“แอม ไซยาไนด์” ถูกออกหมายจับเพิ่มอีก 2 คดี

3 พ.ค. – มหากาพย์คดี “แอม ไซยาไนด์” ตอนนี้ตำรวจยังยืนยันมีผู้ต้องหาเพียงคนเดียว ออกหมายจับไปแล้ว 12 หมาย และเช้านี้ออกเพิ่มอีก 2 หมาย แต่ในหมายจับนี้เป็นของแอมทั้งหมด ยังไม่เกี่ยวข้องกับผู้ร่วมขบวนการที่เป็นตำรวจซึ่งเป็นคนใกล้ชิดแอม


คดีนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยกับทีมข่าวภายหลังเรียกประชุมชุดสืบสวนที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนว่า เดิมทีคดีนี้ออกหมายจับแล้ว 12 หมาย ในคดีของบี , เอ๊ะ, จุ๋ม, ผู้กองนุ้ย , ครูต่าย , นิด , ครูอ๊อด , แด้ , ก้อย , สารวัตรปู , น้อยขายผัก และปลา

แต่ล่าสุดมีการออกหมายจับเพิ่มอีก 2 หมายกับแอม ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน คือคดีของ น.ส.ดาริณี หรือ ฟ้า อายุ 34 ปี ที่เสียชีวิตภายในบ้านพัก อ.สามพราน จ.นครปฐม เหตุเกิดวันที่ 13 ธันวาคม ปี 63 และอีกหมายคือคดี น.ส.สาวิตรี หรือ หนิม อายุ 40 ปี ภรรยานายดาบตำรวจ ตม.บึงกาฬ ที่เสียชีวิตในพื้นที่มุกดาหาร เมื่อวันที่ 25 พดฤศจิกายน ปี 2563 ทำให้ขณะนี้เหลือเพียงคดีของเหยื่อชื่อ มณฑาทิพย์ หรือ ทราย ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ เท่านั้น อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำพยานในช่วงไทม์ไลน์ที่หายไป หลังแอมไปรับทรายก่อนกลับมาที่คอนโดแล้วชีวิต


เค้นสอบคนใกล้ชิดแอม ยังให้การปฏิเสธ
ส่วนคนที่ร่วมกระทำความผิดในคดีแอม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่าเป็นตำรวจที่ใกล้ชิดแอม ตำรวจนายนี้เคยเรียกมาสอบแล้ว 1 ครั้ง เพราะพบความเชื่อมโยงเรื่องเส้นทางการเงิน การใช้โทรศัพท์ และพฤติกรรมอื่นๆ ทำให้คาดว่าจะออกหมายจับได้เร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้หลุดปากพูดว่า ชุดสืบได้เรียก พันตำรวจโท สามีเก่าแอม มาสอบปากคำเพิ่ม เพราะเป็นคนที่ขับเก๋งสีขาวไปรับแอมที่อุดรธานี หลังแด้เสียชีวิต จากนั้นนำรถไปจำนำในพื้นที่นครปฐม ส่วนการตรวจไทมไลน์ ยังพบว่าแอมมักก่อเหตุในช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และเมื่อก่อเหตุแล้ว จะกลับมาหาคนใกล้ชิดทุกครั้ง และจะไปต่างจังหวัดด้วยกัน ตำรวจคาดว่าเป็นการสร้างหลักฐานที่อยู่ในการเบี่ยงเบนคดี นอกจากนี้การสืบหาหลักฐานเพิ่ม ทำให้พบว่าแอมเป็นหนี้บัตรเครดิต ถูกทวงหนี้ ติดแบล็กลิสต์เครดิตบูโร ที่เกิดจากการเล่นพนันออนไลน์ แต่ตำรวจที่เป็นสามีเก่ามีหนี้ด้วยหรือไม่ กำลังเร่งสอบสวน เพราะตอนนี้ทั้งแอมและสามีเก่าให้การไม่ตรงกัน โดยเฉพาะสามีเก่ายังคงปฏิเสธในทุกเรื่อง

สอบสามีเก่าแอม “ข้ามคืน” แต่ปล่อยตัวไปแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยข้อมูลล่าสุดกับนักข่าวว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำสามีเก่าแอมข้ามคืน เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์กับคดีเป็นอย่างมาก บางข้อมูลสามารถเชื่อมโยงไปถึงคดีอื่นๆ ที่ตำรวจยังไม่ได้ออกหมายจับกับแอมด้วย และภายหลังสอบปากคำ สามีเก่าแอม ได้กลับออกไปเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น.


สามีเก่าแอมให้การเป็นประโยชน์ จดบันทึกได้เกิน 10 หน้า
ส่วนการให้ปากคำของสามีเก่าที่ไม่ตรงกับครั้งแรก มองว่าเป็นเพราะครั้งแรกตำรวจที่ทำหน้าที่สอบปากคำยังไม่รู้รายละเอียดของคดีมากนัก ทำให้การถามยังไม่เจาะจง แต่ครั้งนี้ให้ปากคำตามรายละเอียดที่ตำรวจต้องการได้ครบถ้วน ทำให้ผลสอบเบื้องต้นมีการจดบันทึกเกินกว่า 10 หน้า ข้อมูลตรงนี้จะตรจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนส่งให้คณะทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ภายในวันนี้

ส่วนประเด็นเว็บพนันและบัญชีม้าที่อาจเกี่ยวข้อง มีรายงานว่า ชุดสืบกำลังเร่งรวบรวมหลักฐานของเว็บทั้งหมดที่แอมและบุคคลใกล้ชิดที่ร่วมเล่น เพื่อนำไปตรวจสอบประเด็นเส้นทางการเงิน และย้ำว่าขณะนี้ยังคงให้น้ำหนักกับการคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของเหยื่อแอมทั้งหมดเป็นอันดับแรก รวมไปถึงคนร่วมกระทำความผิดที่ทำให้เหยื่อเสียชีวิตและเกือบเสียชีวิต

“บิ๊กโจ๊ก” ลั่นเย็นนี้ออกหมายจับคนใกล้ชิดแอม
ส่วนช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะเรียกพยานปากสำคัญที่เกี่ยวข้องกับแอมมาให้ปากคำเพิ่ม ก่อนพิจารณาออกหมายจับบุคคลใกล้ชิดช่วงเย็นวันนี้ ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่าจะมีการออกหมายจับอย่างแน่นอน

ขณะที่การประชุมชุดคลี่คลายคดี ร่วมกับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเวลา 15.00 น. จะเป็นการรายงานผลความคืบหน้าทางคดีทั้งหมด โดยเฉพาะการสืบสวนประเด็นที่เกี่ยวข้องทั้งเรื่องหนี้สิน บัญชีม้า การทำประกันชีวิต ผลการตรวจสอบวัตถุพยาน ทำให้การประชุมครั้งนี้จะมีทั้งตำรวจในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 7 ตำรวจจากกองบังคับการปราบปราม ตำรวจภูธรภาค4 และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้ามาร่วมประชุม

ค้นโกดังนำเข้า “ไซยาไนด์” ควานหาหลักฐานเอาผิดแอม
เจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นโกดังนำเข้า “ไซยาไนด์” ย่านลาดกระบัง หลังพบเลขการผลิตตรงกับขวดไซยาไนด์หลักฐานที่แอมนำไปใช้ก่อเหตุ โกดังแห่งนี้เป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 2 คูหา ด้านหน้าปิดประตูเหล็กเอาไว้ ส่วนด้านในมีกล่องเก็บผลิตภัณฑ์ต่างๆจำนวนมาก และการตรวจค้นเบื้องต้น ไม่พบสารไซยาไนด์ แต่มีข้อมูลว่ามีการจำหน่ายจริง ซึ่งทางบริษัทให้การว่า บริษัทจะรับสารไซยาไนด์ต่อมาจากบริษัทที่นำเข้ามาอีกทีหนึ่ง แล้วนำมาจำหน่ายให้กับผู้ซื้อ ซึ่งไม่ได้มีการสตอกสินค้า แต่จะต้องให้ผู้ซื้อสั่งสินค้าเข้ามาแล้วจึงจะสั่งจากบริษัทนำเข้ามาแล้วส่งให้ผู้ซื้อทันที โดยตำรวจบอกว่า การซื้อขายสารไซยาไนด์ในปริมาณไม่เกิน 1,000 กิโลกรัม หรือ 1 ตัน ไม่ต้องมีใบอนุญาต ยอมรับว่าจุดนี้เป็นช่องโหว่ให้บุคคลทั่วไปสามารถครอบครองและซื้อขายสารดังกล่าวได้

ตรวจร้านทอง หาเบาะแสแอมเอาทรัพย์สินไปขาย
นอกจากค้นโกดังแล้ว ตำรวจยังไปลุยตรวจร้านทองหาทรัพย์สินเหยื่อ “แอม” ถูกเอามาจำนำ โดยที่ราชบุรี ตำรวจ สภ.โพธาราม ไปที่ร้านทอง และนำรูปถ่ายของแอม ให้ทางผู้ประกอบการร้านทองตรวจสอบว่าเคยนำทองมาขายหรือจำนำหรือไม่ เพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงเรื่องทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตหลายรายที่หายไป

ส่วนการตรวจสอบยาสมุนไพรที่เจ้าหน้าที่ยึดได้จากบ้านพี่สาวของแอม เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา เบื้องต้นทราบว่าตรวจสอบยาทั้งในขวดโหลและในแคปซูลเป็นสมุนไพร ไม่มีส่วนผสมของไซยาไนด์ แต่ที่อยู่ในกล่องพัสดุนั้น กำลังตรวจสอบ

อ.อ๊อด เร่งตรวจหลักฐานนำไปประกอบสำนวนคดี
ข้อมูลของ รศ.ดร.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรืออาจารย์อ๊อด เพราะเป็นผู้ตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานเพื่อหาสารพิษไซยาไนด์เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี ที่เมื่อวานได้โพสต์ภาพรถโตโยต้า รุ่น วีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนนครปฐม ของแอม โดยในภาพมีทั้งหมด 3 ซอง พบสาร KCN เท่ากับโพแทสเซียมไซยาไนด์ ตรวจด้วยเทคนิคไอออนโครมาโตกราฟี่ (Ionchromatography) (IC) พบซองละ 15 มิลลิกรัม มีผลทำให้คนเสียชีวิตได้ภายใน 6-10 นาที

นอกจากนี้ อาจารย์อ๊อด ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบวัตถุพยานซึ่งเป็นหลักฐานในคดีเพื่อหาสารไซยาไนด์ ขณะนี้มีพยานวัตถุที่เป็นหลักฐานต้องสงสัยที่ทางตำรวจส่งมาให้ตรวจมากกว่าเกือบ 400 ชิ้น คาดจะใช้เวลาในการตรวจพยานหลักฐานทั้งหมดอย่างเร็วที่สุดภายในวันศุกร์นี้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

เจอแล้ว! เจ้าของเงิน 12 ล้าน ซุกกล่องทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – โผล่แล้ว! “ทวีวัฒน์” เจ้าของเงินสด 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี อ้างเป็นเงินเก็บตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ที่ห้องพักน้ำรั่ว จึงเก็บของมาทิ้ง ลืมว่ามีเงินเก็บไว้ในกล่อง เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (6 มิ.ย.68) พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.1 ได้เชิญตัวนายทวีวัฒน์ เจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี มาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้น พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ เผยว่า นายทวีวัฒน์ อ้างว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นของตน ตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ส่วนสาเหตุที่นำมาทิ้ง เนื่องจากน้ำรั่วภายในห้องพัก จึงเก็บข้าวของในห้องที่ถูกน้ำท่วมมาทิ้ง โดยลืมว่ามีเงินเก็บไว้อยู่ในกล่อง พอทราบเรื่องก็เลยมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงิน พร้อมให้ตรวจสอบเงินจำนวนดังกล่าว อ้างมีหลักฐานยืนยันว่า เงินดังกล่าวได้มาตั้งแต่ปี 2563 ก่อนมารับตำแหน่งคณะอนุกรรมการ กสทช. […]

โซเชียลแห่ติด #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

6 มิ.ย. – ท่ามกลางสถานการณ์ชายแดนตึงเครียด มีการส่งกำลังใจให้ผู้ทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติ ด้วยแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ที่กำลังร้อนแรงในโลกโซเซียลขณะนี้ หลัง “กองทัพบก Royal Thai Army” เชิญชวนคนไทยติดแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด เพื่อให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติงานปกป้องประเทศชาติ บทเพลงต่างๆ ที่สื่อถึงความรักประเทศไทย ก็ถูกนำมาโพสต์ลงโซเซียลในช่วงนี้เช่นกัน หรือจะเป็นกระแสหกเดือนหก ที่นักช้อปออนไลน์รู้จักกันดี ทางกองทัพก็สามารถนำมาโยง ให้เห็นถึงความพร้อมของกำลังพล อย่างกองทัพอากาศ โพสต์ภาพ ทหารติดระเบิดบนเครื่องบินรบ นามเรียกขาน “Lightning” พร้อมบรรยายด้วยข้อความ สั่งวันนี้ • ส่งทันที • ถึงที่หมาย แสดงถึงการพร้อมขึ้นปฏิบัติการสายฟ้าฟาด ปกป้องอธิปไตย พร้อมกันนี้ มีการติด #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ด้วย เช่นเดียวกับ เพจกองทัพบก โพสต์ภาพทหารโดดร่ม พร้อมข้อความ Army ส่งด่วน และ #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ไม่เพียงแต่เหล่าทัพที่จุดกระแสรักชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ประกาศจุดยืน ปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ พร้อมบังคับใช้กฎหมาย และสนับสนุนการปฏิบัติทางยุทธการ พิทักษ์พื้นที่ชายแดน […]

สมช.ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ แก้ปัญหามั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- สมช. ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ แก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มอบ “กองทัพ” ประสานการปฏิบัติ พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์-ปกป้องอธิปไตย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ออกเอกสารข่าว ภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2568 โดยที่ประชุม สมช. ได้รับทราบพัฒนาการของสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมฯ ได้เตรียมพร้อมการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และการสื่อสารทำความเข้าใจกับสังคมและประชาชน รวมถึงนานาชาติ เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถ่องแท้ โดยให้จัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำหน้าที่ติดตาม ประสานงาน และเสนอแนะมาตรการเพิ่มเติม หากฝ่ายกัมพูชามีการยกระดับปัญหา ในการนี้ มอบหมายให้กองทัพประสานการปฏิบัติ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ โดยให้ความสำคัญกับการปกป้องอธิปไตยและการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ ทั้งนี้ จะดำเนินการโดยสอดคล้องกับแนวทางการเจรจาใน JBC ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]