ประวัติไม่ธรรมดา “เสี่ยบอย” ใหญ่ถึงขั้นสั่ง ตร.ได้

กทม. 20 มิ.ย. – ปมฉาวตำรวจและพลเรือนถูกกล่าวหาเอี่ยวคดีตบทรัพย์ 140 ล้าน กลุ่มพนันออนไลน์ “บิ๊กโจ๊ก” แย้มทีมตบทรัพย์ 140 ล้าน มีคนเอี่ยวอีกเพียบ ส่วน “บอย” เจ้าของวลี “อยู่เฉยๆ เนียนกริบ” ตอนนี้มีข้อมูลว่าหนีไปกบดานที่สิงคโปร์ ยันต่อให้มามอบตัวก็จะไม่ให้ประกัน เปิดประวัติ “เสี่ยบอย” ไม่ธรรมดา ใหญ่ถึงขั้นสั่งตำรวจได้


“บิ๊กโจ๊ก” แย้มคดีตบทรัพย์ 140 ล้านมีคนเอี่ยวอีกเพียบ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าคดีนี้ว่า เมื่อคืน (19.30 น.) ได้ไปประชุมร่วมกับชุดคลี่คลายคดี การสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้นพบบุคคลเกี่ยวข้อง 10 คน เป็นตำรวจชลบุรี 8 นาย ตำรวจไซเบอร์ 2 นาย และพลเรือนอีก 3 คน ซึ่งในส่วนของตำรวจชลบุรี 5 ใน 8 นาย ให้การรับสารภาพ แต่ผู้การชลบุรีไม่รับสารภาพ และบอกว่าจะส่งคำชี้แจงมาภายใน 5 วัน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ย้ำเป็นเพียงเบื้องต้น เพราะการสืบสวนเชิงลึกล่าสุดพบว่ามีตัวละครที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการรีดไถเพิ่มเติมมากกว่านี้ โดยตำรวจเป็นระดับปฏิบัติการ ไม่ใหญ่ไปกว่าผู้การ ส่วนพลเรือนมีมากกว่า 3 คน เป็นกลุ่มคนรับส่งเงิน มีจุดรับส่ง 5 จุด โดยในจุดที่เชียงราย ยึดกระเป๋าเงินได้ แม้ตรวจสอบไม่พบเงิน แต่เจอทั้งคนส่งเงินและคนรับเงิน ขณะนี้กำลังเร่งสอบสวน โดยยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ส่วนตำรวจไซเบอร์กำลังหาข้อมูล รวมถึงต้องรอดูว่าคดีทางอาญาสามารถเอาผิดไปถึงหรือไม่ และมีความเป็นไปได้สูงที่หากสาวไปไม่ถึงอาจหยุดแค่ 2 นายที่มีข้อมูลในขณะนี้


ไม่ให้ประกัน แม้ “บอย” จะติดต่อขอมอบตัว
ขณะนี้มีพลเรือน 4-5 คน ได้รับตัวไว้เป็นพยาน โดยสอบปากคำแล้ว หากการสืบสวนพบเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา เช่นเดียวกับตำรวจ หากข้อมูลสาวไปถึง และเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา หากไม่มาจะออกหมายจับเช่นเดียวกับพลเรือน ส่วนนายบอยเจ้าของวลี “อยู่เฉยๆ เนียนกริบ พี่เคลียร์ให้จบแล้ว จ่ายที่ไอ้ต้นเลย” ที่ตอนนี้มีข้อมูลว่าหนีไปกบดานที่สิงคโปร์ ตำรวจเตรียมขอหมายแดงแล้ว แต่พบว่าได้ประสานผ่านคณะทำงานมาว่าจะขอเข้ามอบตัวพร้อมกับภรรยา ล่าสุดยังไม่กำหนดว่าจะมาเมื่อใด แต่ยืนยันว่าต่อให้มามอบตัวก็จะไม่ให้ประกันตัว เพราะคดีมีความซับซ้อน มีผู้เกี่ยวข้องหลายคน

พฐ.ตรวจลายนิ้วมือบนกระเป๋าที่เคยใส่เงิน 28 ล้าน
นอกจากประเด็นตัวละครที่พบเพิ่มเติม ที่สโมสรตำรวจเมื่อคืนนี้ กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบลายนิ้วมือบนกระเป๋าขนาดใหญ่ที่เคยบรรจุเงิน 28 ล้าน โดยกระเป๋าใบนี้ ผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลจากคณะทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่า หลังจากที่นายเป้ถูกเรียกเงินเพิ่มเป็น 140 ล้าน นายเป้จึงติดต่อไปยังเครือข่ายเว็บพนันที่อยู่ฝั่งเมียนมา ให้โอนเงิน 28 ล้านบาท ผ่านบัญชีม้า แล้วให้เจ้าของบัญชีถอนเงินทั้งหมดบรรจุใส่ในกระเป๋าเดินทางใบดังกล่าว ก่อนจะจ้างวานให้พยานทั้ง 4 คน นำเงินไปมอบให้กับตำรวจที่เป็นเครือข่ายของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี โดยได้นัดหมายส่งมอบกันที่วัดแสงแก้วโพธิญาน จ.เชียงราย ก่อนที่เครือข่ายจะเปลี่ยนถ่ายเงินใส่กระเป๋าใบอื่น จากนั้นได้คืนกระเป๋าใบดังกล่าวมาให้พยาน จึงนำมาส่งมอบเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี

พยานทั้งหมดยังอ้างคิดว่าเงิน 28 ล้าน เป็นค่าพระเครื่อง
สำหรับพยานที่เดินทางมาให้การกับตำรวจล่าสุดขณะนี้เป็นบุคคลที่ปรากฏในภาพจากกล้องวงจรปิดที่ชุดคลี่คลายคดีเก็บหลักฐานมาได้ เบื้องต้นทั้งหมดยืนยันไม่รู้ว่าเงินทั้ง 28 ล้าน เป็นเงินที่ถูกรีดไถ แต่เข้าใจว่าเป็นค่าพระเครื่อง


“บอย” ประวัติโชกโชน ใหญ่มากถึงขั้นสั่งตำรวจได้
ส่วนประวัตินายวีระ หรือที่หลายคนเรียกติดปากกันว่า “เสี่ยบอย” เรียกว่าไม่ธรรมดา เพราะเป็นนักธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เป็นคนประสานบริษัททัวร์จีน และไกด์ทัวร์ชาวจีน กว้างขวางในหมู่นักธุรกิจนำเที่ยวชาวจีน และหากย้อนไปเมื่อกรกฎาคมปี 2547 เสี่ยบอยเคยถูกตำรวจภูธรชลบุรี จับพร้อมกับพวก 7 คน โดยมีของกลางเป็นตู้เกม หรือตู้สลอตสจำนวนมาก การจับกุมตำรวจตำรวจบอกว่า สืบทราบว่ามีนายทุนลักลอบนำตู้สลอตมาเก็บไว้ในอาคารพาณิชย์ย่านบางละมุง ส่วนบอยอ้างตัวว่าหลานของ เสธ.ที่สังกัดค่ายทหารในพื้นที่กรุงเทพฯ และได้ร่วมหุ้นกับนายทุนมาเช่าอาคารพาณิชย์เพื่อเก็บตู้สลอตไว้รอเปิดให้บริการในพื้นที่พัทยา และตำรวจยังพบอีกว่าหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับพร้อมกับนายบอยเป็นลูกตำรวจระดับผู้บังคับการจังหวัดด้วย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า การจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสาระสนเทศ (ศปอส.) นายบอยได้ทำข้อเสนอให้อดีตผู้การชลบุรีขึ้นมา รวมถึงเป็นคนคัดเลือกตำรวจชุดนี้ด้วยตัวเอง เพราะนายบอยสามารถสั่งตำรวจได้ และการที่บุคคลเหล่านี้มีอำนาจมากกว่าตำรวจก็เพราะว่ามีผลประโยชน์ ตำรวจจึงให้อำนาจเปรียบเสมือนเป็นนอมินีจนมีอำนาจยิ่งใหญ่กว่าผู้กำกับทุก สน. ในกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 2 และกลายเป็นจุดเริ่มต้นว่านายบอยมีข้อเสนอที่ดีให้ตำรวจ และตำรวจก็เห็นด้วย ทำให้ตำรวจที่ไม่ก้าวข้ามอะไรก็ตาม กลายเป็นพวกของบอยในทันที. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม