กองปราบรวบอีก 6 สมาชิกแก๊ง “อดีตพระคม”

กทม. 9 พ.ค.-กองปราบรวบพระลูกวัด-คนขับรถตู้ “อดีตพระคม” ได้เพิ่มอีก 6 คน พร้อมตามยึดทรัพย์สินทั้งเงินสด และทองคำมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท พบพฤติการณ์อดีตพระคม ตั้งตัวเป็นใหญ่ สั่งพระลูกวัดให้อยู่ภายใต้อาณัติ และโทรศัพท์บอกให้ย้ายทรัพย์สินระหว่างถูกจับ

พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม แถลงความคืบหน้า หลังเจ้าหน้าที่มีการจับกุม นายคม คงแก้ว หรืออดีตพระอาจารย์คม อภิวโร อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี พร้อมกับพวกรวม 3 คน ที่ก่อเหตุร่วมกันยักยอกเงินวัดไปกว่า 180 ล้านบาท โดยพบนำไปซ่อนฝังดินไว้ด้านหลังวัด และจากการสอบสวนนายคม เจ้าหน้าที่ขยายผลต่อจนสามารถขอศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ในความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ รับของโจร” และเข้าไปจับตัวภายในวัดเนื่องจากพบกระทำความผิดร่วมกัน ก่อนจะนำตัวไปลาสิกขา และควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่กองปราบปราม


ขณะเดียวกัน ได้ตามยึดเงินสดได้อีกกว่า 76 ล้านบาท ทองคำแท่ง และทองคำรูปพรรณ มูลค่ารวมกว่า 22 ล้านบาท พระเครื่องอีกหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท โดยยึดได้จากอดีตพระลูกวัดป่าธรรมคีรี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 5 คนคือ นายบุญส่ง นายบุญเหลือ นายธนกฤษ นายบัณฑิต นายณัฐพัชร์ และคนขับรถตู้อีก 1 คน คือ นายบุญศักดิ์ รวม 6 คน

พล.ต.ต.มนตรี เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นผลมาจากการสอบปากคำนายวุฒิมา ที่ให้การว่าได้นำเงินของวัด 9 ล้านบาท ไปซื้อทองคำตามคำสั่งของนายคม ให้มาเก็บไว้ที่ตู้เซฟภายในกุฏิ หลังนายคม ถูกจับ ยังได้ขอยืมโทรศัพท์มือถือของตำรวจ โดยนายคม อ้างว่าจะโทรศัพท์ไปหาญาติให้นำยารักษาโรคประจำตัวมาให้ แต่กลับแอบสั่งให้พระลูกวัดทั้ง 5 รูป ช่วยกันขนย้ายเงินสด และทองคำไปซ่อนตามจุดต่างๆ ของทางวัดทั้งในป่า ฝังดิน รวมทั้งสิ่งปลูกสร้างของทางวัดอีกหลายจุด เมื่อช่วง 3 นาฬิกา ของวันที่ 6 พฤษภาคม


ด้าน พันตำรวจโทสุริยศักดิ์ จิราวัสน์ รองผู้กำกับการกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า การซุกซ่อนทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหากระจายไปในหลายจุดของพื้นที่วัดกว่า 37 ไร่ ตำรวจได้สอบสวนและสามารถตรวจยึดมาได้เกือบทั้งหมดแล้ว เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีพระลูกวัดรูปอื่นเกี่ยวข้อง และอยู่ระหว่างการสืบสวนเพิ่มเติมว่าได้นำทรัพย์สินไปไว้ที่อื่นหรือไม่ แต่พบเพียงว่ากำลังนำทรัพย์สินใส่รถตู้ไปไว้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใกล้เคียงกับวัด ซึ่งสามารถยึดมาได้ก่อน

สำหรับพระลูกวัดป่าธรรมคีรีแห่งนี้พบว่ามีทั้งหมด 22 รูป แต่สึกไปแล้ว 9 รูป วัดแห่งนี้สร้างโดยนายคม ส่วนใหญ่พระลูกวัดจะอยู่ภายในอาณัติของนายคม ไม่มีใครกล้ายุ่งเรื่องทรัพย์สินที่ได้รับบริจาค ยกเว้นพระลูกวัดที่อยู่ใกล้ชิด 5 รูปนี้ นายคมจึงนำเงินที่ได้รับบริจาคไปไว้ในจุดต่างๆ ของทางวัดโดยที่ไม่กังวลว่าจะสูญหาย ส่วนพระลูกวัดรูปอื่นยังไม่พบมีความผิด

ส่วนทรัพย์สินที่พบทั้งเงินสดและทองคำ จะไม่นำไปฝากธนาคารเพราะตั้งใจจะปิดบังอำพรางเส้นทางการเงิน ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากผู้ที่ศรัทธานำเงินมาถวาย เพื่อบำรุงพระพุทธศาสนาทั้งหมด การตรวจสอบยังไม่พบว่าจะบุคคลใดนำเงินเหล่านี้มาถวายเพื่อจะฟอกเงิน จึงยังไม่พบว่าผู้ที่ถวายเงินจะมีความผิดร่วมด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน

“สันธนะ” เปิดใจหลังเคลียร์ใจ “ชูวิทย์” กลับไทยขึ้นศาล

“สันธนะ” เผย นอนคิดมา 1 คืนเริ่มใจอ่อนรับคำขอโทษ “ชูวิทย์” รับรู้ถึงความจริงใจ แต่คดีอาญาถอนฟ้องไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามกฎหมาย