กทม. 26 พ.ค.- “บิ๊กโจ๊ก” ยันทนายความคนดังของ “แอม ไซยาไนด์” ดอดพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม รับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งหลังสอบปากคำเสร็จสิ้นตำรวจต้องปล่อยตัว ตามกระบวนการของกฎหมายและให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกับ “รองอ๊อฟ” พร้อมยืนยัน มีพยานหลักฐานแน่นหนาที่จะเอาผิดผู้ต้องหารายนี้ ในข้อหาร่วมกันทำลายพยานหลักฐานได้
เวลา 11.00 น. พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าคดี “แอม ไซยาไนด์” ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดี ว่า ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลาประมาณ 09.00 น. ทนายความประจำตัวของแอม ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปรามแล้ว เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันทำลายพยานหลักฐาน หลังพนักงานสอบสวนออกหมายเรียก ไปแล้วเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ และหลังสอบปากคำเสร็จสิ้น พนักงานสอบสวนจะปล่อยตัวชั่วคราว ทนายความคนดังกล่าว ตามกระบวนการของกฎหมาย โดยการปล่อยตัวชั่วคราวครั้งนี้ ก็เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันกับรองอ๊อฟ เนื่องจากทั้งคู่ถูกดำเนินคดีในข้อหาเดียวกันคือร่วมกันทำลายพยานหลักฐาน
สำหรับคดีนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าพนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานแน่นหนา ที่จะดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าวกับทนายความคนดังกล่าวได้ ซึ่งหากไม่มีพยานหลักฐาน ศาลคงไม่อนุญาตให้ออกหมายเรียก อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ ตนจะเดินทางไปประชุมร่วมกับตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อเร่งรัดสำนวนการสืบสวนสอบสวน เตรียมขึ้นรูปคดี เพื่อสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการพิจารณามีความเห็นทางคดี
สำหรับทนายความของแอมนั้น เดิมที พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้ออกหมายเรียกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อให้ทนายความคนดังกล่าว เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันทำลายพยานหลักฐาน กับพนักงานสอบสวน ภายในวันอังคารที่ 30 พฤษภาคม ซึ่งก่อนหน้านี้ ทนายความของแอม ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหา ร่วมกันทำลายพยานหลักฐาน กรณี เคลื่อนย้ายทรัพย์สินของแอม ได้ติดต่อขอพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในวันพุธที่ 31 พฤษภาคม แทน ซึ่งพนักงานสอบสวนก็อนุญาต จากนั้นเมื่อวานนี้ มีกระแสข่าวออกมาว่าทนายความคนดังกล่าว จะเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปรามเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ทำให้สื่อมวลชนจำนวนมากไปเฝ้ารอตลอดทั้งวัน แต่ก็ไร้เงา จนล่าสุดเข้าพบพนักงานสอบสวนเช้านี้แทน .-สำนักข่าวไทย