จ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม “รองอ๊อฟ” อดีตสามี “แอม”

16 พ.ค. – ตร.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี แจ้งความกองปราบฯ เอาผิด “รองอ๊อฟ” อดีตสามี “แอม ไซยาไนด์” เพิ่ม ในข้อหาช่วยเหลือ ทำลาย ซ่อนเร้น ฯลฯ หลังพบหลักฐานยักย้ายของกลางช่วยอำพรางความผิดให้ “แอม” คาดจะแจ้งข้อหาได้วันนี้


พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม วางยาฆ่าชิงทรัพย์ “ก้อย” อายุ 32 ปี ว่าในวันนี้ได้เดินทางไปประชุมร่วมกับทีมสอบสวน ที่ตำรวจภูธรภาค 7 โดย เบื้องต้น สภ.บ้านโป่ง ได้มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามฯ ให้ดำเนินคดีพ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ รอง ผกก.สภ.สวนผึ้ง อดีตสามีแอม ในความผิดฐาน “ช่วยเหลือผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลงโดยการทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด” ตามมาตรา 184 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยวันนี้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม จะมีการแจ้งดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.วิฑูรย์ ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางมาสอบปากคำ และประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนทั้งหมด ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 จังหวัดนครปฐม ในช่วงบ่ายวันนี้

พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับ พ.ต.ท.วิฑูรย์ นั้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี สืบพบพยานหลักฐานว่า หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.วิฑูรย์ กับ นางสรารัตน์ ได้เดินทางไปที่บ้านพ่อแม่ของ พ.ต.ท.วิฑูรย์ ที่ จ.สุโขทัย เพื่อเยี่ยมเยียนในช่วงสงกรานต์ แต่ขณะนั้น นางสรารัตน์ ได้นำกระเป๋าและทรัพย์สินของ “ก้อย” ผู้ตายติดตัวไปด้วยเพื่อนำไปซุกซ่อน ก่อนต่อมาภายหลังเกิดเปลี่ยนใจ จึงทำทีออกอุบายให้พ่อแม่ของ พ.ต.ท.วิฑูรย์ ส่งกลับมาให้ที่บ้านพักของ พ.ต.ท.วิฑูรย์ ที่ จ.นครปฐม แต่เมื่อ พ.ต.ท.วิฑูรย์ ได้รับของกลางแล้วกลับนำไปมอบให้กับนางสรารัตน์ ที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี แทนที่จะนำส่งให้กับตำรวจตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นนางแอม จึงให้น้องสะใภ้ส่งต่อไปให้กับ น.ส.แก้ว ที่บ้านพักใน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยที่ น.ส.แก้ว นั้น ไม่ทราบว่าภายในกล่องพัสดุเป็นสิ่งของใด กระทั่งเมื่อเปิดออกดูสงสัยว่าน่าจะเป็นทรัพย์สินของผู้ตาย จึงรีบนำมามอบให้กับตำรวจตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานดังกล่าว จนนำมาสู่การตรวจสอบ และแจ้งข้อกล่าวหาแก่ พ.ต.ท.วิฑูรย์ ในครั้งนี้


ส่วนประเด็นประเด็นที่ “แอม” ผู้ต้องหาในคดีใช้สารไซยาไนด์ วางยาคนใกล้ชิด มีผู้เสียชีวิตกว่า 10 คน โดยอ้างว่านำสารไซยาไนด์ ให้ “ก้อย” ใช้กับยาเสพติด นั้น พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าจากประสบการณ์การทำงานทางด้านยาเสพติดมาอย่างยาวนาน การนำสารไซยาไนด์ ไปใช้ร่วมกับยาเสพติดนั้น ไม่เคยมี ไม่เคยเห็น และไม่เคยพบ ซึ่งปกติของผู้เสพจะไม่ทำกัน ซึ่งส่วนตัวเห็นว่ากรณีดังกล่าวอาจจะเป็นการกระทำของผู้ต้องหาเองคิดผสมลงไปเอง เพราะสารเสพติด มีฤทธิ์ทำให้เคลิ้ม และถ้าใส่ไซยาไนด์แล้วเสียชีวิตอาจจะทำให้เจ้าหน้าที่เข้าใจว่าใช้ยาเสพติด เกินขนาดก็เป็นได้ ซึ่งอาจเป็นการกล่าวอ้างของผู้ต้องหามากกว่า. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]