กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – รรท.ผบก.ทางหลวง ยอมรับเรื่องส่วยอยู่ใต้พรมมานาน จ่อยุบชุดเฉพาะกิจ ยกเลิกคำสั่งที่ส่อทุจริต พร้อมรีเซตองค์กรใหม่ให้มีเกียรติ-ศักดิ์ศรี
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) รักษาราชการในตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ประชุมร่วมกับรองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง และผู้กำกับการตำรวจทางหลวง 8 หน่วยทั่วประเทศ ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง ว่า ได้รับมอบนโยบายจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับกรณีส่วยสติกเกอร์ และจัดระเบียบในกองบังคับการตำรวจทางหลวง โดยเฉพาะเรื่องความโปร่งใสในหน่วยงาน เบื้องต้นวันนี้จะร่วมวางแนวทางปฏิบัติ กำหนดท่าที และแนวทางในการปฏิบัติร่วมกัน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่า ระยะเวลาสั้นๆ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงยกเครื่องใหม่ในกองบังคับการตำรวจทางหลวงอย่างชัดเจน เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่น การยกเลิก แก้ไขปรับปรุงคำสั่งต่างๆ การคืนความชอบธรรม และบังคับใช้กฎหมายโดยเท่าเทียมกันทุกคน ลดความเหลื่อมล้ำ รวมทั้งอาจพิจารณายกเลิกหน่วยเฉพาะกิจของกองบังคับการตำรวจทางหลวงบางหน่วยที่ส่อมีพฤติการณ์ไปในทางทุจริต เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในกองบังคับการตำรวจทางหลวงที่ดียิ่งขึ้น ให้มีเกียรติ-ศักดิ์ศรี เป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชน
ผบก.ปปป. กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจที่ได้รับมอบหมายให้มาสะสางปัญหานี้ เพราะปัญหาเรื่องส่วยมีมานานแล้ว มันอยู่ในพรมมานาน ต้องขอบคุณ ส.ส.วิโรจน์ และสมาพันธ์รถบรรทุกฯ ที่เปิดเผยและให้ข้อมูล จะทำให้ถูกต้องตามแนวทาง เชื่อว่าตำรวจทางหลวงจะต้องเป็นหน่วยงานที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีมากกว่านี้ ขอให้เชื่อมั่นว่าจะไม่มีการช่วยเหลือใคร ใครทำอะไรไว้ก็ต้องได้รับสิ่งนั้น
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยอมรับว่า มีความเป็นห่วงว่าการเปลี่ยนแปลงและบังคับใช้กฎหมายหลังจากนี้จะส่งผลกระทบต่อประชาชนและผู้ประกอบการ แต่ต้องขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจและปรับตัว เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติหน้าที่โดยอะลุ้มอล่วยมาโดยตลอด เพื่อให้ทุกภาคส่วนเดินหน้าไปได้ และขอฝากไปยังหน่วยงานในระดับที่สูงขึ้นให้แก้ไขกฎระเบียบต่างๆ ที่ล้าหลัง เช่น เรื่องความเร็ว น้ำหนัก หากยังใช้กฎหมายระเบียบเดิมๆ ก็จะเป็นปัญหาที่แก้ไขไม่จบสิ้น
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ตำรวจทางหลวงทั่วประเทศเร่งตรวจสอบเรื่องสติกเกอร์ ถ้าส่อว่ามีการทุจริต ขอให้รวบรวมมาเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนสืบสวนดำเนินการ แม้ว่าท้ายสุดจะมีบุคลากรตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ไม่หนักใจ ถึงจะเสียบุคลากรก็ต้องยอมรับความจริง
ขณะที่ทาง ปปป. จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง ตรวจสอบเรื่องเส้นทางเงิน และเพื่อตรวจสอบร่วมกับจเรตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงของ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หากพบว่ามีบุคลากรในองค์กรรายใดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดแน่นอน โดยจะแก้ไขทั้งระบบ ไม่ใช่เฉพาะจุด
ส่วนเรื่องใบสั่งทางหลวง ประชาชนจะต้องยอมรับว่า ใบสั่งที่โดนนั้น เป็นผลมาจากการกระทำความผิดหรือไม่ หากไม่ใช่ก็ชี้แจงได้ แต่หลังจากนี้ก็ต้องแก้ทั้งระบบ ทั้งเรื่องความเร็ว ระบบ และกระทรวงคมนาคมจะต้องไปแก้ไข. – สำนักข่าวไทย