ผู้เสียหายหุ้น STARK บุก ปอศ. จี้เอาผิดผู้บริหาร

กรุงเทพฯ 4 ก.ค.-ผู้เสียหายหุ้น STARK กว่า 50 คน นำเอกสารลงทุน ร้องตำรวจ ปอศ. เอาผิดผู้บริหาร หลังได้รับความเสียหายมูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาท


กลุ่มผู้เสียหายกว่า 50 คน ได้รับผลกระทบจากหุ้นกู้ STARK เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. โดยมี พ.ต.อ.ธีรภาพ ยั่งยืน ผกก.กก.3 บก.ปอศ.เป็นตัวแทนรับเรื่องไว้ตรวจสอบ เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชา โดยนำหลักฐานสำเนา FACTSHEET ชี้ชวนลงทุนของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), สำเนาใบหุ้นกู้ ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ออกโดยบริษัท สตาร์คฯ, สำเนาหนังสือ ที่ STARK 030/2566 ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2566, สำเนาหนังสือรับรอง บริษัท สตาร์คฯ ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2566, สำเนาหนังสือรับรอง บริษัท สตาร์คฯ ระหว่างวันที่ 21 พ.ค.2564 ถึงวันที่ 17 เม.ย.2566 เป็นต้น

นายนิว (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เราคือกลุ่มผู้เสียหายจากหุ้นกู้ STARK จำนวนหนึ่งจากทั้งหมดกว่า 4,500 ราย วงเงินความเสียหายกว่า 9,000 ล้านบาท บมจ.สตาร์ค ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสายไฟ สายเคเบิ้ลออกหุ้นกู้ โดยทำงบบัญชีปลอม ซึ่งพบทีหลังและเอาเงินจากพวกเราไปซื้อบริษัทที่เยอรมัน เมื่อรวบรวมทุนจากหุ้นกู้ได้กว่า 10,000 ล้านบาท ก็ล้มทั้งยืน ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ.) โดยรองประธานบริษัทแจ้งว่าบริษัทได้รับความเสียหายเกิดจากการทุจริตในบริษัท


นายนิว กล่าวว่า ต้องการแจ้งความเอาผิดผู้บริหารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของบริษัทสตาร์คฯ โดยมีหลักฐานตามที่นายศรัทธา อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท สตาร์คฯ ให้สัมภาษณ์สื่อฯ ยอมรับตกแต่งบัญชีปลอมด้วยเหตุผลสร้างราคาหุ้น เพื่อให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ได้รับผลประโยชน์ประมาณ 10,000 ล้านบาท ได้มีการสร้างข่าวในองค์กรว่ามีการไปติดต่อรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งที่เรียกว่า “ปลาวาฬ” เพื่อจะเอาไปตกปลาวาฬตัวใหญ่ ซึ่งทีแรกจะซื้อสตาร์ค แต่ไหวตัวทัน ไม่ได้ซื้อ ทำให้สตาร์คต้องหาเงินเอง เนื่องจากการลงทุนที่เวียดนามเกิดปัญหา ซื้อโรงงานผลิตไฟฟ้าที่นั่นมีราคาสูงเกิน ทำให้ธุรกิจไม่ดี จำเป็นต้องหาเงินมาหมุน เพื่อให้บริษัทสตาร์ค เดินไปต่อได้ จึงมีการตกแต่งบัญชีปลอมตั้งแต่ปี 2563 ได้กำไรจากราคาหุ้นก็ไปหลอกธนาคาร 2 แห่ง จากนั้นออกหุ้นกู้หลอกผู้ถือหุ้น 5 รุ่น มูลค่ากว่า 9,200 ล้านบาท  ผู้เสียหายที่มาแจ้งความ ปอศ.วันนี้อยู่ในกลุ่มเจ้าหนี้ เบื้องต้น ผกก.3 บก.ปอศ.ให้พนักงานสอบสวนรับเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ