กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – สืบนครบาลรวบสาวหนองหญ้าไซ หลอกขายเสื้อผ้า ครีมบำรุงผิว ตามกระแสออนไลน์ ผู้เสียหายจำนวนมาก อ้างติดหนี้พนันออนไลน์
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบ รวมทั้งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก จึงกำหนดให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ ห้วงระหว่างวันที่ 15-31 พ.ค.66 โดยให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาลร่วมกับชุด PCT5 ได้ออกลาดตระเวนออนไลน์ จนพบความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งเคยถูกคนร้ายชื่อ น.ส.รส ตัวการในการหลอกขายเสื้อผ้า ชุดนอนวัยรุ่น ครีมบำรุงผิวตามกระแส ครีมกันแดด ลิปสติก มีประวัติผู้ร้องเรียน 15 ราย มูลค่าความเสียหาย 3 แสนบาท พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เพื่อตัดวงจรการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี เนื่องจากตามพฤติการณ์การก่อเหตุ ชุดสืบสวนเชื่อว่าผู้ต้องหารายดังกล่าวน่าจะยังคงก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.พิมพ์นภา หรือ รส อายุ 20 ปี ที่บ้านในพื้นที่อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย ที่ 233/2564 ลงวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าร้านขายของชำแห่งหนึ่งในอำเภอหนองหญ้าไซ
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การภาคเสธว่า ตนเรียนจบชั้น ม.6 เริ่มขายสินค้าออนไลน์ผ่านแอปฯ มาตั้งแต่อายุประมาณ 14 ปี ผ่านหลายบัญชี สินค้าที่ขาย อาทิ เสื้อผ้า ชุดนอนวัยรุ่น ครีมบำรุงผิวตามกระแส ครีมกันแดด ลิปสติก จนเมื่อช่วงอายุประมาณ 18 ปี เริ่มติดพนันออนไลน์ จึงนำเงินที่ได้มาจากยอดการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ของลูกค้าที่สั่งมาเล่นพนันออนไลน์ โดยหวังจะได้เงินคืน แต่กลับยิ่งเสียพนันเพิ่ม จึงเกิดปัญหาไม่สามารถสั่งและส่งของให้ลูกค้าได้ตามคำสั่งซื้อ แต่อ้างว่าได้มีการเจรจากับลูกค้าส่วนใหญ่ ไม่ได้หนีหาย เพียงแค่หาเงินมาจ่ายคืนลูกค้าไม่ได้ ทั้งนี้ ตนทราบว่ามีผู้เสียหายซึ่งเคยถูกตนรับเงินมาแต่ไม่ได้ส่งสินค้าให้ตามคำสั่งประมาณ 15 ราย โดยทราบจากชื่อของตนไปปรากฏใน blacklistseller.com ความเสียหายเฉลี่ยต่อราย รายละประมาณ 5,000-140,000 บาท มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 300,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. -สำนักข่าวไทย