กรุงเทพฯ 2 มิ.ย.- ตำรวจไซเบอร์ รุกฆาตปฏิบัติการจับผู้ต้องหาหลอกส่งพัสดุเก็บเงินปลายทาง ค้น 2 จุด บ้านและโกดังย่านปทุมธานี ยึดของกลางพัสดุรอส่งกว่า 5,000 กล่อง บางกล่องเปิดออกมาเป็นฟองน้ำใช้แล้ว และเป็นสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ สารภาพซื้อรายชื่อผู้รับมาอีกต่อหนึ่ง
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฐายุฏฐ์ จันทร์ถาวร รอง ผบช.สอท, พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รอง ผบช.สอท. แถลงข่าว หลังเปิดปฏิบัติรุกฆาตปฏิบัติการลวงหลอกส่งพัสดุเก็บเงินปลายทาง จับผู้ต้องหา 2 คน คือ นางสาวปัทมเนตร และนายณัทกร หรือโต๋ ยึดของกลางกล่องพัสดุที่ติดชื่อและที่อยู่ผู้รับเรียบร้อยรอส่ง ระบุชื่อร้านที่ส่ง Shopa๘, My Mee และ PeepoShoppy จำนวน 5,425 กล่อง, กล่องพัสดุกระดาษสีน้ำตาลที่เตรียมไว้แพ็ก 1,200 กล่อง, พลาสติกกันกระแทก 1 ม้วน, ถุงพลาสติกห่อส่งพัสดุ 2 ม้วน, เครื่องปรินต์สติกเกอร์ 1 เครื่อง, กระดาษสติกเกอร์ที่พิมพ์ชื่อที่อยู่ผู้รับและผู้ส่งแล้ว 1 ชุด, กระดาษสติกเกอร์ไว้สำหรับปรินต์ชื่อที่อยู่ผู้รับยังไม่ได้พิมพ์ 1 ชุด, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก พร้อมที่ชาร์จ 1 เครื่อง, ไฟล์เอกสารรายชื่อและที่อยู่บุคคล 22 ไฟล์ รวม 5,886 รายชื่อ ราคาสินค้าประมาณ 200 บาท มูลค่าความเสียหายกว่า 1,085,000 บาท
คดีนี้สืบเนื่องจากผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ กรณีได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกลวงให้ชำระค่าพัสดุปลายทาง ซึ่งผู้เสียหายไม่ได้เป็นผู้สั่งสินค้า ตำรวจจึงสืบสวนจากบริษัทขนส่งเอกชน จนทราบว่าคนร้ายใช้วิธีการติดต่อมายังบริษัทฯ เพื่อใช้บริการ โดยให้ไปรับพัสดุ 2 จุด คือ จุดแรกที่โกดังสินค้า ซอยบงกช 49 ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และจุดที่สอง บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านย่านคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดธัญบุรี จึงสนธิกำลังตำรวจเข้าตรวจค้น ที่เกิดเหตุพบนางสาวปัทมเนตร ในหมู่บ้านย่านคลองสอง และนายณัทกร หรือโต๋ เจ้าของโกดังสินค้า
เมื่อสอบถาม น.ส.ปัทมเนตร ยอมรับว่ากล่องพัสดุที่ตรวจพบในบ้านของตนเป็นพัสดุที่ได้ติดชื่อผู้รับปลายทางไว้ เพื่อจะส่งต่อไป โดยผู้มีชื่อรับพัสดุไม่ได้สั่งซื้อแต่อย่างใด และตนไม่ทราบว่าในกล่องเป็นสินค้าอะไร เพราะซื้อมาแบบแพ็กสำเร็จกล่องละ 7 บาท ส่วนข้อมูลผู้รับตนซื้อมาจาก น.ส.เต้ย โดยซื้อมาจำนวน 3,000 รายชื่อ ในราคา 3,000 บาท จากนั้นก็ปรินต์รายชื่อออกมาติดกล่องเอง โดยแพ็กที่บ้านและโกดังดังกล่าว ซึ่งโกดังเป็นของนายณัทกร หรือนายโต๋ ซึ่งรู้จักกันและเคยไปเรียนจำหน่ายสินค้าออนไลน์ด้วย เมื่อแพ็กเสร็จแล้วก็จะแจ้งบริษัทขนส่งมารับพัสดุไปส่งให้ลูกค้า โดยส่งไปทั้งสิ้นประมาณ 2,000 กล่อง โดยส่งผ่านบริษัทขนส่งเอกชน ต่อมาบริษัทขนส่งส่งของล่าช้า จึงขอเงินค่าขนส่งและกล่องสินค้าคืน และยอมรับว่าตนมีปัญหาด้านการเงิน จึงต้องกระทำการดังกล่าวมา โดยปกติแล้วมีการโพสต์ในเพจจำหน่ายสินค้า 2 เพจ คือ “Shop๔๒๘๙” และ “สินค้าแฟชั่น” โดยสินค้าเป็นหมวกกับพัดลม แต่รายได้ไม่ดี เลยต้องใช้วิธีส่งสินค้าไปโดยที่คนรับไม่ได้สั่ง
พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า ตำรวจ บช.สอท.หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงมาตรการในการแก้ไขปัญหา โดย สคบ.เรียกบริษัทขนส่ง ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรับส่งพัสดุ มาหารือพร้อมกำหนดแนวทาง เบื้องต้นให้แนวทางว่าให้ช่วยกันสังเกต หากผู้จัดส่งรายใด หรือบริษัทแพลตฟอร์มใดที่มีการส่งพัสดุ และพัสดุถูกตีกลับบ่อยครั้ง จะขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ พร้อมส่งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวรับไม่ได้กับพฤติกรรมของขบวนการนี้ที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ซึ่งจะเห็นได้ว่าพัสดุบางกล่องเมื่อเปิดออกมาเป็นฟองน้ำที่ใช้แล้ว และเป็นสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ
ด้าน พล.ต.ต.ฐายุฏฐ์ กล่าวว่าการก ระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฉ้อโกง ซึ่งประชาชนอาจเกิดความสงสัย และตั้งคำถามว่า คนร้ายได้รายชื่อของเรามาได้อย่างไร ซึ่งในส่วนนี้ต้องเรียนชี้แจงว่ามีด้วยกัน 2 ส่วน ในส่วนแรกมาจากการที่เรานั้นสั่งซื้อสินค้าตามแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่ง ส่วนที่สองมาจากการที่ประชาชนสั่งพัสดุสินค้า และมักจะทิ้งทั้งกล่อง ไม่ได้ทำลาย ก็เป็นช่องที่ทำให้คนร้ายได้ที่อยู่เรามา อย่างไรก็ตาม ขอประชาสัมพันธ์ หากสินค้าหรือพัสดุดังกล่าวมาส่งถึงที่ทำงาน หรือที่บ้านแล้ว แต่ผู้สั่งไม่อยู่ ต้องโทรเช็กกับเจ้าของชื่อหน้ากล่องให้มั่นใจก่อนว่าเป็นสินค้าที่ได้สั่งมาใช่หรือไม่ ห้ามชำระเงินให้พนักงานก่อนเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย