“แจ๊บ” ขอใช้สิทธิตามกฎหมาย ไม่ยอมทำแผนฯ

กรุงเทพฯ 5 ก.ค.- “แจ๊บ” ขอใช้สิทธิตามกฎหมาย ไม่ยินยอมทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ด้านตำรวจยันไม่ทำแผนฯ ไม่กระทบสำนวน ยันมีหลักฐาน​แน่นมัดตัวผู้ต้องหา


ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (5 ก.ค.) หลังจากที่ตำรวจจับกุมนายยุทธนา หรือแจ๊บ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุทำร้ายร่างกายเด็กหญิงอายุ 12 ปี เสียชีวิต อำพรางศพโดยการยัดร่างลงถังน้ำแข็ง และโบกทับด้วยปูน ช่วงเช้าตำรวจนำตัวผู้ต้องหาออกจากห้องคุมขัง มาพิมพ์ลายนิ้วมือ และเค้นสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ก่อนที่จะมีการนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

แต่ปรากฏว่าหลังจากที่ตำรวจสอบปากคำแล้วเสร็จในช่วงเวลา 14:00 น. นายแจ๊บ ขอใช้สิทธิตามกฎหมาย ไม่ประสงค์ที่จะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ


ด้าน พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน ลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ผู้ต้องหาไม่ยินยอมที่จะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งเป็นสิทธิตามกฎหมายที่ทำได้ แต่ทางตำรวจมีหลักฐานเพียงพอแล้ว โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ที่เห็นว่านายแจ๊บ เป็นคนลงมือทำร้ายเด็กหญิงจนเสียชีวิตเพียงคนเดียว

ส่วนที่มีการกล่าวว่า มิ้นท์ ร่วมก่อเหตุนั้น จากการตาวจสอบกล้องวงจรปิด ยังไม่พบว่า มิ้นท์ เป็นคนลงมือใช้ไม้ตีน้อง แต่พบว่ามิ้นท์มีพฤติกรรมร่วมกันกับแจ๊บ ในการอำพราง ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานฐานร่วมกันอำพราง

นอกจากนี้ ตำรวจยังนำถังน้ำแข็ง ผ้าห่ม และหลักฐานอื่น ๆ ที่พบในที่เกิดเหตุ นำส่งกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจหาลายนิ้วมือแฝง DNA เพื่อนำมาเป็นหลักฐานในสำนวน เทียบเคียงมัดตัวผู้ก่อเหตุ


ขณะที่เรื่องของปมการติดพนันออนไลน์ของนางสาวมิ้นท์ และเรื่องที่มีการกล่าวว่า เด็กขโมยเงินหลักแสนไปเล่นพนันออนไลน์ ตำรวจจะมีการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากนี้ตำรวจจะเร่งรวบรวมหลักฐาน เพื่อเตรียมส่งตัวผู้ต้องหาส่งฝากขังศาลอาญารัชดา ในวันพรุ่งนี้เวลา 10.00 น. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน ว่าจะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจร้านโชว์ห่วยบริเวณซอยพหลโยธิน 48 แยก 21 ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเกิดเหตุไปเพียง 1 ซอย และเป็นร้านที่นายแจ๊บ ไปซื้อดินปลูกต้นไม้ นำไปอำพรางร่างของเด็กหญิงอายุ 12 ปี สอบถามเจ้าร้านเผยว่า ไม่รู้จักกับนายแจ๊บ และไม่รู้ว่านายแจ๊บมาซื้อดินปลูกต้นไม้วันไหน ตกใจตอนที่มีสื่อมวลชนเข้ามาที่ร้าน ถึงรู้ว่าตัวเองขายดินให้ เพราะการซื้อขายดินขายให้เหมือนลูกค้าทั่วไป ใครมาซื้อก็ขาย โดยที่ไม่รู้ว่านำไปทำอะไร ราคาดิน 1 ถุง ราคา 20 บาท 3 ถุง 50 บาท และถ้าซื้อ 100 บาท จะได้ 7 ถุง และตอนนี้ก็ยังจำไม่ได้ ว่าลูกค้าคนดังกล่าวซื้อไปกี่ถุง เพราะจำหน้าไม้ได้ ลูกค้าส่วนใหญ่จะใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าอยู่แล้ว

และที่ร้านก็ติดกล้องวงจรปิดแค่ตัวเดียว คือบริเวณโต๊ะเก็บเงิน จึงไม่มีหลักฐานเอามายืนยัน รวมถึงตั้งแต่เกิดเหตุก็ยังไม่มีตำรวจติดต่อมาแต่อย่างใด แต่ถ้าตำรวจมาสอบปากคำก็ยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง

นอกจากนี้ สื่อยังไปที่ร้านขายวัสดุก่อสร้างในซอยพหลโยธิน 48 แยก 23 ซึ่งอยู่ถัดไปอีก 1 ซอย ที่นายแจ๊บไปซื้อปูนสำเร็จ ทีมข่าวลงพื้นที่ไปสอบถามคนที่อยู่ในร้าน ให้ข้อมูลว่า เคยเห็นนายแจ๊บมาก่อน เนื่องจากเป็นคนในพื้นที่ และเคยมาซื้อของที่ร้านหลายครั้ง และเช้าวันอาทิตย์ที่ 2 ก.ค. นายแจ๊บ ขับรถเก๋งเข้ามาจอดหน้าร้าน ซึ่งมาคนเดียว มาขอซื้อปูนสำเร็จไปจำนวนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าซื้อไปทำอะไร กระทั่งมาเห็นข่าว ว่านายเจ๊บ อำพรางร่างของเด็กหญิง ยัดถังน้ำแข็งโบกปูน ถึงรู้ว่านำไปก่อเหตุ และหลังจากเกิดเหตุ ก็ยังไม่มีตำรวจมาขอไฟล์กล้องวงจรปิด แต่ทางมีภาพวงจรปิด ขณะนายแจ๊บ ขับมาจอดที่ร้านเป็นหลักฐานยืนยัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือนภัย ลั่นยังไม่ได้ SMS แผ่นดินไหว

นายกฯ ลั่น จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือน “กรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือ” ไม่ต้องผ่าน กสทช. ระหว่าง รอ Cell Broadcast เต็มระบบ ก.ค.นี้

ปภ.ยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ใช่ผลจากอาฟเตอร์ช็อก

ปภ.แถลงชี้แจงกรณีสถานการณ์อพยพออกจากอาคาร ยืนยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ได้เป็นผลกระทบจากอาฟเตอร์ช็อก ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก

นายกฯ ติดตามภารกิจช่วยเหลือคนติดซาก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอาคาร สตง.ถล่ม ติดตามภารกิจช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ใต้ซากอาคาร พร้อมให้กำลังใจทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่