DSI ส่งสำนวนคดีนำเข้ารถจดประกอบเลี่ยงภาษี 21 คัน ให้อัยการ

ดีเอสไอ 25 พ.ค.- DSI ส่งสำนวนคดีพิเศษกรณีการนำรถยนต์จดประกอบจำนวน 21 คัน เข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงการเสียอากร ให้พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ พร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหารวม 4 ราย


พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผู้อำนวยการกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางไปส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 86/2562 ให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ พร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหารวม 4 ราย ประกอบด้วย นิติบุคคลซึ่งเป็นบริษัทที่นำเข้าโครงรถยนต์เก่าใช้แล้วและเครื่องยนต์เก่าใช้แล้ว จำนวน 2 บริษัท และกรรมการของนิติบุคคล ผู้นำเข้าในขณะเกิดเหตุ จำนวน 2 ราย ในข้อหาความผิดฐาน “ร่วมกันนำของที่ผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามา
ในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากร โดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสําหรับของนั้น ๆ” ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 243 มาตรา 253 (พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27) ประกอบพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530 มาตรา 6 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

คดีนี้เป็นกรณีที่สืบเนื่องจากการสืบสวนขยายผลเกี่ยวกับขบวนการนำเข้ารถยนต์จดประกอบโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเข้าตรวจค้นสถานประกอบการที่ใช้เป็นสถานที่ประกอบรถยนต์จากโครงรถยนต์เก่าใช้แล้วและเครื่องยนต์เก่าใช้แล้วที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งจากการตรวจค้นสถานประกอบการดังกล่าว พบรถยนต์ต้องสงสัยหลายคันจอดอยู่ โดยเป็นรถยนต์ที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการยื่นเรื่องชำระภาษีสรรพสามิตเพื่อจะดำเนินการจดทะเบียนเป็นรถยนต์จดประกอบต่อกรมการขนส่งทางบก คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงได้อายัดรถยนต์ทั้งหมดไว้ทำการตรวจสอบ


ต่อมาได้สอบสวนพบว่า รถยนต์ของกลางจำนวน 21 คันในคดีนี้ มีหมายเลขตัวถังและหมายเลขเครื่องยนต์ตรงกับหมายเลขที่ผลิตออกมาจากโรงงานของบริษัทรถยนต์ในต่างประเทศ และยังสอบสวนพบว่าบริษัทผู้นำเข้าโครงรถยนต์เก่าใช้แล้ว และบริษัทผู้นำเข้าเครื่องยนต์เก่าใช้แล้วมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน อันเป็นพยานหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าบริษัททั้งสองมีเจตนาร่วมกันในการนำรถยนต์ของกลางจำนวน 21 คัน ซึ่งเป็นรถยนต์คันเดียวกับที่มีการใช้งานแล้วในต่างประเทศ และเป็นของที่เคยประกอบเป็นสิ่งสมบูรณ์ (รถยนต์) ในต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักร ด้วยวิธีการแยกชิ้นส่วนนำเข้ามาเป็นส่วน ๆ ต่างหากจากกัน และเมื่อได้นำโครงรถยนต์เก่าใช้แล้วและเครื่องยนต์เก่าใช้แล้วเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นที่เรียบร้อย ก็จะนำมาประกอบเป็นรถยนต์สมบูรณ์เช่นเดิมในราชอาณาจักร อันเข้าข่ายเป็นการหลีกเลี่ยงอากรที่พึงเก็บแก่สิ่งที่สมบูรณ์แล้ว และเป็นเหตุให้รัฐขาดรายได้เป็นเงินภาษีอากรที่พึงจัดเก็บได้จากการนำเข้าสินค้า

คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงส่งเรื่องให้กรมศุลกากรพิจารณาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานดังกล่าว และต่อมากรมศุลกากรประเมินเรียกเก็บอากรขาดสำหรับรถยนต์จากผู้นำเข้า ตามมาตรา 6 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530 รวมอากรขาด เบี้ยปรับ และเงินเพิ่มของรถยนต์ทั้ง 21 คัน เป็นเงินจำนวน 19,314,330 บาท จึงมีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีแก่บริษัทผู้นำเข้าและกรรมการนิติบุคคลขณะเกิดเหตุรวม 4 ราย ในคดีนี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟเมียนมา

ตัดแขนขาเมียนมา ราคาน้ำมันพุ่ง-จำกัดการซื้อ

เข้าสู่วันที่ 3 สำหรับการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่งแม่สอดของไทยไปเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำมันในฝั่งเมียวดี

หมายจับ สส.ปูอัด

“สส.ปูอัด” เงียบหาย หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน

“สส.ปูอัด” เงียบหาย ไม่รับสายสื่อ หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน ด้าน “เลขาสภาฯ” เผยเรื่องยังไม่ถึงสภา หากมาแล้วต้องบรรจุวาระขอสมาชิกให้อนุญาตดำเนินคดี

มือถือแตงโม

ดีเอสไอรับมอบมือถือแตงโม ส่งสถาบันนิติวิทย์ฯ ตรวจดีเอ็นเอ เช้านี้

โทรศัพท์มือถือ “แตงโม ภัทรธิดา” ถึงมือดีเอสไอ เก็บเข้าห้องมั่นคงลับสูงสุดตลอดคืน เช้านี้นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าห้องแล็บตรวจหาหลักฐาน