“บิ๊กโจ๊ก” ยันคดี “แอม ไซยาไนด์” การสืบสวนสมบูรณ์ศุกร์นี้

กทม. 10 พ.ค.- “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” ยันการสืบสวนคดี “แอม ไซยาไนด์” สมบูรณ์ศุกร์นี้! ส่วนเงิน 78 ล้านบาทในบัญชี รอข้อมูลจากธนาคาร 2 วันชัดเจน หากพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงใคร ต้องถูกดำเนินคดี


เวลา 11.30 น. วันนี้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางเข้ามาแถลงข่าวที่สโมสรตำรวจ ก่อนเปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีของ “แอม ไซยาไนด์” ว่า ขณะนี้พยานหลักฐานในคดีนี้ ไม่มีอะไรน่ากังวลใจแล้ว เพราะทางตำรวจสามารถรวบรวมได้มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือเพียงรวบรวมเส้นทางการเงิน ข้อมูลรายละเอียดในบัญชีธนาคารต่างๆ และผลตรวจจากทางนิติวิทยาศาสตร์ ก่อนจะเอาข้อมูลทั้งหมดมาผนวกในรายงาน เบื้องต้นคาดว่าในวันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคมนี้จะครบ 100 เปอร์เซ็นต์ในส่วนของการสืบสวน ส่วนประเด็นจะมีการออกหมายจับใครหรือไม่ในวันนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า หากพยานหลักฐานไปถึงใคร ก็จะดำเนินคดีแน่นอน แต่จะเป็นคนใกล้ชิดแอมหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานอยู่ แต่เบื้องต้นต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเงินในบัญชีของแอมที่พบว่ามีเงินสูงถึง 78 ล้านบาทนั้น รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ตอนนี้ทราบข้อมูลรายละเอียดของเงินเข้าแล้วในช่วงปี 2563-2566 แต่ในส่วนของเงินออกไปอยู่ที่ไหนหรือใคร อยู่ระหว่างตรวจสอบ ซึ่งขอเวลา 2 วันถึงจะได้ข้อมูลครบในทุกประเด็น ทั้งเส้นทางการเงินและข้อมูลในบัญชี ส่วนในขณะนี้จากการตรวจสอบยอดเงินทั้งหมดพบว่าเงินออกจากบัญชีไปทั้งหมดแล้ว แต่จะเกี่ยวข้องกับการเล่นพนันออนไลน์หรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบ


นอกจากนี้ในส่วนของ “รองอ๊อฟ” อดีตสามี จะรู้เรื่องเงินในส่วนนี้หรือไม่นั้น จากการสอบถามเจ้าตัว ยอมรับว่า รู้เรื่องเงินตั้งแต่แรก แต่ไม่รู้ว่าเป็นเงินอะไร และรู้เรื่องเงินที่แอมเอามาใช้หนี้ให้ตัวเองจำนวน 4 ล้านบาทด้วย ส่วนจะมีความเชื่อมโยงว่ามีส่วนร่วมรู้เห็นการตายของใครหรือไม่ อยู่ระหว่างสืบสวน รวมถึงการซื้อประกันก็ต้องตรวจสอบก่อน

ส่วนกรณีที่ใบมรณบัตรไม่ระบุว่ามีบุคคลทำให้ตาย จะเป็นข้อต่อสู้ของผู้ต้องหาหรือไม่นั้น ในบางศพ ไม่ได้มีการส่งศพตรวจที่นิติเวช แต่การออกใบมรณบัตร เจ้าหน้าที่ปกครองเป็นฝ่ายดำเนินการ แต่ศาลจะรับฟังในส่วนของแพทย์นิติเวชที่มีการชันสูตร รวมถึงผู้เชี่ยวชาญที่ตำรวจได้สอบปากคำว่าหลักฐานอื่นที่ปรากฏที่ศพจะเชื่อมโยงไปถึงการฆาตกรรมหรือไม่ รวมไปถึงเทียบเคียงผลการวิจัยของสหรัฐอเมริกาด้วยที่ระบุว่า “ฆาตกรต่อเนื่อง” ที่เป็นเพศหญิง มักจะฆ่าคนใกล้ชิด และสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการประสงค์ต่อทรัพย์ ซึ่งแอมถือว่าเข้าข่ายเป็นฆาตกรต่อเนื่องตามงานวิจัย

ส่วนการไล่ไทม์ไลน์การก่อคดี พบว่าทราย หรือ นางสาวมณฑาทิพย์ เป็นเคสแรกตั้งแต่ปี 2558 จากนั้นมาปี 2563 มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1-2 ศพ ต่อมาปี 2565 ผู้เสียชีวิตทยอยเพิ่มมากขึ้นถึง 11 ศพ และในปี 2566​ มีผู้เสียชีวิตอีก 3 ศพ ก่อนถูกทางตำรวจจับได้ โดยช่วงเวลา 2564-2566 แอม น่าจะมีไซยาไนด์อยู่ในมือ ทำให้ปริมาณศพเพิ่มสูงขึ้น สอดคล้องกับช่วงที่มีเงินหมุนเวียนในบัญชีจำนวนมาก ส่วนประเด็น “สารต้านพิษ” ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนสั่งมา แต่จากร่องรอยและข้อมูลพอจะแกะรอยการสั่งซื้อได้บ้างแล้ว แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าสั่งโดยผู้ใด


ขณะที่ในช่วงเวลาประมาณบ่าย 2 วันนี้ ทางตำรวจได้นัดแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนะสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม มาให้ข้อมูลรายละเอียดในสำนวน เพื่อให้แน่นหนาขึ้น โดยจะเป็นการดูภาพรวมของผู้เสียชีวิตทุกศพ โดยจะมีตำรวจกองปราบปราม และที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้ามาประชุมด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เติมน้ำมันไม่จ่าย

แท็กซี่เติมน้ำมันไม่จ่าย ซิ่งหนีพุ่งชนรถ 5 คันรวด

ตำรวจชัยภูมิ ไล่ล่าแท็กซี่เติมน้ำมัน แล้วซิ่งหนี ไม่จ่ายเงิน แถมยังขับพุ่งชนรถตำรวจ รถเก๋งและรถ 6 ล้อ รวม 5 คันรวด

ขับรถชนคน

คนร้ายขับรถชนกลุ่มคนในตลาดคริสต์มาสเยอรมนี ดับ 2 ราย

คนร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าชนกลุ่มคนจำนวนมากที่จับจ่ายซื้อของและเที่ยวชมตลาดคริสต์มาสในเยอรมนีในช่วงเย็นวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น

นักการเมืองแห่งปี

“แพทองธาร” ปลื้ม นอร์ทโพล ประชาชนให้เป็น “นักการเมืองแห่งปี”

“แพทองธาร” นายกฯ ปลื้ม นอร์ทโพล เผยประชาชนยกให้เป็น “นักการเมืองแห่งปี” รับกดดัน แต่ขอทำงานเต็มที่-ไม่สร้างดราม่า ชี้ ครม.ทุกคนทำงานหนัก หากช่วยกันจะพัฒนาประเทศ