ผู้เสียหายร้องถูกหลอกให้รักแล้วดาวน์รถ เสียหายกว่า 10 ล้าน

กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – ผู้เสียหายถูกหลอกให้รักแล้วพาไปดาวน์รถยนต์และเครื่องสำอาง เสียหายกว่า 10 ล้านบาท ร้องให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเร่งรัดดำเนินคดี หลังจากพบว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกเหมือนกันจำนวนมาก


กลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 คน ที่ถูกหลอกให้ดาวน์รถยนต์และถูกหลอกซื้ออาหารเสริม มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท รวมตัวร้องเรียนกับทีมงานสายไหมต้องรอด แล้วนำหลักฐานมายื่นให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำเนินคดี

นายพิเชษฐ์ ตัวแทนผู้เสียหายกลุ่มแรกเป็นผู้ชายที่ถูกผู้หญิงคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า “หมวย บุษราคัม” มาตีสนิทผ่านโปรแกรมหาคู่ จากนั้นทักไปหาผู้ชายและหลอกว่าจะคบหากัน ก่อนออกอุบายว่าเคยมีแฟนแต่เลิกแล้ว อยากคบหากับคนใหม่และสร้างครอบครัวร่วมกัน แล้วให้ไปดาวน์รถยนต์ป้ายแดงตามโชว์รูมย่าน จ.ชลบุรี โดยใช้เอกสารส่วนตัวของฝ่ายชายทั้งหมด เมื่อออกรถมาได้แล้วจะนำรถไปและเลิกติดต่อกับฝ่ายชายทันที โดยผู้เสียหายคนนี้ถูกหลอกให้ดาวน์รถยนต์ 2 คัน ต้องรับผิดชอบจ่ายค่าผ่อนรถยนต์เองเดือนละ 24,000 บาท


นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ์ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายแล้ว ยังได้รับแจ้งจากพนักงานขายของโชว์รูมรถแห่งหนึ่งว่าผู้หญิงคนนี้ยังพาผู้ชายไปเลือกซื้อรถยนต์อยู่ โดยผู้เสียหายแต่ละคนถูกหลอกใช้เวลา 5-7 วัน ก่อนพาไปดาวน์รถยนต์ หากไม่ได้จะไปดาวน์รถจักรยานยนต์ โดยเลือกรถที่มีราคาแพงและเป็นที่ต้องการของตลาด เมื่อผู้เสียหายพยายามติดต่อกลับไปกลับถูกข่มขู่ถึงขั้นชีวิต ผู้หญิงคนนี้ถือเป็นภัยสังคม และคาดว่าทำเป็นขบวนการ สร้างความเสียหายให้กับกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมาก

ขณะที่นางสาวศิริวรร ผู้เสียหายอีกกลุ่มเป็นผู้หญิงใน จ.ชลบุรี ที่ถูกผู้หญิงคนดังกล่าวหลอกมาตีสนิท โดยจะไปหาเหยื่อตามกลุ่มรถซิ่งและกลุ่มขายเครื่องสำอาง จากนั้นจะชวนพูดคุยกันจนสนิท แต่จะใช้เวลานานกว่ากลุ่มแรกประมาณ 2 ปี และอ้างว่าอยากช่วยขายอาหารเสริม ขอเหมาเครื่องสำอางหรืออาหารเสริมไปขายต่อ โดยมัดจำเพียงร้อยละ 10 ของราคาสินค้า และจะเอาไปขายต่อครึ่งราคาของสินค้าผ่านร้านค้าส่งเพื่อให้ได้เงินเร็ว แต่เมื่อถึงเวลาจ่ายเงิน ผู้เสียหายกลับติดต่อไม่ได้ และมีผู้เสียหายถูกหลอกลักษณะนี้กว่า 100 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 800,000 บาท ถึง 1.2 ล้านบาทต่อคน

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คดีนี้จะสืบสวนโดยเร็ว เบื้องต้นทราบว่ากลุ่มนี้ทำกันเป็นขบวนการ 3-4 คน โดยจะตรวจสอบพยานหลักฐานและขอศาลออกหมายจับถึงผู้เกี่ยวข้อง และเชื่อว่ามีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก ส่วนผู้ก่อเหตุเบื้องต้นพบว่าถูกใส่กำไลอีเอ็ม และยังก่อเหตุหลอกคนอื่นอีก ก็จะไปตรวจสอบว่าผู้ก่อเหตุคนนี้เคยถูกดำเนินคดีอะไรไปบ้าง


อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ผู้เสียหายกำลังให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ผู้หญิงคนดังกล่าวโทรศัพท์เข้ามาหาทีมงานเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอเข้าพบนายเอกภพ เพื่อขอไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหายทั้ง 10 ราย โดยมีการขอร้องนายเอกภพอย่าเพิ่งร้องเรียนกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ขอเวลาตั้งทนายเข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหายก่อน ขณะที่นายเอกภพพยายามสอบถามเกี่ยวกับรถที่ผู้ต้องหาได้ไปว่าขณะนี้อยู่ที่ใด ผู้หญิงคนดังกล่าวระบุว่าไม่รู้เรื่องและไม่ทราบว่ารถอยู่ที่ไหน พร้อมยอมรับตนมีคดีเก่าติดตัว ขณะนี้ถูกใส่กำไรอีเอ็มควบคุมความประพฤติอยู่ หากถูกร้องเรียนเรื่องดังกล่าวจะถูกเพิกถอนประกัน และถูกส่งตัวกลับเรือนจำ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

ซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติฯ สุดตระการตา รับประเพณียี่เป็ง

ยามค่ำคืนในตัวเมืองเชียงใหม่ ประดับประดาด้วยแสงไฟรับประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงเชียงใหม่ โดยเฉพาะบนถนนท่าแพ มีการสร้างซุ้มประดับไฟเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 14 ซุ้ม ยาวกว่า 200 เมตร.

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมรีดทรัพย์ รับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพื่อขายงาน

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท จากดิไอคอน ยอมรับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพราะต้องการขายงาน

คุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง เจ้าตัวเงียบรีบเดินขึ้นรถตู้

ตำรวจกองปราบคุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง ผู้ต้องหาปัดตอบสื่อ ด้านพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี