“บิ๊กโจ๊ก” ไม่หวั่นทนายพัช จ่อฟ้องตำรวจ ม.157

กทม. 24 พ.ค.- “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” ยืนยันไม่หวั่นกรณี “ทนายพัช” จ่อฟ้องตำรวจ ม.157 ย้ำตำรวจทำสำนวนตามพยานหลักฐาน


12.00 น. พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่นางสาวธันย์นิชา หรือ ทนายพัช ทนายความของ นางสรารัตน์ หรือ แอม ไซยาไนด์ ที่มีข่าวว่าเตรียมที่จะฟ้องตำรวจในความผิด ม.157 และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว บอกว่าเป็นสิทธิของทุกคนหากจะฟ้องกลับ ยืนยันว่าไม่ได้หนักใจอะไร และออกหมายเรียกไปตามพยานหลักฐานต่างๆที่ปรากฏ

เมื่อถามว่าจะดำเนินการอย่างไรกับผู้ที่อวดเก่ง จองหอง ร้อนวิชา พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ก็บอกว่า ไม่รู้สึกอะไร ณ วันนี้ก็ทำตามกฎหมาย และได้ออกหมายเรียกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ในวันอังคารนี้ ถ้าหากครบกำหนดหมายเรียกก็จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอศาลอาญา เพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับ พร้อมยืนยันตนเองและพนักงานสอบสวนทั้งชุดทำงาน เป็นธรรมและไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา ตามพยานหลักฐาน ซึ่งคดีนี้ ตำรวจสำนวนสรุปไปได้ถึง 90% แล้ว เหลือเพียงเส้นทางการเงินอีก 7-8 บัญชี จาก 180 บัญชีที่ตรวจสอบทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ทราบถึงที่มาของสารไซยาไนด์ และในวันศุกร์นี้จะขึ้นรูปคดีเตรียมสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการสั่งฟ้อง และตอนนี้มีการวางตัวบุคคลที่จะขึ้นเบิกความต่อศาลไว้แล้ว พร้อมเชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะมีการรับสารภาพ เพราะจำนนต่อพยานหลักฐาน


ขณะเดียวกัน เมื่อสื่อมวลชนถามว่าหากผู้ถูกออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ทางตำรวจจะให้ประกันตัวหรือมไม่ พลตำรวจเอกสุรเชรษฐ์ บอกว่า หากผู้ถูกออกหมายเรียกปรากฏตัวก็จะต้องดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขว่ามีความพยายามไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไม่ ส่วนจะขอหมายขังตาม ป.วิอาญา 134 หรือไม่นั้น ก็มีหลักเกณฑ์อยู่แล้วตามกรอบของกฎหมายก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ

นอกจากนี้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยังบอกอีกว่าได้เตรียมทีมทนายความไว้คอยช่วยเหลือนายรพี ตำรวจ หรือ สื่อมวลชน ในกรณีหากถูกฟ้องกลับอีกด้วย ส่วนที่ทนายพัชไปพูดในรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่งบอกว่าที่ศาลยกคำร้องขอหมายจับเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ พลตำรวจเอกสุรเชรษฐ์ ยืนยันกลับว่าหลักฐานเพียงพอ แต่ที่ศาลให้กลับไปออกเป็นหมายเรียก เพราะเป็นข้อหาเดียวกันกับรองอ๊อฟ จึงจะให้ความเป็นธรรมแบบเดียวกันที่ออกหมายเรียกก่อนเช่นกัน

ทั้งนี้ ในเวลา 14.00 น. พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์​ จะไปประชุม​ร่วมกับอธิบดี​กรม​โรงงานอุตสาหกรรม​ เพื่อหารือเรื่องระเบียบ​การจำหน่ายสารไซยาไนด์​ และจะสอบปากคำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ