เน็ตไอดอลสาวร้องกองปราบ ถูก รปภ.คู่กรณีเก่าคุกคามไม่หยุด

กรุงเทพฯ 25 เม.ย. – เน็ตไอดอลสาว ‘มินตัน’ ร้องกองปราบ หลังถูก รปภ. คู่กรณีเก่า คุกคามไม่หยุด


“มินตัน” เน็ตไอดอลชื่อดัง พร้อมทนายรัชพล ศิริสาคร เดินทางมายังกองบังคับการปราบปราม แจ้งความดำเนินคดี พร้อมติดตามคดีเก่าที่เคยแจ้งไว้เมื่อปี 2565 ในคดีที่ถูก รปภ. คุกคามนานกว่า 2 ปี

ทนายรัชพล กล่าวว่า วันนี้มาตามคดีเดิมที่เคยแจ้งความไปแล้วเมื่อปี 2565 เพราะไม่มีความคืบหน้า อย่างที่ทราบกันคนร้ายออกมาจากเรือนจำแล้วก็มาก่อเหตุซ้ำ วันนี้มาแจ้งข้อหาเพิ่มด้วย พร้อมจะขอหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะมีมาตรการป้องกันการกลับมาก่อเหตุได้หรือไม่


ตัวคนร้ายในตอนแรกนั้นเป็นคดีครอบครองสื่อลามกอนาจาร โดนฝากขัง พอไม่ได้ประกันตัวเลยถูกส่งไปอยู่ในเรือนจำ เพื่อรอศาลตัดสิน พอศาลตัดสินว่ารอลงอาญา คนร้ายเลยได้ออกมา ก่อเหตุซ้ำและหนักกว่าเดิม ไม่มีความเข็ดหลาบ

ด้านมินตัน กล่าวว่า คนร้ายมีพฤติกรรมเพ้อถึงในเฟซบุ๊ก พร้อมยังตามมาถึงสถานที่ออกอีเวนต์ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ตามเอาจดหมายมาให้ถึงรถ หลังจากนั้นมีการส่งข้อความมาหา อยากมีอะไรด้วย พร้อมส่งภาพโป๊เปลือย ช่วยตัวเอง ทั้งยังบอกจะไปหาที่บ้านมินตัน ไปไหนคนร้ายจะตามไปด้วย เพราะติดจีพีเอสไว้ที่รถน้องแล้ว

สำหรับหลักฐานที่เตรียมมาวันนี้มีแชทข้อความ รูปภาพโป๊เปลือยของคู่กรณีที่เคยส่งมาให้ตน พร้อมโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวของคู่กรณี


ทั้งนี้ อยากฝากให้ตำรวจจัดการเด็ดขาด ให้รู้สึกเข็ดหลาบเกรงกลัวกฎหมายบ้าง บังคับใช้คดีให้เด็ดขาด ตอนนี้ตนรู้สึกกลัว เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นอันตรายตอนไหน นอกจากโรคจิตคนนี้อาจจะมีคนอื่นด้วยหรือไม่ ยังกลัวอยู่ว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ยังมีความระแวงอยู่

ด้านทนายรัชพล ย้ำว่าอยากให้มีการบังคับคดีแบบจริงจัง ไม่ควรรอให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงก่อน ควรติดตาม มีมาตรการคุ้มกัน วันนี้จะแจ้งความเพิ่มในคดีที่มินตันเป็นผู้เสียหายโดยตรงเลย จะมีคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และคุกคามอีกด้วย

ภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. นานกว่า 3 ชม. “มินตัน” เน็ตไอดอลสาวชื่อดัง กล่าวว่า รับทราบจากพนักงานสอบสวน บก.ปอท. แล้วว่าในส่วนคดีความของมินตัน ผู้ต้องหารายนี้ยังไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน คราวก่อนที่โดนจับเป็นคดีครอบครองสื่อลามกฯ ของ สน.เตาปูน

เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา เขาโพสต์หน้าเฟซบุ๊กว่าจะมาหาตนที่งานอีเวนต์ แล้วเขาก็มาจริงๆ พอตนเสร็จงานกำลังจะกลับ เดินมาที่รถเจอจดหมายที่เขาเขียนฝากไว้ว่าเขามาหาตนจริงๆ จากนั้นเขาโพสต์รูปลงเฟซบุ๊กให้เห็นว่ามายืนถ่ายรูปกับรถตน ยืนยันว่าตัวเขามาจริง

ต่อมาวันที่ 18 เม.ย. เขาโพสต์เฟซบุ๊กว่าได้ติดจีพีเอสเอาไว้ที่รถตนด้วย แม้จะตรวจสอบทั้งคันไม่เจอ แต่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจและหวาดระแวง รอบนี้คุกคามตนหนักกว่ารอบที่แล้ว คือคราวนี้ส่งภาพโป๊ของตนมาด้วย พร้อมคลิปการช่วยตัวเอง แม้ใครจะมองว่าเขาเป็นคนป่วย ตนว่าเขาก็มีสติดี คืออะไรที่ทำแล้วเขาจะผิดโดยตรงเขาจะไม่ทำ เช่น จีพีเอส ถ้ามีการตรวจสอบเขาจะอ้างได้ว่าไม่ได้ติดจริงๆ เขาแชทมาในเพจของตน แม้จะบล็อกไป ทำให้ย้อนไปดูโปรไฟล์เขาไม่ได้ แต่ตนรู้ว่าต้องเป็นเขาแน่นอน ไม่ใช่คนอื่นที่จะส่งรูปตัวเองแก้ผ้าพร้อมกับช่วยตัวเองแบบนี้ เป็นคนอื่นไปไม่ได้แน่นอน

ส่วนกรณีอ้างว่าเป็น FC ของตน ขออธิบายว่าเป็นกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่จะเข้ามาคอมเมนต์ในลักษณะให้ท้าย ถือหาง เขียนประมาณมา “ขอให้พี่ไมค์สมหวังนะ เชียร์อยู่” หรือคอมเมนต์ที่รุนแรง “ไมค์คนเดียวไม่พอหรอก ต้องให้พวกเราช่วยไปรุมข่มขืน” “ถ้าพี่ไมค์ไปเจอมินตัน เดี๋ยวจะส่งดาวให้นะ” เป็นต้น

พี่ๆ ทีมงานได้ห้ามตน อ้างเกรงว่าจะเสียสุขภาพจิต เขาจะรู้เลขบัตรประชาชน ทะเบียนราษฎร์ของตน ที่อยู่บ้าน เรียกว่ารู้ข้อมูลส่วนตัวทุกอย่างของตนหมดเลย ไม่เป็นส่วนตัว จากการไลฟ์ของเขาอ้างว่าได้ข้อมูลเหล่านี้มาจากตำรวจนายหนึ่งที่เขาไปได้ไอดี พาสเวิร์ดมา แอบเขาไปดูในภายหลัง จะมาอ้างว่าป่วยจิต แต่เขาก็รู้วิธีการต่างๆ

สำหรับทะเบียนสมรสปลอมเขาบอกในไลฟ์ว่าตัดต่อทำเองหมด ถามความรู้สึกตน แรกๆ เสียใจ รู้สึกอ่อนแอ แต่พอรู้ว่าการที่เขารู้ว่าตนอ่อนแอจะทำให้เขาได้ใจ ในไลฟ์ของเขาจะภูมิใจที่เขาทำได้ โชว์ว่าทำทะเบียนสมรส รู้ข้อมูลทะเบียนราษฎร์ตน สร้างความภูมิใจกับเขา ตนจึงไม่อยากแสดงความอ่อนแอตรงนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะอดทนไปได้แค่ไหน ถ้าครั้งนี้กฎหมายยังเอาผิดเขาไม่รุนแรงพอ ตนคิดว่าอาจจะมีอีกเป็นครั้งที่ 3 เขาคงคิดเข้าข้างตัวเองการถูกจับครั้งแรกไม่ใช่คดีของตน

ด้านทนายรัชพล กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนมีความเห็นว่าเข้าข่ายความผิดตาม ป.อาญา ม.397 เป็นเรื่องการคุมคาม ข่มเหงรังแก ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญ ตามข้อกฎหมายเป็นความผิดเล็กน้อย ลหุโทษ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในทางปฏิบัติส่วนใหญ่จะปรับที่โรงพัก เปรียบเทียบปรับ 500-1,000 บาท แล้วคดีก็จบ แต่ถ้าผู้เสียหายไม่ยอมก็เอาคดีขึ้นสู่ศาลให้ศาลตัดสินได้ ตนคาดเดาได้ว่าถ้าคดีนี้ขึ้นสู่ศาล ศาลพิจารณาแล้วน่าจะรอลงอาญา ตนจึงเตรียมจะขอศาลใช้เงื่อนไขในการรอลงอาญา คือ 1.ห้ามผู้ต้องหาเข้าใกล้ “มินตัน” ในรัศมี 3 กม. 2.ห้ามลงโซเชียลทำนองคุกคามน้องมินตัน และ 3.ขอให้หน่วยงานรัฐมาดูแลปรับทัศนคติ หรือให้จิตแพทย์ตรวจสภาพจิตใจผู้ต้องหารายนี้ด้วย เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม คนประเภทนี้เขาเรียกว่า “คนสัปดน” อยู่ร่วมกับคนอื่นแล้วสร้างความเดือดร้อนรำคาญ คุกคามคนอื่นแบบนี้ ถ้าอยู่ไม่ได้ในสังคมต้องเข้าไปอยู่ในคุก ต้องแยกกันอยู่กับคนปกติทั่วไป
ตนและน้องมินตันอยากจะผลักดันให้กฎหมายมีความเข้มข้นมากกว่าเดิมที่เป็นอยู่ในเวลานี้ ถ้าทำปิดซ้ำๆ อาจจะติดคุกได้

ด้านนายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร รายงานผู้บังคับบัญชากรมราชทัณฑ์ว่า ได้รับตัวนายณัณธวัฒน์ ผู้ต้องหาคดีคุกคามเน็ตไอดอลสาวเมื่อวานนี้ (24 เมษายน 2566) ขณะนี้จัดให้อยู่ในแดน 2 แรกรับ กักโรค อยู่ห้อง 12 มีผู้ต้องขังร่วมห้อง 11 คน สุขภาพทั่วไปปกติ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

“จิรายุ” ไม่เชิญแล้ว “ไมเคิล” บอก “จบข่าวไม่ต้องมาเหยียบแผ่นดินไทย”

กทม. 17 ส.ค. – “จิรายุ” ยันรัฐบาลเตรียมนำสื่อระดับโลกลงพื้นที่กองกำลังสุรนารี ดูจุดกัมพูชาถล่มพื้นที่พลเรือน ส่วนกรณี “ไมเคิล” บอก “จบข่าว” ไม่เชิญมาแล้ว หลังอ้างตัวเป็น “สื่อประจำทำเนียบขาว” ที่แท้เป็นล็อบบี้ยิสต์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่ารัฐบาลเตรียมนำสื่อมวลชนระดับโลกลงพื้นที่กองกำลังสุรนารี จังหวัดสุรินทร์ สัปดาห์หน้า ในจุดที่ไทยถูกอาวุธหนักของกัมพูชาถล่ม อาทิ โรงพยาบาล โรงเรียนและพื้นที่พลเรือน จากนั้นจะเชิญสื่อมวลชนระดับโลกไปยังพื้นที่ที่รวบรวมกับระเบิดที่เจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้โดย TMAC ก่อนจะให้ชมการปฏิบัติการทำลายวัตถุระเบิดที่ตกค้างจากการรุกล้ำอธิปไตยไทย ส่วนกรณีสำนักข่าวของกัมพูชารายงานข่าวของนายไมเคิล อัลฟาโร ชาวสหรัฐ ที่ไลฟ์สดชายแดนกัมพูชา-ไทย ด้วยการเซตฉากและกล่าวอ้างว่าตนเองเป็นสื่อมวลชนประจำทำเนียบขาวของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และกล่าวหาประเทศไทย ด้วยถ้อยคำรุนแรง ใส่ร้ายป้ายสีไทยด้านเดียว “สัปดาห์ที่แล้วอยากเชิญนายไมเคิลที่กล่าวอ้างว่าเป็นนักข่าวประจำทำเนียบขาว อยากให้มาเห็นของจริงในฝั่งไทยที่โดนเขมรถล่มหนักแค่ไหน นายไมเคิลมีการไลฟ์สดพูดโกหกใส่ร้ายป้ายสีไทยไปทั่วโลก และบอกว่าตนเองเป็นสื่อรัฐบาลสหรัฐ จะฟ้องประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งตนเห็นว่าหากมาเห็นอีกมุมที่ประเทศไทยโดนกัมพูชาโจมตีทั้งโรงเรียน พื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ก็เป็นประโยชน์หากเป็นนักข่าวประจำทำเนียบขาวจริง แต่ขณะนี้พบว่านายไมเคิล ไม่ได้เป็นนักข่าวประจำทำเนียบขาวจริง แถมยังแอบอ้างถึงประธานาธิบดีสหรัฐ วันนี้ตนจึงขอบอกว่า “จบข่าว” ไม่ต้องมาเหยียบแผ่นดินไทยต่อไป” นายจิรายุ กล่าว. -สำนักข่าวไทย

ศูนย์ทุ่นระเบิดจบภารกิจหนุนชายแดน เก็บกู้สรรพาวุธตกค้างกว่า 800 ลูก

17 ส.ค. – ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดฯ สิ้นสุดภารกิจวันนี้ (17 ส.ค. 68) หลังสนับสนุนการเก็บกู้ระเบิดจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเก็บกู้สรรพาวุธตกค้างกว่า 800 ลูก ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนอีสานใต้ ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ หรือ TMAC สิ้นสุดภารกิจวันนี้ (17 ส.ค. 68) หลังสนับสนุนการเก็บกู้ระเบิดจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 1-16 สิงหาคมที่ผ่านมา TMAC ได้เก็บกู้สรรพาวุธที่ตกค้างกว่า 800 ลูก ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนอีสานใต้ ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ประกอบด้วย กระสุน BM-21 ลูกปืนใหญ่ ปืน ค จรวด ก่อนหน้าสถานการณ์ตึงเครียด กัมพูชาขัดขวางการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ไม่จริงใจแก้ปัญหา ทั้งที่เป็นประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา ที่ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล สำหรับอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะ 81 หลังคาเรือน […]

ตรวจสอบ รร.ประถม “พระอลงกต” ไม่ปรากฏชื่อ

ขอนแก่น 17 ส.ค.- กองปราบจ่อประชุมคณะทำงานคดี “หมอบี” เชื่อเจ้าตัวไม่หนี ขณะที่ทนายวัดพระบาทน้ำพุเลื่อนแถลงข่าว อ้างเอกสารชี้แจงยังไม่เรียบร้อย ตรวจสอบโรงเรียนประถม “พระอลงกต” ไม่ปรากฏชื่อ กรณีเพจดังตั้งข้อสงสัยวุฒิการศึกษาพระอลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ อ้างว่าปี 2518 ยังเรียน มศ.2 จะจบวิศวฯ ปี 2519 ได้อย่างไร ผู้สื่อข่าวสอบถามแหล่งข่าวในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ให้ข้อมูลว่ากรณีพระอลงกต ระบุว่าจบการศึกษาที่โรงเรียนระดับประถม(นันทวิทยาลัย) ปรากฏว่าไม่มีชื่อโรงเรียนนี้อยู่ในสังกัดสำนักงานเขตของพื้นที่ทั้ง 26 อำเภอ ใน จ.ขอนแก่น หรือถ้ามี ก็อาจจะปิดตัวไปแล้ว   ส่วนระดับมัธยมศึกษานั้น ข้อมูลยืนยันว่า พระอลงกต ศึกษาจบระดับชั้น มศ.2 ที่โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จังหวัดขอนแก่นจริง มีศิษย์เก่าทั้งระดับชั้นเดียวกัน และรุ่นพี่รุ่นน้องต่างยืนยันว่า พระอลงกต จบจากโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัยจริง ในปี 2518 แต่ยังสงสัยในระดับปริญญาตรีว่าจะจบจริงหรือไม่   เชื่อ “หมอบี” ยังไม่หลบหนี พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ […]

รวบแล้ว “ลุงคลั่ง” ใช้ไม้หน้าสามตีหลานสาวดับ

ตรัง 17 ส.ค.- ตำรวจ สภ.ห้วยยอด รวบลุงคลั่งใช้ไม้หน้าสามฟาดหลานสาวแท้ๆ เสียชีวิตคาบ้านพัก สารภาพอ้างแค้นใจสะสมมานาน มีปากเสียงบ่อยครั้ง ตำรวจ สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง คุมตัวนายสุริยัณห์ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้ไม้หน้าสาม กระหน่ำตี น.ส.ปาริชาติ หรือน้องเชียร์ อายุ 21 ปี นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 ซึ่งเป็นหลานสาวแท้ๆ ของตัวเองจนเสียชีวิตภายในบ้านพัก จากนั้นหลบหนีขึ้นไปบนเขา คลองมวน  ต.หนองปรือ อ.รัษฎา เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าปิดล้อมภูเขา ก่อนจับกุมตัวได้พร้อมของกลางไม้หน้าสามเปื้อนเลือด ความยาวประมาณ 60 เซนติเมตร  สอบสวนนายสุริยัณห์ รับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง โดยอ้างว่ามีปัญหากับหลานสาวมานาน มักมีปากเสียงบ่อยครั้ง วันเกิดเหตุได้บุกเข้าไปในห้อง ใช้ไม้หน้าสามฟาดเข้าที่ท้ายทอยของหลานสาว 6–7 ครั้งจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีออกจากบ้าน ผู้ต้องหาระบุว่า เคยทำงานเป็นช่างสักตามเกาะท่องเที่ยว เช่น เกาะพะงัน และเกาะพีพี แต่มีปัญหาจึงกลับมาอยู่บ้าน มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเคยถูกส่งตัวเข้าบำบัดหลายครั้ง ขณะถูกสอบสวนยังสามารถโต้ตอบคำถามได้ปกติ แต่ไม่มีท่าทีสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป สำหรับศพของ “น้องเชียร์” ล่าสุด […]