เน็ตไอดอลสาวร้องกองปราบ ถูก รปภ.คู่กรณีเก่าคุกคามไม่หยุด

กรุงเทพฯ 25 เม.ย. – เน็ตไอดอลสาว ‘มินตัน’ ร้องกองปราบ หลังถูก รปภ. คู่กรณีเก่า คุกคามไม่หยุด


“มินตัน” เน็ตไอดอลชื่อดัง พร้อมทนายรัชพล ศิริสาคร เดินทางมายังกองบังคับการปราบปราม แจ้งความดำเนินคดี พร้อมติดตามคดีเก่าที่เคยแจ้งไว้เมื่อปี 2565 ในคดีที่ถูก รปภ. คุกคามนานกว่า 2 ปี

ทนายรัชพล กล่าวว่า วันนี้มาตามคดีเดิมที่เคยแจ้งความไปแล้วเมื่อปี 2565 เพราะไม่มีความคืบหน้า อย่างที่ทราบกันคนร้ายออกมาจากเรือนจำแล้วก็มาก่อเหตุซ้ำ วันนี้มาแจ้งข้อหาเพิ่มด้วย พร้อมจะขอหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะมีมาตรการป้องกันการกลับมาก่อเหตุได้หรือไม่


ตัวคนร้ายในตอนแรกนั้นเป็นคดีครอบครองสื่อลามกอนาจาร โดนฝากขัง พอไม่ได้ประกันตัวเลยถูกส่งไปอยู่ในเรือนจำ เพื่อรอศาลตัดสิน พอศาลตัดสินว่ารอลงอาญา คนร้ายเลยได้ออกมา ก่อเหตุซ้ำและหนักกว่าเดิม ไม่มีความเข็ดหลาบ

ด้านมินตัน กล่าวว่า คนร้ายมีพฤติกรรมเพ้อถึงในเฟซบุ๊ก พร้อมยังตามมาถึงสถานที่ออกอีเวนต์ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ตามเอาจดหมายมาให้ถึงรถ หลังจากนั้นมีการส่งข้อความมาหา อยากมีอะไรด้วย พร้อมส่งภาพโป๊เปลือย ช่วยตัวเอง ทั้งยังบอกจะไปหาที่บ้านมินตัน ไปไหนคนร้ายจะตามไปด้วย เพราะติดจีพีเอสไว้ที่รถน้องแล้ว

สำหรับหลักฐานที่เตรียมมาวันนี้มีแชทข้อความ รูปภาพโป๊เปลือยของคู่กรณีที่เคยส่งมาให้ตน พร้อมโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวของคู่กรณี


ทั้งนี้ อยากฝากให้ตำรวจจัดการเด็ดขาด ให้รู้สึกเข็ดหลาบเกรงกลัวกฎหมายบ้าง บังคับใช้คดีให้เด็ดขาด ตอนนี้ตนรู้สึกกลัว เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นอันตรายตอนไหน นอกจากโรคจิตคนนี้อาจจะมีคนอื่นด้วยหรือไม่ ยังกลัวอยู่ว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ยังมีความระแวงอยู่

ด้านทนายรัชพล ย้ำว่าอยากให้มีการบังคับคดีแบบจริงจัง ไม่ควรรอให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงก่อน ควรติดตาม มีมาตรการคุ้มกัน วันนี้จะแจ้งความเพิ่มในคดีที่มินตันเป็นผู้เสียหายโดยตรงเลย จะมีคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และคุกคามอีกด้วย

ภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. นานกว่า 3 ชม. “มินตัน” เน็ตไอดอลสาวชื่อดัง กล่าวว่า รับทราบจากพนักงานสอบสวน บก.ปอท. แล้วว่าในส่วนคดีความของมินตัน ผู้ต้องหารายนี้ยังไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน คราวก่อนที่โดนจับเป็นคดีครอบครองสื่อลามกฯ ของ สน.เตาปูน

เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา เขาโพสต์หน้าเฟซบุ๊กว่าจะมาหาตนที่งานอีเวนต์ แล้วเขาก็มาจริงๆ พอตนเสร็จงานกำลังจะกลับ เดินมาที่รถเจอจดหมายที่เขาเขียนฝากไว้ว่าเขามาหาตนจริงๆ จากนั้นเขาโพสต์รูปลงเฟซบุ๊กให้เห็นว่ามายืนถ่ายรูปกับรถตน ยืนยันว่าตัวเขามาจริง

ต่อมาวันที่ 18 เม.ย. เขาโพสต์เฟซบุ๊กว่าได้ติดจีพีเอสเอาไว้ที่รถตนด้วย แม้จะตรวจสอบทั้งคันไม่เจอ แต่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจและหวาดระแวง รอบนี้คุกคามตนหนักกว่ารอบที่แล้ว คือคราวนี้ส่งภาพโป๊ของตนมาด้วย พร้อมคลิปการช่วยตัวเอง แม้ใครจะมองว่าเขาเป็นคนป่วย ตนว่าเขาก็มีสติดี คืออะไรที่ทำแล้วเขาจะผิดโดยตรงเขาจะไม่ทำ เช่น จีพีเอส ถ้ามีการตรวจสอบเขาจะอ้างได้ว่าไม่ได้ติดจริงๆ เขาแชทมาในเพจของตน แม้จะบล็อกไป ทำให้ย้อนไปดูโปรไฟล์เขาไม่ได้ แต่ตนรู้ว่าต้องเป็นเขาแน่นอน ไม่ใช่คนอื่นที่จะส่งรูปตัวเองแก้ผ้าพร้อมกับช่วยตัวเองแบบนี้ เป็นคนอื่นไปไม่ได้แน่นอน

ส่วนกรณีอ้างว่าเป็น FC ของตน ขออธิบายว่าเป็นกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่จะเข้ามาคอมเมนต์ในลักษณะให้ท้าย ถือหาง เขียนประมาณมา “ขอให้พี่ไมค์สมหวังนะ เชียร์อยู่” หรือคอมเมนต์ที่รุนแรง “ไมค์คนเดียวไม่พอหรอก ต้องให้พวกเราช่วยไปรุมข่มขืน” “ถ้าพี่ไมค์ไปเจอมินตัน เดี๋ยวจะส่งดาวให้นะ” เป็นต้น

พี่ๆ ทีมงานได้ห้ามตน อ้างเกรงว่าจะเสียสุขภาพจิต เขาจะรู้เลขบัตรประชาชน ทะเบียนราษฎร์ของตน ที่อยู่บ้าน เรียกว่ารู้ข้อมูลส่วนตัวทุกอย่างของตนหมดเลย ไม่เป็นส่วนตัว จากการไลฟ์ของเขาอ้างว่าได้ข้อมูลเหล่านี้มาจากตำรวจนายหนึ่งที่เขาไปได้ไอดี พาสเวิร์ดมา แอบเขาไปดูในภายหลัง จะมาอ้างว่าป่วยจิต แต่เขาก็รู้วิธีการต่างๆ

สำหรับทะเบียนสมรสปลอมเขาบอกในไลฟ์ว่าตัดต่อทำเองหมด ถามความรู้สึกตน แรกๆ เสียใจ รู้สึกอ่อนแอ แต่พอรู้ว่าการที่เขารู้ว่าตนอ่อนแอจะทำให้เขาได้ใจ ในไลฟ์ของเขาจะภูมิใจที่เขาทำได้ โชว์ว่าทำทะเบียนสมรส รู้ข้อมูลทะเบียนราษฎร์ตน สร้างความภูมิใจกับเขา ตนจึงไม่อยากแสดงความอ่อนแอตรงนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะอดทนไปได้แค่ไหน ถ้าครั้งนี้กฎหมายยังเอาผิดเขาไม่รุนแรงพอ ตนคิดว่าอาจจะมีอีกเป็นครั้งที่ 3 เขาคงคิดเข้าข้างตัวเองการถูกจับครั้งแรกไม่ใช่คดีของตน

ด้านทนายรัชพล กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนมีความเห็นว่าเข้าข่ายความผิดตาม ป.อาญา ม.397 เป็นเรื่องการคุมคาม ข่มเหงรังแก ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญ ตามข้อกฎหมายเป็นความผิดเล็กน้อย ลหุโทษ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในทางปฏิบัติส่วนใหญ่จะปรับที่โรงพัก เปรียบเทียบปรับ 500-1,000 บาท แล้วคดีก็จบ แต่ถ้าผู้เสียหายไม่ยอมก็เอาคดีขึ้นสู่ศาลให้ศาลตัดสินได้ ตนคาดเดาได้ว่าถ้าคดีนี้ขึ้นสู่ศาล ศาลพิจารณาแล้วน่าจะรอลงอาญา ตนจึงเตรียมจะขอศาลใช้เงื่อนไขในการรอลงอาญา คือ 1.ห้ามผู้ต้องหาเข้าใกล้ “มินตัน” ในรัศมี 3 กม. 2.ห้ามลงโซเชียลทำนองคุกคามน้องมินตัน และ 3.ขอให้หน่วยงานรัฐมาดูแลปรับทัศนคติ หรือให้จิตแพทย์ตรวจสภาพจิตใจผู้ต้องหารายนี้ด้วย เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม คนประเภทนี้เขาเรียกว่า “คนสัปดน” อยู่ร่วมกับคนอื่นแล้วสร้างความเดือดร้อนรำคาญ คุกคามคนอื่นแบบนี้ ถ้าอยู่ไม่ได้ในสังคมต้องเข้าไปอยู่ในคุก ต้องแยกกันอยู่กับคนปกติทั่วไป
ตนและน้องมินตันอยากจะผลักดันให้กฎหมายมีความเข้มข้นมากกว่าเดิมที่เป็นอยู่ในเวลานี้ ถ้าทำปิดซ้ำๆ อาจจะติดคุกได้

ด้านนายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร รายงานผู้บังคับบัญชากรมราชทัณฑ์ว่า ได้รับตัวนายณัณธวัฒน์ ผู้ต้องหาคดีคุกคามเน็ตไอดอลสาวเมื่อวานนี้ (24 เมษายน 2566) ขณะนี้จัดให้อยู่ในแดน 2 แรกรับ กักโรค อยู่ห้อง 12 มีผู้ต้องขังร่วมห้อง 11 คน สุขภาพทั่วไปปกติ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”