เตรียมออกหมายจับคนสนิท “แอม ไซยาไนด์” หลังพบเอี่ยวคดี

กรุงเทพฯ 2 พ.ค. – “บิ๊กโจ๊ก” ระบุเตรียมขอศาลออกหมายจับคนสนิท “แอม ไซยาไนด์” หลังพบความเชื่อมโยงในการร่วมกันก่อเหตุ เผยแรงจูงใจในการก่อเหตุ ติดหนี้พนันออนไลน์-โดนทวงหนี้บัตรเครดิต


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยหลังเข้าร่วมประชุมคดีกับพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในคดีของ น.ส.แอม ผู้ต้องหาวางยาฆาตกรรม

กรณีอดีตสามีของผู้ต้องหา ยศพันตำรวจโท ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ เบื้องต้นให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก และพบว่าเป็นผู้ที่ขับรถเก๋งสีขาวไปรับผู้ต้องหาที่ จ.อุดรธานี หลังจากเหตุการณ์ที่นายแด้ เสียชีวิต ก่อนนำรถไปจำนำในพื้นที่ จ.นครปฐม แต่ทางอดีตสามีของผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องหรือรู้เห็นในการฆาตกรรมที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้อดีตสามีของผู้ต้องหามาปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย และให้ออกจากราชการทันที


สำหรับแผนการประทุษกรรม จากการสอบปากคำอดีตสามีผู้ต้องหา รวมถึงการสืบหาพยานหลักฐาน เบื้องต้นพบว่า ผู้ต้องหาติดหนี้บัตรเครดิตและถูกติดตามทวงหนี้ ติดแบล็กลิสต์เครดิตบูโร ที่เกิดจากการเล่นพนันออนไลน์

ส่วนการหย่าร้างกันระหว่างผู้ต้องหาและอดีตสามีที่เป็นตำรวจ คาดเป็นเรื่องของสถานะทางการเงินภายในครอบครัว ซึ่งเบื้องต้นยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า อดีตสามีผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจมีหนี้สินล้นพ้นตัวหรือไม่ ซึ่งทั้ง น.ส.แอม และอดีตสามี ยังให้การไม่ตรงกัน

จากไทม์ไลน์ในคดี มักพบว่ามีการก่อเหตุในช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ และเมื่อก่อเหตุแล้วจะกลับมาหาคนใกล้ชิดทุกครั้ง และไปต่างจังหวัดก็ไปกับคนใกล้ชิดคนนี้ คาดเพื่อเป็นการสร้างที่อยู่หลักฐาน ซึ่งอาจมีความเชื่อมโยงไปถึงบุคคลที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติม ซึ่งการกระทำของ น.ส.แอม หากไม่มีคนแนะนำ น.ส.แอม คงไม่สามารถทำได้ขนาดนี้ ส่วนแรงจูงใจ เกิดจากแรงกระตุ้นให้เริ่มก่อเหตุ เมื่อไหร่ที่มีการทวงหนี้จะมีการลงมือก่อเหตุ


ทั้งนี้ คาดว่าพรุ่งนี้ (3 พ.ค.66) จะขอศาลออกหมายจับคนสนิทเพิ่มเติม ซึ่งพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดี เนื่องจากพบความเชื่อมโยงกับ น.ส.แอม

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการออกหมายจับแล้ว รวม 12 หมาย เป็นในส่วนของภูธรภาค 7 และอุดรฯ รวม 11 หมาย กองปราบฯ 1 หมาย เหลืออีก 3 คดีที่ยังอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทรัมป์” เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางถึงสนามบินในกรุงวอชิงตันแล้วในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ้น เพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลูกชายคนเล็กถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังสูญเสียลูก 2 คน ถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชนตกสะพาน ย่านสายไหม กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อ 10 ต.ค.67

รถน้ำมันระเบิดไนจีเรียหลังพลิกคว่ำ เสียชีวิต 77 ราย

รถบรรทุกน้ำมันระเบิดหลังจากพลิกคว่ำในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไนจีเรีย คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 77 คนที่กำลังเอาถังมารองน้ำมันที่รั่วไหลจากรถบรรทุก

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมประชุม World Economic Forum ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และตอกย้ำให้นักลงทุนและภาคเอกชนเชื่อมั่นใน “โอกาสของประเทศไทย” ตามแคมเปญ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง”

วันแรก กทม.ขอประชาชน Work From Home

หลังวันแรก กทม. ขอความร่วมมือประชาชน Work From Home พบว่าการจราจรบางจุดคล่องตัว รถลดลง แต่หลายจุดรถยังหนาแน่น โดยการประกาศขอความร่วมมือของ กทม. หลังค่าฝุ่น PM 2.5 ตลอดสัปดาห์เป็นสีส้ม ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคส่วนต่างๆ จำนวนมาก

ยื่นดีเอสไอรับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

“อาจารย์ปานเทพ-บอสณวัฒน์” พาตัวแทนมิสแกรนด์ 2025 ทั้ง 77 จังหวัด ยื่นดีเอสไอขอรับคดีแตงโมตกเรือเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 2 ลูก

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จำนวน 2 ลูก โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ด้าน รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กำชับเจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พร้อมวางมาตรการคุมเข้มในพื้นที่