กรุงเทพฯ 30 พ.ค.- สาวเจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมผิวขาว แถลงทั้งน้ำตา ยืนยันผลิตภัณฑ์ไม่มียาบ้าเป็นส่วนผสม เตรียมฟ้องแพ่งและอาญาเรียกค่าเสียหายคู่กรณี 50 ล้านบาท แต่ก็จะให้โอกาสหากคู่กรณีติดต่อมาพูดคุยใน 2-3 วันนี้
น.ส.อภิรมณ เจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมผิวขาว เข้าขอความช่วยเหลือทางกฎหมายกับทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หลังลูกค้ารายหนึ่งตรวจปัสสาวะเพื่อเข้าศึกษาคณะเภสัชฯ แต่พบสารเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าในปัสสาวะ และสงสัยว่าเป็นเพราะรับประทานอาหารเสริมของตน ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย
น.ส.อภิรมณ เล่าว่า วันที่ 27 พ.ค.2566 ทราบจากบุคคลหนึ่งว่า มีลูกค้าที่รับประทานอาหารเสริมแล้วไปตรวจปัสสาวะพบสารเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า โดยได้ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ให้โทรกลับ ตนทราบเรื่องจึงได้โทรกลับไป สอบถามรายละเอียดกับมารดาของลูกค้ารายดังกล่าว ซึ่งมารดายืนยันว่าบุตรสาวตรวจปัสสาวะพบสารเมจแอมเฟตามีนจริง หลังรับประทานอาหารเสริม ซึ่งตนได้ถามย้ำ และขอกลับมาตรวจสอบรายละเอียดก่อน แต่วันรุ่งขึ้นก็ปรากฏเป็นข่าวขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น โดยที่ตนยังไม่ได้ทันตรวจสอบ เป็นเหตุให้ลูกค้ารายย่อยกว่า 50 ราย ที่สั่งซื้อออนไลน์พากันขอยกเลิกสินค้าทันที และมีลูกค้าอีกจำนวนมากโทรศัพท์มาสอบถามข้อมูล กรณีดังกล่าวทำให้บริษัทได้รับความเสียหายทั้งชื่อเสียงและรายได้จากการจำหน่ายจำนวนหลายล้านบาท อีกทั้งต้องสั่งชะลอการผลิตสินค้าในรอบปัจจุบันออกไปก่อน
พร้อมย้ำว่า ที่ผ่านมาบริษัทผลิตอาหารเสริมจำหน่ายไปมากกว่า 2-3 ล้านกระปุก พบปัญหาเล็กน้อย เช่น แคปซูลบรรจุผงยาแตก แต่ไม่เคยถูกร้องเรียนว่าตรวจพบยาบ้าในส่วนผสม กรณีนี้ถือเป็นรายแรก ซึ่งความจริงส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์ คือ กลูตราไทโอน, สารสกัดจากโสม และตังกุย และอื่น ๆ ที่มีผลช่วยทำให้ผิวขาวใส
เบื้องต้น เจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมผิวขาว มอบหมายให้ทนายเดชา ฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง อาจทำให้บริษัทเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท และฟ้องคดีอาญา ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณากับคู่กรณี แต่ก็จะให้โอกาสหากคู่กรณีติดต่อมาพูดคุยใน 2-3 วันนี้
ทั้งนี้ ระหว่างแถลงข่าว น.ส.อภิรมณ นำเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการผลิตอาหารเสริมมาแสดงต่อสื่อมวลชน รวมทั้งรับประทานอาหารเสริม เพื่อแสดงความมั่นใจกับลูกค้า และให้ลูกค้ารายหนึ่งที่รับประทานอาหารเสริมเป็นประจำทดลองตรวจปัสสาวะโชว์ ปรากฏว่าไม่พบสารเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า.-สำนักข่าวไทย