จับผู้ต้องหาหลอกส่งพัสดุเก็บเงินปลายทาง ยึดของกลางจำนวนมาก

กรุงเทพฯ 2 มิ.ย.- ตำรวจไซเบอร์ รุกฆาตปฏิบัติการจับผู้ต้องหาหลอกส่งพัสดุเก็บเงินปลายทาง ค้น 2 จุด บ้านและโกดังย่านปทุมธานี ยึดของกลางพัสดุรอส่งกว่า 5,000 กล่อง บางกล่องเปิดออกมาเป็นฟองน้ำใช้แล้ว และเป็นสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ สารภาพซื้อรายชื่อผู้รับมาอีกต่อหนึ่ง


พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฐายุฏฐ์ จันทร์ถาวร รอง ผบช.สอท, พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รอง ผบช.สอท. แถลงข่าว หลังเปิดปฏิบัติรุกฆาตปฏิบัติการลวงหลอกส่งพัสดุเก็บเงินปลายทาง จับผู้ต้องหา 2 คน คือ นางสาวปัทมเนตร และนายณัทกร หรือโต๋ ยึดของกลางกล่องพัสดุที่ติดชื่อและที่อยู่ผู้รับเรียบร้อยรอส่ง ระบุชื่อร้านที่ส่ง Shopa๘, My Mee และ PeepoShoppy จำนวน 5,425 กล่อง, กล่องพัสดุกระดาษสีน้ำตาลที่เตรียมไว้แพ็ก 1,200 กล่อง, พลาสติกกันกระแทก 1 ม้วน, ถุงพลาสติกห่อส่งพัสดุ 2 ม้วน, เครื่องปรินต์สติกเกอร์ 1 เครื่อง, กระดาษสติกเกอร์ที่พิมพ์ชื่อที่อยู่ผู้รับและผู้ส่งแล้ว 1 ชุด, กระดาษสติกเกอร์ไว้สำหรับปรินต์ชื่อที่อยู่ผู้รับยังไม่ได้พิมพ์ 1 ชุด, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก พร้อมที่ชาร์จ 1 เครื่อง, ไฟล์เอกสารรายชื่อและที่อยู่บุคคล 22 ไฟล์ รวม 5,886 รายชื่อ ราคาสินค้าประมาณ 200 บาท มูลค่าความเสียหายกว่า 1,085,000 บาท

คดีนี้สืบเนื่องจากผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ กรณีได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกลวงให้ชำระค่าพัสดุปลายทาง ซึ่งผู้เสียหายไม่ได้เป็นผู้สั่งสินค้า ตำรวจจึงสืบสวนจากบริษัทขนส่งเอกชน จนทราบว่าคนร้ายใช้วิธีการติดต่อมายังบริษัทฯ เพื่อใช้บริการ โดยให้ไปรับพัสดุ 2 จุด คือ จุดแรกที่โกดังสินค้า ซอยบงกช 49 ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และจุดที่สอง บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านย่านคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดธัญบุรี จึงสนธิกำลังตำรวจเข้าตรวจค้น ที่เกิดเหตุพบนางสาวปัทมเนตร ในหมู่บ้านย่านคลองสอง และนายณัทกร หรือโต๋ เจ้าของโกดังสินค้า


เมื่อสอบถาม น.ส.ปัทมเนตร ยอมรับว่ากล่องพัสดุที่ตรวจพบในบ้านของตนเป็นพัสดุที่ได้ติดชื่อผู้รับปลายทางไว้ เพื่อจะส่งต่อไป โดยผู้มีชื่อรับพัสดุไม่ได้สั่งซื้อแต่อย่างใด และตนไม่ทราบว่าในกล่องเป็นสินค้าอะไร เพราะซื้อมาแบบแพ็กสำเร็จกล่องละ 7 บาท ส่วนข้อมูลผู้รับตนซื้อมาจาก น.ส.เต้ย โดยซื้อมาจำนวน 3,000 รายชื่อ ในราคา 3,000 บาท จากนั้นก็ปรินต์รายชื่อออกมาติดกล่องเอง โดยแพ็กที่บ้านและโกดังดังกล่าว ซึ่งโกดังเป็นของนายณัทกร หรือนายโต๋ ซึ่งรู้จักกันและเคยไปเรียนจำหน่ายสินค้าออนไลน์ด้วย เมื่อแพ็กเสร็จแล้วก็จะแจ้งบริษัทขนส่งมารับพัสดุไปส่งให้ลูกค้า โดยส่งไปทั้งสิ้นประมาณ 2,000 กล่อง โดยส่งผ่านบริษัทขนส่งเอกชน ต่อมาบริษัทขนส่งส่งของล่าช้า จึงขอเงินค่าขนส่งและกล่องสินค้าคืน และยอมรับว่าตนมีปัญหาด้านการเงิน จึงต้องกระทำการดังกล่าวมา โดยปกติแล้วมีการโพสต์ในเพจจำหน่ายสินค้า 2 เพจ คือ “Shop๔๒๘๙” และ “สินค้าแฟชั่น” โดยสินค้าเป็นหมวกกับพัดลม แต่รายได้ไม่ดี เลยต้องใช้วิธีส่งสินค้าไปโดยที่คนรับไม่ได้สั่ง

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า ตำรวจ บช.สอท.หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงมาตรการในการแก้ไขปัญหา โดย สคบ.เรียกบริษัทขนส่ง ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรับส่งพัสดุ มาหารือพร้อมกำหนดแนวทาง เบื้องต้นให้แนวทางว่าให้ช่วยกันสังเกต หากผู้จัดส่งรายใด หรือบริษัทแพลตฟอร์มใดที่มีการส่งพัสดุ และพัสดุถูกตีกลับบ่อยครั้ง จะขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ พร้อมส่งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวรับไม่ได้กับพฤติกรรมของขบวนการนี้ที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ซึ่งจะเห็นได้ว่าพัสดุบางกล่องเมื่อเปิดออกมาเป็นฟองน้ำที่ใช้แล้ว และเป็นสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ

ด้าน พล.ต.ต.ฐายุฏฐ์ กล่าวว่าการก ระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฉ้อโกง ซึ่งประชาชนอาจเกิดความสงสัย และตั้งคำถามว่า คนร้ายได้รายชื่อของเรามาได้อย่างไร ซึ่งในส่วนนี้ต้องเรียนชี้แจงว่ามีด้วยกัน 2 ส่วน ในส่วนแรกมาจากการที่เรานั้นสั่งซื้อสินค้าตามแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่ง ส่วนที่สองมาจากการที่ประชาชนสั่งพัสดุสินค้า และมักจะทิ้งทั้งกล่อง ไม่ได้ทำลาย ก็เป็นช่องที่ทำให้คนร้ายได้ที่อยู่เรามา อย่างไรก็ตาม ขอประชาสัมพันธ์ หากสินค้าหรือพัสดุดังกล่าวมาส่งถึงที่ทำงาน หรือที่บ้านแล้ว แต่ผู้สั่งไม่อยู่ ต้องโทรเช็กกับเจ้าของชื่อหน้ากล่องให้มั่นใจก่อนว่าเป็นสินค้าที่ได้สั่งมาใช่หรือไม่ ห้ามชำระเงินให้พนักงานก่อนเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วมือเผารถ “ศิริโชค” ญาติเผยจิตไม่ปกติ

6 ก.ค. – จับได้แล้ว มือวางเพลิงรถยนต์ “ศิริโชค” ตำรวจเค้นสอบ ยอมรับก่อเหตุจริง ญาติเผยจิตไม่ปกติ พูดคนเดียวมาหลายเดือน ด้าน “ศิริโชค” ไม่เชื่อลงมือเองจากอาการทางจิต น่าจะมีคนสั่งการอยู่เบื้องหลัง กล้องวงจรปิดจับภาพนายเบียร์ อายุ 29 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในซอยบ้านพักของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.เขต 7 สงขลา 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ ช่วงตี 3 คืนวานนี้ (5 ก.ค.) ต.ฉาง อ.นาทวี จ.สงขลา และไปคุยกับคนเฝ้าบ้านนายศิริโชค ที่ประตูหน้าบ้าน ก่อนขี่รถออกไป จากนั้นช่วงเวลา 03.45 น. นายเบียร์ขี่รถย้อนกลับเข้าไปในซอยบ้านของนายศิริโชคอีกครั้ง ก่อนจะมีข่าวรถยนต์ GWM HAVAL H6 PHEV หรือปลั๊กอิน-ไฮบริด กึ่งไฟฟ้ากึ่งน้ำมัน เกิดเพลิงไหม้เสียหายหมดทั้งคัน ซึ่งขณะนั้น ยังไม่มั่นใจว่าเกิดจาะระบบรถยนต์ขัดข้อง หรือสาเหตุอย่างอื่น จนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นที่แน่ชัดว่า นายเบียร์เป็นคนก่อเหตุวางเพลิงรถยนต์ของนายศิริโชค […]

“โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 6 ก.ค. – “โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา “สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ-หน่วยงานปกครอง” ลงด้วยเพียบ สงสัยฝั่งตรงข้ามเป็นฐานสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์ หรือไม่ แย้มมีข้อมูลทุนใหญ่เป็นหลังบ้านผู้มีอำนาจกัมพูชา เจอแน่ปิดห้องคุยพรุ่งนี้ แนะสร้างเสาเซ็นเซอร์ตรวจจับชายแดน หมาแมวตรวจได้หมด หากลักลอบเข้า ด้าน “ชุติพงศ์” โวย เขมรไม่ทำรั้ว-รับผิดชอบ ปล่อยผ่านคนลักลอบเข้าออก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร​ ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว​ ร่วมกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ​ สภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อดูการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและการบริหารกิจการชายแดนไทย-กัมพูชา​ โดยมีหน่วยงานความมั่นคง​ นายอำเภอ​ กรมการปกครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ด้วย จุดแรกมาที่บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้า​อรัญประเทศ​ โดย พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา รายงาน​ว่า​ จุดนี้​เป็นพื้นที่​ที่การข่าวแจ้งว่า​ใช้เป็นช่องทางลักลอบข้ามไปฝั่งกัมพูชา​ เป้าหมายไปทำงานหรือเล่นการพนัน​ ปัจจุบันได้ซีลพื้นที่ตรงนี้แล้ว แต่ก็มีการลักลอบเข้าออกตลอด แม้จะมีสถานการณ์ไทย-กัมพูชา […]

“บิ๊กเต่า” ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด คลี่ปมพัวพันสีกา ก.

6 ก.ค.- “บิ๊กเต่า” เผยคำให้การสีกา ก. เป็นประโยชน์ อาจโยงไปถึงการทุจริต แต่ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด เตรียมประชุมคณะทำงานสัปดาห์หน้า เรียกผู้เกี่ยวข้องสอบเพิ่มเติม ยืนยันหากพบใครเอี่ยวพร้อมดำเนินคดี 12.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงกรณีการเรียกตัวสีกาอักษรย่อ ก. มาสอบปากคำ ว่า หลังจากนำตัวสีกา ก. มาสอบ ก็ได้ข้อมูลในแนวทางที่ดีและมีประโยชน์ อาจนำไปสู่เรื่องที่อาจเอี่ยวกับการทุจริต แต่ก็จะต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียด เพราะทุกอย่างต้องชัดเจน เนื่องจากคำให้การอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีหลักฐานอื่นประกอบด้วย จากคำให้การของสีกา ก. ว่า มีการเล่นพนันออนไลน์ แล้วเงินที่ใช้เล่นเป็นเงินส่วนไหน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า “ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ แต่เขามีการเล่นพนันจริง” ตอนนี้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว โดยมี ปปป. เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวพันหลายพื้นที่ ส่วนเรื่องบัญชีวัด ทางบก.ปปป. ก็มีอำนาจสามารถตรวจสอบได้เลย ประมาณวันจันทร์-อังคารที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่า สีกา ก. เคยทำให้พระสึกมาแล้วถึง 2 รูป จริงหรือไม่ […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย