ประวัติไม่ธรรมดา “เสี่ยบอย” ใหญ่ถึงขั้นสั่ง ตร.ได้

กทม. 20 มิ.ย. – ปมฉาวตำรวจและพลเรือนถูกกล่าวหาเอี่ยวคดีตบทรัพย์ 140 ล้าน กลุ่มพนันออนไลน์ “บิ๊กโจ๊ก” แย้มทีมตบทรัพย์ 140 ล้าน มีคนเอี่ยวอีกเพียบ ส่วน “บอย” เจ้าของวลี “อยู่เฉยๆ เนียนกริบ” ตอนนี้มีข้อมูลว่าหนีไปกบดานที่สิงคโปร์ ยันต่อให้มามอบตัวก็จะไม่ให้ประกัน เปิดประวัติ “เสี่ยบอย” ไม่ธรรมดา ใหญ่ถึงขั้นสั่งตำรวจได้


“บิ๊กโจ๊ก” แย้มคดีตบทรัพย์ 140 ล้านมีคนเอี่ยวอีกเพียบ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าคดีนี้ว่า เมื่อคืน (19.30 น.) ได้ไปประชุมร่วมกับชุดคลี่คลายคดี การสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้นพบบุคคลเกี่ยวข้อง 10 คน เป็นตำรวจชลบุรี 8 นาย ตำรวจไซเบอร์ 2 นาย และพลเรือนอีก 3 คน ซึ่งในส่วนของตำรวจชลบุรี 5 ใน 8 นาย ให้การรับสารภาพ แต่ผู้การชลบุรีไม่รับสารภาพ และบอกว่าจะส่งคำชี้แจงมาภายใน 5 วัน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ย้ำเป็นเพียงเบื้องต้น เพราะการสืบสวนเชิงลึกล่าสุดพบว่ามีตัวละครที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการรีดไถเพิ่มเติมมากกว่านี้ โดยตำรวจเป็นระดับปฏิบัติการ ไม่ใหญ่ไปกว่าผู้การ ส่วนพลเรือนมีมากกว่า 3 คน เป็นกลุ่มคนรับส่งเงิน มีจุดรับส่ง 5 จุด โดยในจุดที่เชียงราย ยึดกระเป๋าเงินได้ แม้ตรวจสอบไม่พบเงิน แต่เจอทั้งคนส่งเงินและคนรับเงิน ขณะนี้กำลังเร่งสอบสวน โดยยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ส่วนตำรวจไซเบอร์กำลังหาข้อมูล รวมถึงต้องรอดูว่าคดีทางอาญาสามารถเอาผิดไปถึงหรือไม่ และมีความเป็นไปได้สูงที่หากสาวไปไม่ถึงอาจหยุดแค่ 2 นายที่มีข้อมูลในขณะนี้


ไม่ให้ประกัน แม้ “บอย” จะติดต่อขอมอบตัว
ขณะนี้มีพลเรือน 4-5 คน ได้รับตัวไว้เป็นพยาน โดยสอบปากคำแล้ว หากการสืบสวนพบเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา เช่นเดียวกับตำรวจ หากข้อมูลสาวไปถึง และเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา หากไม่มาจะออกหมายจับเช่นเดียวกับพลเรือน ส่วนนายบอยเจ้าของวลี “อยู่เฉยๆ เนียนกริบ พี่เคลียร์ให้จบแล้ว จ่ายที่ไอ้ต้นเลย” ที่ตอนนี้มีข้อมูลว่าหนีไปกบดานที่สิงคโปร์ ตำรวจเตรียมขอหมายแดงแล้ว แต่พบว่าได้ประสานผ่านคณะทำงานมาว่าจะขอเข้ามอบตัวพร้อมกับภรรยา ล่าสุดยังไม่กำหนดว่าจะมาเมื่อใด แต่ยืนยันว่าต่อให้มามอบตัวก็จะไม่ให้ประกันตัว เพราะคดีมีความซับซ้อน มีผู้เกี่ยวข้องหลายคน

พฐ.ตรวจลายนิ้วมือบนกระเป๋าที่เคยใส่เงิน 28 ล้าน
นอกจากประเด็นตัวละครที่พบเพิ่มเติม ที่สโมสรตำรวจเมื่อคืนนี้ กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบลายนิ้วมือบนกระเป๋าขนาดใหญ่ที่เคยบรรจุเงิน 28 ล้าน โดยกระเป๋าใบนี้ ผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลจากคณะทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่า หลังจากที่นายเป้ถูกเรียกเงินเพิ่มเป็น 140 ล้าน นายเป้จึงติดต่อไปยังเครือข่ายเว็บพนันที่อยู่ฝั่งเมียนมา ให้โอนเงิน 28 ล้านบาท ผ่านบัญชีม้า แล้วให้เจ้าของบัญชีถอนเงินทั้งหมดบรรจุใส่ในกระเป๋าเดินทางใบดังกล่าว ก่อนจะจ้างวานให้พยานทั้ง 4 คน นำเงินไปมอบให้กับตำรวจที่เป็นเครือข่ายของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี โดยได้นัดหมายส่งมอบกันที่วัดแสงแก้วโพธิญาน จ.เชียงราย ก่อนที่เครือข่ายจะเปลี่ยนถ่ายเงินใส่กระเป๋าใบอื่น จากนั้นได้คืนกระเป๋าใบดังกล่าวมาให้พยาน จึงนำมาส่งมอบเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี

พยานทั้งหมดยังอ้างคิดว่าเงิน 28 ล้าน เป็นค่าพระเครื่อง
สำหรับพยานที่เดินทางมาให้การกับตำรวจล่าสุดขณะนี้เป็นบุคคลที่ปรากฏในภาพจากกล้องวงจรปิดที่ชุดคลี่คลายคดีเก็บหลักฐานมาได้ เบื้องต้นทั้งหมดยืนยันไม่รู้ว่าเงินทั้ง 28 ล้าน เป็นเงินที่ถูกรีดไถ แต่เข้าใจว่าเป็นค่าพระเครื่อง


“บอย” ประวัติโชกโชน ใหญ่มากถึงขั้นสั่งตำรวจได้
ส่วนประวัตินายวีระ หรือที่หลายคนเรียกติดปากกันว่า “เสี่ยบอย” เรียกว่าไม่ธรรมดา เพราะเป็นนักธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เป็นคนประสานบริษัททัวร์จีน และไกด์ทัวร์ชาวจีน กว้างขวางในหมู่นักธุรกิจนำเที่ยวชาวจีน และหากย้อนไปเมื่อกรกฎาคมปี 2547 เสี่ยบอยเคยถูกตำรวจภูธรชลบุรี จับพร้อมกับพวก 7 คน โดยมีของกลางเป็นตู้เกม หรือตู้สลอตสจำนวนมาก การจับกุมตำรวจตำรวจบอกว่า สืบทราบว่ามีนายทุนลักลอบนำตู้สลอตมาเก็บไว้ในอาคารพาณิชย์ย่านบางละมุง ส่วนบอยอ้างตัวว่าหลานของ เสธ.ที่สังกัดค่ายทหารในพื้นที่กรุงเทพฯ และได้ร่วมหุ้นกับนายทุนมาเช่าอาคารพาณิชย์เพื่อเก็บตู้สลอตไว้รอเปิดให้บริการในพื้นที่พัทยา และตำรวจยังพบอีกว่าหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับพร้อมกับนายบอยเป็นลูกตำรวจระดับผู้บังคับการจังหวัดด้วย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า การจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสาระสนเทศ (ศปอส.) นายบอยได้ทำข้อเสนอให้อดีตผู้การชลบุรีขึ้นมา รวมถึงเป็นคนคัดเลือกตำรวจชุดนี้ด้วยตัวเอง เพราะนายบอยสามารถสั่งตำรวจได้ และการที่บุคคลเหล่านี้มีอำนาจมากกว่าตำรวจก็เพราะว่ามีผลประโยชน์ ตำรวจจึงให้อำนาจเปรียบเสมือนเป็นนอมินีจนมีอำนาจยิ่งใหญ่กว่าผู้กำกับทุก สน. ในกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 2 และกลายเป็นจุดเริ่มต้นว่านายบอยมีข้อเสนอที่ดีให้ตำรวจ และตำรวจก็เห็นด้วย ทำให้ตำรวจที่ไม่ก้าวข้ามอะไรก็ตาม กลายเป็นพวกของบอยในทันที. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย

จับแล้ว! สีกากอล์ฟ เตรียมนำตัวเข้า บก.ปปป. ขยายผล

นนทบุรี 15 ก.ค. – จับแล้ว! สีกากอล์ฟ เตรียมนำตัวเข้า บก.ปปป. ขยายผลหาผู้เกี่ยวข้อง พร้อมตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำกำลังเข้าจับกุม สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ม.147, ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน, รับของโจร ภายในบ้านพักหมู่บ้านหรู ย่านนนทบุรี หลังพบเส้นทางการเงินของอดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โอนเงินเข้าบัญชีสีกากอล์ฟ 3.8 แสนบาท ซึ่งบัญชีโอนเข้าเป็นเงินบัญชีของวัดชูจิตธรรมาราม ขณะนี้ควบคุมตัวสีกากอล์ฟ เข้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ทำการสอบปากคำด้วยตัวเอง ทั้งนี้ มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน บก.ปปป. พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมขยายผลไปยังผู้ที่มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ โดยจะมีการตรวจสอบคลิปทุกคลิป […]

ยอมสึกแล้ว “เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร” เซ่นปมฉาวพัวพันสีกากอล์ฟ

15 ก.ค. – ยอมสึกแล้ว! พระเทพวัชรสิทธิเมธี เซ่นปมฉาวพัวพันสีกากอล์ฟ หลังมีแชตหลุดคุยหวานสีกา แถมย้ำอย่าให้ภาพหลุด ขณะที่เช้านี้ไร้เงาเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ล่าสุดมีหนังสือลาออกของพระเทพวัชรสิทธิเมธี จากการเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรและเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ส่วนสีกากอล์ฟ มีข่าวจะเข้าให้ปากคำกับ ปปป.เพิ่มอีก กรณีเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร หรือเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ยืนยันไม่สึก เพราะไม่เคยมีสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ แต่ไม่ทันข้ามวันมีแชตหลุดคุยหวานสีกากอล์ฟ แถมย้ำอย่าให้ภาพหลุด วันนี้นักข่าวไปที่วัด ปรากฏ “พระล่องหน” ส่วนสีกากอล์ฟมีข่าวจะเข้าให้ปากคำกับ ปปป. เพิ่มเติม เสียงการให้สัมภาษณ์ของ พระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง และเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ที่เมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) ออกมายืนยันยังทำกิจของสงฆ์ต่อเนื่อง รอพระผู้ใหญ่และตำรวจเรียกไปให้ปากคำ เพราะมั่นใจว่าสามารถตอบได้ทุกคำถามที่โยงไปถึงสีกากอล์ฟ มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ไม่คิดสึกจากความเป็นพระ ปรากฏว่าช่วงบ่ายๆ มีแชตหลุดของพระเทพวัชรสิทธิเมธีหลุดออกมา ในแชตเป็นการคุยโต้ตอบกับสีกากอล์ฟ และท่านสวมใส่เสื้อยืด ไม่ใช่จีวรพระ โดยการพูดคุยเริ่มจากบอกว่า “ทำอะไรก็คิดถึงตลอด” แล้วตามมาด้วยข้อความว่า “ภาพนี้อย่าให้หลุดนะ เดี๋ยวเป็นเรื่อง” ส่วนสีกากอล์ฟก็ตอบไปคำเดียวว่า “ค่ะ” เช้านี้ไร้เงา “พระเทพวัชรสิทธิเมธี”วันนี้ (15 ก.ค.) นักข่าวไปหาพระเทพวัชรสิทธิเมธี […]

ศาลออกหมายจับ “ลูกก๊กอาน” พร้อมพวกรวม 6 คน ลุยค้น 7 จุด

15 ก.ค.- ศาลออกหมายจับ “ลูกสาว-ลูกชาย” ก๊กอาน พร้อมพวกรวม 6 คน ข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ก่อนลุยค้นพื้นที่เป้าหมาย 7 จุด ตำรวจไซเบอร์รวบรวมพยานหลักฐานคดีก๊กอาน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ พร้อมยื่นศาลออกหมายจับเครือข่ายก๊กอานเพิ่มอีก 6 คน ประกอบด้วย นางจุฬี หรือเชอร์รี่ นางสาวภูเฌหลิน นายกิตติศักดิ์ ซึ่งเป็นลูกสาวและลูกชายก๊กอาน และพวกรวม 6 คน ในฐานความผิดการมีส่วนร่วมในองค์อาชญากรรมข้ามชาติ และพบว่าบุคคลตามหมายจับมีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย รวมถึงมีการขอศาลออกหมายค้น 7 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลังศาลออกหมาย นอกจากนี้ ทางกรมปกครองอยู่ระหว่างตรวจสอบความผิดปกติบัตรประชาชนคนไทยของเชอรี่ หลังตำรวจตรวจสอบพบมีข้อมูลน่าสงสัยไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ – สำนักข่าวไทย