“บิ๊กโจ๊ก” โยนกรมโรงงานฯ เอาผิดดาราสาว ใช้ไซยาไนด์ไล่สัตว์

กทม. 8 พ.ค.-“บิ๊กโจ๊ก” ยันกรมโรงงานฯ หละหลวม ไม่รู้จำนวนไซยาไนด์ออกนอกระบบ ขายให้คนใช้ผิดประเภท ส่วนจะดำเนินคดีกับดาราสาวที่ใช้ไซยาไนด์ไล่สัตว์เลื้อยคลานหรือไม่ อยู่ที่กรมโรงงานฯ เป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์

พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยหลังการประชุมบอกว่าในวันนี้เป็นการมอบหมายงาน เก็บประเด็นรายละเอียดในสำนวนการสอบสวนในทุกคดีที่ยังขาดอยู่ ส่วนคดีนางสาวมณฑาทิพย์ ขาวอินทร์ หรือ “ทราย” ที่เสียชีวิตในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ในวันพรุ่งนี้จะมีการออกหมายจับ “แอม”เพิ่ม ในข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ขณะที่พนักงานสอบสวนก็ยังต้อง รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมว่าสามารถออกหมายจับในข้อหาอื่นได้อีกหรือไม่ เบื้องต้นคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ 100% ส่วนจะมีการออกหมายจับใครที่เกี่ยวข้องในคดีนี้บ้าง จะมีความชัดเจนภายใน 2 วันนี้


สำหรับคดี “ก้อย” เท้าแชร์จังหวัดราชบุรี ขณะนี้มีความคืบหน้ากว่า 80% ซึ่งเมื่อรวบรวมพยานหลักฐานแต่ละคดีเสร็จสิ้นแล้วทั้งหมดก็จะมีการส่งฟ้องอัยการ ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดโดยขณะนี้ยังรอข้อมูลการใช้โทรศัพท์ และเส้นทางการเงินบัญชีทั้งหมดเพื่อประกอบสำนวนคดี

ส่วนการที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่กรมโรงงานไม่ได้บกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ เบื้องต้นต้องดูรายละเอียดเกี่ยวกับระเบียบทั้งหมดก่อน ซึ่งจากการสอบข้อมูลเห็นแล้วว่ามีช่องโหว่และความหละหลวม เพราะไม่รู้ว่ามีสารไซยาไนด์ออกไปนอกระบบจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งมองว่าหากการตรวจสอบยังไม่ครอบคลุมแบบนี้อาจจะมีปัญหาเคสอื่นเกิดขึ้นอีกจำนวนมาก


ส่วนบุคคลที่นำไซยาไนด์ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ เช่น นักแสดงสาวที่นำไปใช้ไล่สัตว์เลื้อยคลาย เป็นหน้าที่ของกรมโรงงานอุตสาหกรรมที่จะเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยให้ตำรวจเป็นผู้ทำสำนวน ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้รวบรวมข้อมูลจากการสอบปากคำบุคคลนี้ไว้ทั้งหมดแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย