7 พ.ค.-ตำรวจกองปราบปรามเตรียมควบคุมตัว อดีตพระคมและพวกรวม 3 คน ร่วมยักยอกเงิน 180 ล้านบาท ของวัดป่าธรรมคีรี จ.นครราชสีมา ไปฝากขังที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พรุ่งนี้ พร้อมค้านประกันตัว
นายคมและพวกยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่กองปราบปราม เพื่อสอบขยายผลหาความเชื่อมโยง และแหล่งเก็บทรัพย์ที่ยักยอกไป โดยพนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวทั้ง 3 ไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ฝากขังในพรุ่งนี้ พร้อมคัดค้านการประกันตัว
ขณะที่ “แพรรี่” ไพรวัลย์ วรรณบุตร โพสต์ภาพและข้อความเกี่ยวกับข่าวนี้ว่า “พระบางรูปวางท่าเป็นพระวิปัสสนาจารย์ สอนให้คนลดละ แต่ตัวเองยักยอกเงินบริจาค 100 ล้าน” และยังได้โอวาทธรรม อดีตพระอาจารย์คม โดย ระบุว่า “อ้อ หรอคะ! ” “คนมารยาสาไถยมีมา อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน พระพุทธเจ้าท่านสอนว่า ไม่ควรไว้ใจคนที่แกล้งทำสงบเสงี่ยม คนสมัยนี้หน้าอย่างหลังอย่าง เจ้าเล่เพทุบายหลอกให้เชื่อว่าเป็นคนดี เพื่อกอบโกย ลาภ ยศ สุข สรรเสริญต่างๆ”
สำหรับจุดเริ่มต้นของคดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาฯ รับเรื่องร้องเรียนทางลับ ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของอดีตพระทั้ง 2 รูป เกี่ยวกับการประพฤติผิดพระธรรมวินัยเสพเมถุน และเรื่องของการบริหารเงินไม่โปร่งใส นำเงินบริจาคไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือนำเงินวัดไปใช้ส่วนตัว ภายหลังรับเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ทั้งคู่มีพฤติกรรมส่อไปในทางดังกล่าวจริงแจ้งไปยังคณะปกครองตรวจสอบ ส่วนเรื่องยักยอกเงินวัดนั้นเป็นเรื่องของคดีอาญา ประสานตำรวจสอบสวนกลางให้ช่วยตรวจสอบจนนำมาสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน
สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 ให้การรับสารภาพว่า ได้นำเงินของวัดออกมาจริง รวมถึงในระหว่างที่ถือสมณเพศนั้น ได้มีการเสพเมถุนภายในกุฏิของวัดอันถือเป็นการอาบัติปาราชิก ตามข้อบัญญัติทางธรรมวินัยอีกส่วนหนึ่ง ผู้ต้องหาจึงสมัครใจที่จะลาสิกขา ส่วนจำนวนเงิน เบื้องต้นพบเงิน 51 ล้านบาท ในคอนโดของน้องสาวนายคม ย่านนนทบุรี ถูกเก็บไว้ในลังโฟมและกระเป๋าเดินทาง รวมถึงยังพบเงินที่ถูกเก็บไว้ในบัญชีธนาคารอีกกว่า 130 ล้านบาท ทั้งนี้ ยอดเงิน 180 ล้านบาท เป็นแค่ยอดที่ตรวจสอบพบเบื้องต้น แต่อาจจะมีมากกว่านี้ คงต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นถูกแจ้งดำเนินคดี ในข้อหาเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และรับของโจร.-สำนักข่าวไทย