นักอาชญาวิทยา ชี้ผู้ต้องหาวางยา ก่อเหตุซ้ำซาก จนไม่ตื่นเต้นตกใจ

อสมท 26 เม.ย. – นักอาชญาวิทยา ชี้ผู้ต้องหาวางยาฆ่าชิงทรัพย์ มีพฤติกรรมก่อเหตุซ้ำซาก ใช้วิธีเดิมจนเกิดความเคยชิน ไร้ความรู้สึกตื่นเต้นตกใจ


ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยา เชิงจิตวิทยา และพฤติกรรมอาชญากร คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า สารพิษไซยาไนด์ มีหลายลักษณะและหลายตัว เช่น โพแทสเซียมไซยาไนด์ ไฮโดรเจนไซยาไนด์ รูปแบบมีทั้งผง ของเหลว ของแข็ง หรือในรูปของก๊าซ และไม่มีสี และกลิ่น มักจะใช้ผสมในอาหาร หรือเครื่องดื่ม ดังนั้นเมื่อเราได้รับสารพิษทางอากาศสูดดม อาจไม่รู้ตัวว่าโดนสารพิษ แต่หากโดนแล้วจะมีอาการเบื้องต้น คือ คลื่นไส้ อาเจียน และอาจเสียชีวิตทันทีได้ หากโดยในปริมาณมาก หรือการได้รับน้อยๆ อาจทำให้เกิดผลกระทบในลักษณะยาวนาน หรือเรื้อรัง ความอันตรายจึงขึ้นอยู่กับปริมาณ ระยะเวลาที่ได้รับ และชนิด และน้ำหนักหนักตัว

โดยคนทั่วไปหากได้รับแค่ปริมาณปลายเล็บ ก็สามารถเอาชีวิตได้แล้ว ส่วนกรณีที่เป็นข่าวเกิดขึ้นในขณะนี้ ผู้ตายอาจได้รับปริมาณมากในครั้งเดียว ส่วนผู้เสียชีวิตที่โดนสารพิษดังกล่าว ผิวจะมีลักษณะเป็นสีคล้ำ เช่น รอบปาก ปลายเล็บ จะเป็นสีเขียวคล้ำ หากโดนด้วยการสัมผัส ผิวสัมผัสจะมีสีชมพู ในระยะแรกศพจะเป็นสีชมพู แต่จะเข้มและคล้ำเร็วกว่าศพปกติ


นอกจากนี้ ยังได้สะท้อนมุมมองต่อกรณีพฤติกรรมของผู้ต้องหา มีการก่อเหตุซ้ำซาก ใช้วิธีการเดิมๆ ซ้ำๆ เช่น วางยาซ้ำๆ จนเกิดความเคยชิน โดยไม่มีอาการตื่นเต้นตกใจ มีการโกหก หรือปฏิเสธตั้งแต่เริ่มต้น หรือปกติวิสัยที่คนปกติจะกระทำต่อเพื่อนก็มีความผิดปกติ หรือเรียกคนอื่นไปช่วยแทน เช่น กรณีของตำรวจหญิงที่ตกเป็นเหยื่อ มีการปล่อยให้เสียชีวิตต่อหน้าต่อตาให้คนอื่นช่วยเหลือ ตั้งข้อสังเกตได้ หากเขาเป็นคนวางยาเอง เขาจะรู้อยู่แล้วว่าช่วยไปก็ไม่เกิดประโยชน์ กับการที่เห็นคนเสียชีวิตต่อหน้าหลายๆ ครั้ง เนื่องจากเคยกระทำในลักษณะนี้มาแล้วสำเร็จ เสียชีวิตแน่นอน เข้าไปช่วยก็ไม่เกิดผล หรือไม่ตกใจ เพราะการตกใจ ทำยังไงก็ไม่เนียน เพราะใจลึกๆ รู้อยู่แล้วว่าเป็นคนก่อเหตุ การพยายามจะทำให้เป็นธรรมชาติ

ทั้งนี้ จากสถิติ เพศชาย และหญิง จะมีแรงจูงใจก่อเหตุที่ต่างกัน เพศหญิง แรงจูงใจอย่างแรกจะเป็นเรื่องผลประโยชน์ และทรัพย์สิน ซึ่งจะสอดคล้องกับกรณีนี้ ส่วนเพศชายจะเป็นแรงขับด้านเพศ ส่วนจะเกิดจากความกดดันในชีวิตหรือไม่ ทำให้มีการก่อเหตุ ตอนนี้คงยังไม่สามารถบอกได้ จนกว่าจะได้ทราบข้อมูลรายละเอียดการดำเนินชีวิตของผู้ก่อเหตุก่อน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย