24 เม.ย. – ตำรวจไซเบอร์ทลายแก๊งจีนลวงส่งของเก็บเงินปลายทาง พบเหยื่อโผล่ทั่วไทย บุกค้นโกดังสินค้าย่านบางนา พบพัสดุนับหมื่นชิ้น เร่งขยายผลล่านายทุนจีนตัวการใหญ่
เมื่อเวลา 17.45 น. (24 เม.ย.66) พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท 2, พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจ นากูร ผกก.2 บก.สอท.2 นำกำลัง บก.สอท. 2 ปิดล้อมตรวจค้น 3 จุด ในพื้นที่บางนา หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าได้รับความเดือดร้อนจากการที่มีพัสดุเก็บเงินปลายทางมาส่ง ทำให้หลงเชื่อว่าอาจจะมีบุคคลในครอบครัวหรือเพื่อนร่วมงานเป็นคนสั่ง ก่อนชำระเงินให้ไป ทำให้เดือดร้อนและเกิดความเสียหาย มีผู้หลงเชื่อชำระเงินเป็นจำนวนมาก
จุดที่น่าสนใจเป็นการเข้าตรวจค้นโกดังเก็บของ รับของ 2 แห่ง ภายในซอยบางนา-ตราด 17 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กทม. ลักษณะเป็นโกดังให้เช่า โดยโกดังแห่งแรกเป็นโกดังเก็บพัสดุสินค้า จากการตรวจสอบพบพัสดุสินค้าหลายรายการ ภายในบรรจุสินค้าหลายรายการ อาทิ เครื่องสำอาง, รองเท้า, เสื้อผ้า อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังพบกล่องพัสดุเปล่าที่เตรียมแพ็กของสุ่มส่งลูกค้า และสติกเกอร์รายชื่ิอที่อยู่ของเหยื่อที่ถูกทำลายเป็นจำนวนมาก อีกทั้งตรวจค้นในสำนักงานพบคอมพิวเตอร์ซึ่งมีรายชื่อของผู้รับถูกบันทึกไว้อย่างละเอียด และยังมีสินค้าตีกลับอีกนับหมื่นรายการ
โกดังที่ 2 เป็นโกดังสำหรับแพ็กพัสดุที่รอส่ง พบชั้นวางกล่องพัสดุที่ถูกตีกลับ และกระสอบใส่กล่องพัสดุที่ถูกตีกลับกว่าหมื่นกล่อง รวมทั้งบาร์โค้ดที่ใช้สำหรับส่งของพัสดุ นอกจากนี้ทั้งสองจุดสามารถควบคุมตัวผู้ดูแล คือ น.ส.สุรีพร โสภณชัยพร อายุ 30 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.225 /2566 ลงวันที่ 24 เม.ย. ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และคุมตัวนายตู่ อายุ 27 ปี พนักงานแพ็กของ
เบื้องต้นทั้งสองอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นว่าเป็นพฤติกรรมการหลอกลวงส่งของเก็บเงินปลายทาง ทั้งในส่วนบาร์โค้ด รายชื่อลูกค้า และโลโก้บริษัทส่งของต่างๆ อ้างเพียงถูกจ้างมาแพ็กของติดชื่อส่งพัสดุยังผู้รับ ได้ค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งในส่วนรายชื่อ หรือพัสดุ โดยเจ้าของกิจการซึ่งเป็นคนจีนจัดหามาให้ เพียงแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น แต่ให้ข้อมูลว่าสินค้าทั้งหมดนำเข้ามาจากจีน แต่ไม่ทราบวิธีการนำเข้า จากนั้นจะนำชื่อที่อยู่ของผู้รับจากระบบคอมพิวเตอร์ปริ้นต์ลงกระดาษแปะหน้ากล่อง ก่อนจะนำไปส่งต่อยังบริษัทรับส่งพัสดุ เพื่อนำส่งไปตามที่อยู่ที่ระบุหน้ากล่อง ทั้งหมดจะถูกเก็บเงินปลายทางยังผู้รับทุกวัน โดยแต่ละวันจะส่งวันละหลายร้อยกล่อง
ที่ผ่านมาถูกตีกลับเกินครึ่ง และหากสินค้าที่ถูกตีกลับมาจะนำลอกชื่อหน้ากล่องออก แปะข้อมูลของอีกคนเข้าไปแทน จากนั้นดำเนินการส่งใหม่อีกรอบ ทำซ้ำๆ วนไปแบบนี้เป็นวงจรปกติ สำหรับรายชื่อของผู้รับไม่ทราบว่าเจ้าของซึ่งเป็นคนจีนนำมาจากไหน แต่จะมีเข้ามาในระบบเรื่อยๆ
พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. เน้นย้ำสั่งการให้ปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ หลังสถิติการรับแจ้งความทางออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่ามีประชาชนตกเป็นเหยื่อจากการสั่งสินค้าทางออนไลน์สูงเป็นอันดับ 1
ขณะเดียวกันทาง บก.สอท.2 ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายจำนวนมากว่าสั่งซื้อสินค้าผ่านเพจเฟชบุ๊ก Wdecd-US แต่ได้รับสินค้าที่ไม่ตรงตามที่สั่ง และกรณีผู้เสียหายได้รับสินค้าที่ไม่ได้สั่งซื้อ โดยเรียกเก็บเงินปลายทางกับผู้เสียหาย จึงแจ้งความไว้ผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ หลังรับเรื่องได้สืบสวนจนทราบว่ามีการเป็นขบวนการ จึงรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายค้นและหมายจับ
พฤติกรรมของขบวนการนี้มี 2 รูปแบบ คือ จะส่งสินค้าที่ไม่ตรงปก และส่งสินค้าทั้งที่ไม่ได้สั่ง โดยจะเก็บเงินปลายทาง สินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าไม่ได้คุณภาพ และเป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ หากผู้รับปฏิเสธไม่จ่ายเงินปลายทางจะสามารถตีกลับคืนไปยังต้นทางได้ทันที
ส่วนเหยื่อรายไหนที่เผลอรับหรือจ่ายเงินปลายทางถือเป็นรายได้ของแก๊งมิจฉาชีพ ส่วนใหญ่คนที่มีรายชื่อระบุหน้ากล่องจะรู้ตัวเองว่าไม่ได้สั่ง แต่คนในบ้านซึ่งเป็นญาติพี่น้องจะไม่รู้ว่าไม่ได้สั่ง จึงเผลอจ่ายเงินปลายทาง รับของไว้ให้ ทำให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก และมีอยู่ทั่วประเทศ เนื่องจากขบวนการนี้จะทำการสุ่มกระจายรายชื่อเหยื่อ ส่วนชิ้นไหนถูกบริษัทขนส่งเอกชนตีกลับจะนำมาลอกรายชื่อกระดาษหน้ากล่องออก แปะทับรายชื่อใหม่ ส่งวนไปสู่เหยื่อรายใหม่ ในแต่ละวันทางหัวหน้าขบวนการจะส่งรายชื่อไม่ต่ำกว่าวันละ 100-200 ราย
อย่างไรก็ตาม จากแนวทางสืบสวนพบว่าทำมาไม่ต่ำกว่า 5 เดือน มีเงินหมุนเวียนจากการหลอกลวงประชาชนกว่า 20 ล้านบาท อีกทั้งจากการตรวจสอบฐานข้อมูลในรายชื่อ พบรายชื่อเหยื่อกว่า 25,000 ราย ส่งสำเร็จ 16,000 ราย และตีกลับ 7,000 ราย ชุดสืบสวนได้พิสูจน์ทราบและรู้ตัวผู้เช่าอาคารดังกล่าวที่เป็นคนจีนแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย