แจ้งข้อกล่าวหาคนขับปอร์เช่-มินิคูเปอร์ แข่งรถในทางจนเกิดอุบัติเหตุ

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย. – รอง ผบ.ตร.สั่งการ ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา แจ้งข้อกล่าวหาแข่งรถในทางผู้ขับขี่รถปอร์เช่และมินิคูเปอร์ ที่ขับขี่เฉี่ยวชนจนเกิดอุบัติเหตุต่อเนื่อง


​พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 2 กำชับให้ พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงไปกำกับดูแลคดีด้วยตัวเอง กรณีอุบัติเหตุรถมินิคูเปอร์เฉี่ยวชนกับรถเก๋งปอร์เช่ จนเสียหลักพุ่งเข้าร้านขายใบกระท่อม แล้วทับรถจักรยานยนต์เสียหายอีก 1 คัน บริเวณริมถนน 304 ฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม ก่อนจะหมุนไปชนกับรถรับส่งนักเรียนพลิกคว่ำ มีเด็กได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก พร้อมทั้งให้ดำเนินการตามกรอบของกฎหมายทุกมาตราที่เข้าข่ายกระทำผิดอย่างเคร่งครัด โปร่งใส ตรงไปตรงมา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป พร้อมรายงานความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะจนคดีถึงที่สุด

​วานนี้ (26 มิ.ย.66) เวลา 18.00 น. พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา และ พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมพนักงานสอบสวน ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ขับขี่รถเก๋งยี่ห้อปอร์เช่ และผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งยี่ห้อมินิคูเปอร์ ในความผิดฐาน “ขับรถแข่งขันในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือนร้อนของผู้อื่น และขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวและอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนรถผู้อื่นเสียหายและมีผู้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัสและทรัพย์สินเสียหาย และขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด”


คนขับรถทั้งสองรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว พนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และมีความเห็นทางคดี ส่งฟ้องทั้งสองต่อไป

ทั้งนี้ ได้รับแจ้งจาก ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ว่าทั้ง 2 คน มีความสำนึกผิดที่เป็นผู้กระทำให้เหตุดังกล่าวเกิดขึ้น มีเด็กๆ ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย โดยเบื้องต้นได้เข้าไปเยียวยาดูแลขวัญกำลังใจให้กับเด็กๆ ผู้ได้รับบาดเจ็บในส่วนหนึ่งแล้ว

พล.ต.ท.นิธิธร กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ ประกอบด้วยความผิด คือ 1.ฐานแข่งรถในทาง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 5,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ผู้ใดขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 43 (8) ประกอบมาตรา 158/1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 3.ความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหากมีทรัพย์สินเสียหายจากการที่รถยนต์เฉี่ยวชน ผู้ขับขี่จะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานทำให้เสียทรัพย์ ตามมาตรา 358 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากโทษทางอาญาแล้ว ยังต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนทางแพ่งให้กับผู้เสียหายด้วย


​พล.ต.ท.นิธิธร เปิดเผยว่า จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในคดีนั้น พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศจร.ตร. สั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานกล้องวงจรปิดในจุดต่างๆ ที่สามารถพิสูจน์การกระทำความผิดของผู้ขับขี่ทั้ง 2 คัน ที่เข้าข่ายเป็นกระกระทำความผิดฐานแข่งรถในทาง และความผิดฐานต่างๆ ให้ครบถ้วน เพื่อจะได้มีพยานหลักฐานเพียงพอในการดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหากับทั้งสองคน ซึ่งเป็นฝ่ายกระทำผิด และจะได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและมีความเห็นทางคดี ส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสองต่อไป ซึ่ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.รอย กำชับตำรวจให้พร้อมเป็นที่พึ่ง สร้างความเชื่อมั่น เชื่อถือศรัทธาให้ประชาชน และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อนำไปสู่การลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในที่สุด และเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในการกระทำผิดในรายต่อๆ ไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก