เน็ตไอดอลสาวร้องกองปราบ ถูก รปภ.คู่กรณีเก่าคุกคามไม่หยุด

กรุงเทพฯ 25 เม.ย. – เน็ตไอดอลสาว ‘มินตัน’ ร้องกองปราบ หลังถูก รปภ. คู่กรณีเก่า คุกคามไม่หยุด


“มินตัน” เน็ตไอดอลชื่อดัง พร้อมทนายรัชพล ศิริสาคร เดินทางมายังกองบังคับการปราบปราม แจ้งความดำเนินคดี พร้อมติดตามคดีเก่าที่เคยแจ้งไว้เมื่อปี 2565 ในคดีที่ถูก รปภ. คุกคามนานกว่า 2 ปี

ทนายรัชพล กล่าวว่า วันนี้มาตามคดีเดิมที่เคยแจ้งความไปแล้วเมื่อปี 2565 เพราะไม่มีความคืบหน้า อย่างที่ทราบกันคนร้ายออกมาจากเรือนจำแล้วก็มาก่อเหตุซ้ำ วันนี้มาแจ้งข้อหาเพิ่มด้วย พร้อมจะขอหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะมีมาตรการป้องกันการกลับมาก่อเหตุได้หรือไม่


ตัวคนร้ายในตอนแรกนั้นเป็นคดีครอบครองสื่อลามกอนาจาร โดนฝากขัง พอไม่ได้ประกันตัวเลยถูกส่งไปอยู่ในเรือนจำ เพื่อรอศาลตัดสิน พอศาลตัดสินว่ารอลงอาญา คนร้ายเลยได้ออกมา ก่อเหตุซ้ำและหนักกว่าเดิม ไม่มีความเข็ดหลาบ

ด้านมินตัน กล่าวว่า คนร้ายมีพฤติกรรมเพ้อถึงในเฟซบุ๊ก พร้อมยังตามมาถึงสถานที่ออกอีเวนต์ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ตามเอาจดหมายมาให้ถึงรถ หลังจากนั้นมีการส่งข้อความมาหา อยากมีอะไรด้วย พร้อมส่งภาพโป๊เปลือย ช่วยตัวเอง ทั้งยังบอกจะไปหาที่บ้านมินตัน ไปไหนคนร้ายจะตามไปด้วย เพราะติดจีพีเอสไว้ที่รถน้องแล้ว

สำหรับหลักฐานที่เตรียมมาวันนี้มีแชทข้อความ รูปภาพโป๊เปลือยของคู่กรณีที่เคยส่งมาให้ตน พร้อมโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวของคู่กรณี


ทั้งนี้ อยากฝากให้ตำรวจจัดการเด็ดขาด ให้รู้สึกเข็ดหลาบเกรงกลัวกฎหมายบ้าง บังคับใช้คดีให้เด็ดขาด ตอนนี้ตนรู้สึกกลัว เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นอันตรายตอนไหน นอกจากโรคจิตคนนี้อาจจะมีคนอื่นด้วยหรือไม่ ยังกลัวอยู่ว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ยังมีความระแวงอยู่

ด้านทนายรัชพล ย้ำว่าอยากให้มีการบังคับคดีแบบจริงจัง ไม่ควรรอให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงก่อน ควรติดตาม มีมาตรการคุ้มกัน วันนี้จะแจ้งความเพิ่มในคดีที่มินตันเป็นผู้เสียหายโดยตรงเลย จะมีคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และคุกคามอีกด้วย

ภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. นานกว่า 3 ชม. “มินตัน” เน็ตไอดอลสาวชื่อดัง กล่าวว่า รับทราบจากพนักงานสอบสวน บก.ปอท. แล้วว่าในส่วนคดีความของมินตัน ผู้ต้องหารายนี้ยังไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน คราวก่อนที่โดนจับเป็นคดีครอบครองสื่อลามกฯ ของ สน.เตาปูน

เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา เขาโพสต์หน้าเฟซบุ๊กว่าจะมาหาตนที่งานอีเวนต์ แล้วเขาก็มาจริงๆ พอตนเสร็จงานกำลังจะกลับ เดินมาที่รถเจอจดหมายที่เขาเขียนฝากไว้ว่าเขามาหาตนจริงๆ จากนั้นเขาโพสต์รูปลงเฟซบุ๊กให้เห็นว่ามายืนถ่ายรูปกับรถตน ยืนยันว่าตัวเขามาจริง

ต่อมาวันที่ 18 เม.ย. เขาโพสต์เฟซบุ๊กว่าได้ติดจีพีเอสเอาไว้ที่รถตนด้วย แม้จะตรวจสอบทั้งคันไม่เจอ แต่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจและหวาดระแวง รอบนี้คุกคามตนหนักกว่ารอบที่แล้ว คือคราวนี้ส่งภาพโป๊ของตนมาด้วย พร้อมคลิปการช่วยตัวเอง แม้ใครจะมองว่าเขาเป็นคนป่วย ตนว่าเขาก็มีสติดี คืออะไรที่ทำแล้วเขาจะผิดโดยตรงเขาจะไม่ทำ เช่น จีพีเอส ถ้ามีการตรวจสอบเขาจะอ้างได้ว่าไม่ได้ติดจริงๆ เขาแชทมาในเพจของตน แม้จะบล็อกไป ทำให้ย้อนไปดูโปรไฟล์เขาไม่ได้ แต่ตนรู้ว่าต้องเป็นเขาแน่นอน ไม่ใช่คนอื่นที่จะส่งรูปตัวเองแก้ผ้าพร้อมกับช่วยตัวเองแบบนี้ เป็นคนอื่นไปไม่ได้แน่นอน

ส่วนกรณีอ้างว่าเป็น FC ของตน ขออธิบายว่าเป็นกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่จะเข้ามาคอมเมนต์ในลักษณะให้ท้าย ถือหาง เขียนประมาณมา “ขอให้พี่ไมค์สมหวังนะ เชียร์อยู่” หรือคอมเมนต์ที่รุนแรง “ไมค์คนเดียวไม่พอหรอก ต้องให้พวกเราช่วยไปรุมข่มขืน” “ถ้าพี่ไมค์ไปเจอมินตัน เดี๋ยวจะส่งดาวให้นะ” เป็นต้น

พี่ๆ ทีมงานได้ห้ามตน อ้างเกรงว่าจะเสียสุขภาพจิต เขาจะรู้เลขบัตรประชาชน ทะเบียนราษฎร์ของตน ที่อยู่บ้าน เรียกว่ารู้ข้อมูลส่วนตัวทุกอย่างของตนหมดเลย ไม่เป็นส่วนตัว จากการไลฟ์ของเขาอ้างว่าได้ข้อมูลเหล่านี้มาจากตำรวจนายหนึ่งที่เขาไปได้ไอดี พาสเวิร์ดมา แอบเขาไปดูในภายหลัง จะมาอ้างว่าป่วยจิต แต่เขาก็รู้วิธีการต่างๆ

สำหรับทะเบียนสมรสปลอมเขาบอกในไลฟ์ว่าตัดต่อทำเองหมด ถามความรู้สึกตน แรกๆ เสียใจ รู้สึกอ่อนแอ แต่พอรู้ว่าการที่เขารู้ว่าตนอ่อนแอจะทำให้เขาได้ใจ ในไลฟ์ของเขาจะภูมิใจที่เขาทำได้ โชว์ว่าทำทะเบียนสมรส รู้ข้อมูลทะเบียนราษฎร์ตน สร้างความภูมิใจกับเขา ตนจึงไม่อยากแสดงความอ่อนแอตรงนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะอดทนไปได้แค่ไหน ถ้าครั้งนี้กฎหมายยังเอาผิดเขาไม่รุนแรงพอ ตนคิดว่าอาจจะมีอีกเป็นครั้งที่ 3 เขาคงคิดเข้าข้างตัวเองการถูกจับครั้งแรกไม่ใช่คดีของตน

ด้านทนายรัชพล กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนมีความเห็นว่าเข้าข่ายความผิดตาม ป.อาญา ม.397 เป็นเรื่องการคุมคาม ข่มเหงรังแก ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญ ตามข้อกฎหมายเป็นความผิดเล็กน้อย ลหุโทษ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในทางปฏิบัติส่วนใหญ่จะปรับที่โรงพัก เปรียบเทียบปรับ 500-1,000 บาท แล้วคดีก็จบ แต่ถ้าผู้เสียหายไม่ยอมก็เอาคดีขึ้นสู่ศาลให้ศาลตัดสินได้ ตนคาดเดาได้ว่าถ้าคดีนี้ขึ้นสู่ศาล ศาลพิจารณาแล้วน่าจะรอลงอาญา ตนจึงเตรียมจะขอศาลใช้เงื่อนไขในการรอลงอาญา คือ 1.ห้ามผู้ต้องหาเข้าใกล้ “มินตัน” ในรัศมี 3 กม. 2.ห้ามลงโซเชียลทำนองคุกคามน้องมินตัน และ 3.ขอให้หน่วยงานรัฐมาดูแลปรับทัศนคติ หรือให้จิตแพทย์ตรวจสภาพจิตใจผู้ต้องหารายนี้ด้วย เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม คนประเภทนี้เขาเรียกว่า “คนสัปดน” อยู่ร่วมกับคนอื่นแล้วสร้างความเดือดร้อนรำคาญ คุกคามคนอื่นแบบนี้ ถ้าอยู่ไม่ได้ในสังคมต้องเข้าไปอยู่ในคุก ต้องแยกกันอยู่กับคนปกติทั่วไป
ตนและน้องมินตันอยากจะผลักดันให้กฎหมายมีความเข้มข้นมากกว่าเดิมที่เป็นอยู่ในเวลานี้ ถ้าทำปิดซ้ำๆ อาจจะติดคุกได้

ด้านนายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร รายงานผู้บังคับบัญชากรมราชทัณฑ์ว่า ได้รับตัวนายณัณธวัฒน์ ผู้ต้องหาคดีคุกคามเน็ตไอดอลสาวเมื่อวานนี้ (24 เมษายน 2566) ขณะนี้จัดให้อยู่ในแดน 2 แรกรับ กักโรค อยู่ห้อง 12 มีผู้ต้องขังร่วมห้อง 11 คน สุขภาพทั่วไปปกติ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

ล่า “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงินกว่า 3 ล้าน

กทม. 1 ก.ค. – ตำรวจยังคงไล่ล่าแก๊งปล้นเงินกลางห้างดังย่านลาดพร้าว ได้เงินไปกว่า 3.4 ล้านบาท ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับแล้ว พบเป็นคนดังโซเชียลสายคุก ฉายา “เสือปุ่น” มีประวัติคดีโชกโชน .-สำนักข่าวไทย

“เจนี่” ถือฤกษ์ดี ปลงผมบวชสามเณรี ญาติมิตรร่วมอนุโมทนา

สระบุรี 1 ก.ค. – “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์” วัย 44 ปี ถือฤกษ์งามยามดี เช้าวันนี้ (1 ก.ค.68) ปลงผมบวชสามเณรี ในโครงการบรรพชาสามเณรี รุ่นที่ 3 บริเวณปะรำพิธี ณ ศรีวรญาลัย จ.สระบุรี โดยมีครอบครัว ญาติสนิท ผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ และเพื่อนพ้องทั้งในและนอกวงการ ร่วมอนุโมทนา. – สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]