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องให้ความเป็นธรรม จะให้ออกโดยที่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนไม่ได้
ส่วนที่นายอัจฉริยะ อ้างว่ามีการติดต่อพูดคุยกับนายบอย ที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศนั้น ตนจะไม่ติดต่อนายบอย เพราะเป็นผู้ต้องหา เว้นแต่นายบอย จะติดต่อมาขอมอบตัวเอง ซึ่งยืนยันคำเดิมว่าไม่มีเงื่อนไขที่จะให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน โดยตอนนี้นายบอย ไม่ได้มีการติดต่อมาว่าจะเข้ามอบตัว เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องติดตามไล่ล่าต่อไป แต่เชื่อว่าการหลบหนีอยู่ต่างประเทศนั้น อยู่อย่างลำบาก เพราะได้ประสานกระทรวงการต่างประเทศให้เพิกถอนหนังสือเดินทางแล้ว.-สำนักข่าวไทย