กรุงเทพฯ 2 มิ.ย.- อาพาหลานสาวเด็กพิเศษอายุ 15 ปี ร้อง “บิ๊กโจ๊ก” ถูกปู่เลี้ยงขืนใจนานนับปี คดีไม่คืบ แถมถูกตำรวจเรียกรับรางวัลนำจับอีก 10,000 บาท
“กัน จอมพลัง” พร้อมด้วย นางสาวเอ อายุ 26 ปี อาของเด็กสาวผู้เสียหาย และหลานสาวอายุ 15 ปี เป็นเด็กพิเศษ เข้าพบพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้ช่วยเร่งรัดติดตามจับนายสมจิตร อายุ 52 ปี ปู่เลี้ยงของเด็ก หลังก่อเหตุข่มขืนหลานสาวหลายครั้งนานหลายเดือน จนหลานสาวต้องถ่ายคลิปตัวเองไว้เป็นหลักฐาน เพราะกลัวไม่มีใครเชื่อ แต่คดีไม่คืบ และตำรวจยังเรียกรับเงินรางวัลนำจับเพื่อติดตามคนก่อเหตุ
กัน-จอมพลัง เปิดเผยว่า วันนี้อาของน้องผู้เสียหายเดินทางมาจากจังหวัดนครปฐม ขอความช่วยเหลือ เนื่องจากหลังเกิดเหตุการณ์ถูกขืนใจนานเกือบ 1 ปี แม้มีการแจ้งความ มีการออกหมายจับแล้ว แต่สิ่งสะเทือนใจสำหรับครอบครัวผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ยังจับคนก่อเหตุไม่ได้ หลังแจ้งความไปเกือบปีแล้วแต่คดีไม่คืบ แต่ตำรวจเจ้าของพื้นที่กลับส่งแชตแจ้งญาติว่า ขอรางวัลนำจับ 10,000 บาท เพื่อจ้างตำรวจอีกจังหวัดไปติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุในพื้นที่ทางอีสาน
ด้านอาผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในบ้านมีคนพักอาศัย 4 คน คือ ตน แฟนหนุ่มของตน ปู่ผู้ก่อเหตุ ย่า และน้องผู้เสียหาย โดยปู่เลี้ยงมาพักอาศัยอยู่กับย่าของน้องได้ 5 ปี มีนิสัยดูนิ่งๆ ไม่ดุ จนมาช่วงต้นปี 65 ปู่มักทำกับข้าวให้หลานกิน และรู้สึกผิดสังเกตชวนหลานเข้าไปกินด้วยในห้องนอน และความแตกเมื่อตนได้ไปเปิดโทรศัพท์ของหลานดูพบคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์กัน จึงสอบถามหลานทราบว่ากลัวคนไม่เชื่อ เพราะปู่ดูลักษณะเป็นคนดี จึงถ่ายไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งหลานถูกข่มขืนหลายครั้ง เกือบเป็นปีแล้ว แต่เมื่อสอบถามปู่เลี้ยงได้รับการปฏิเสธไม่ได้เป็นคนทำ จากนั้นพออีกวันก็หลบหนีออกจากบ้านไป
ส่วนประเด็นที่ตำรวจเจ้าของท้องที่ไลน์แจ้งย่าว่า จะต้องมีการจ้างตำรวจอีกพื้นที่ไปจับกุม โดยอ้างว่ามีค่าใช้จ่าย 10,000 บาท โดยถือเป็นรางวัลนำจับนั้น ครอบครัวยังคงไม่มีการจ่ายแต่อย่างใด เพราะมองว่าการเรียกร้องขอความเป็นธรรม ต้องมีค่าใช้จ่ายด้วยหรือ จะจับคนร้ายไม่ได้หรือ (กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ) ขณะนี้จะครบ 1 ปี แล้ว และล่าสุดก็พบความเคลื่อนไหวของผู้ก่อเหตุจากกล้องวงจรปิดการทางพิเศษ เมื่อวันที่ 13 พ.ค.66 โดยเจอผู้ก่อเหตุในพื้นที่ จ.ยโสธร อีกทั้งเจ้าตัวยังมีแฟนใหม่อีกด้วย จึงอยากให้มีการเร่งรัดจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ระบุในส่วนของโรงพักที่ทำงานล่าช้า ไม่ได้รับความเป็นธรรม จะต้องแก้ไขเร่งด่วน ไม่ต้องให้ตำรวจระดับบริหารโทรไปจี้การทำงาน ถ้าผู้กำกับการใส่ใจ กวดขันการทำงานของลูกน้อง ตำรวจจะต้องปรับตัว จะไม่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้น.-สำนักข่าวไทย