กรุงเทพฯ 24 เม.ย. – ตำรวจหัวหมาก เตรียมขอศาลออกหมายจับเพิ่มอีก 2 ผู้ต้องหาร่วมกรรโชกทรัพย์นักธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินชาวกัมพูชา มั่นใจยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ
พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผู้กำกับการ สน.หัวหมาก กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายตั้งตัวเป็นเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. นำหมายค้น-หมายจับทิพย์ เข้าค้นบ้านพักครอบครัวนักธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินชาวกัมพูชา ก่อนกรรโชกทรัพย์เงินสด 3,100,000 บาท หลบหนีไป ระบุว่า คดีดังกล่าว จากการสืบสวนสอบสวน มีคนร้ายร่วมกันก่อเหตุทั้งหมด 6 คน จับกุมตัวได้แล้ว 3 คน อยู่ระหว่างหลบหนีอีก 3 คน ซึ่งสามารถพิสูจน์ทราบตัวตนของคนร้ายได้ทั้งหมดแล้ว โดยช่วงบ่ายวันนี้ (24 เม.ย.) พนักงานสอบสวนจะนำพยานหลักฐานไปขอศาลอาญา รัชดาฯ ออกหมายจับในเบื้องต้น 2 คน เป็นชาย อายุกว่า 30 ปี ในข้อหา “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่นฯ”
ส่วนคนร้ายอีกคนเป็นชาย อายุประมาณ 40 ปี อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม จึงจะสามารถขอศาลออกหมายจับได้ เบื้องต้นจากการข่าวมีข้อมูลว่า ผู้ต้องหายังหลบหนีอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ
ผู้กำกับการ สน.หัวหมาก ยังระบุว่า คดีนี้แท้จริงแล้วคนร้ายอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ฝ่ายเดียว ไม่ได้อ้างเป็นเจ้าหน้าที่กองปราบฯ ตามที่เป็นข่าว โดยก่อนเกิดเหตุ นายยะฝาด อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ คาดว่าเป็นหัวหน้าขบวนการ ทำหน้าที่หาสมาชิกในกลุ่มที่เป็นลูกน้องเก่าของตัวเองให้มาร่วมก่อเหตุ จากนั้นเลือกเหยื่อที่มีฐานะ และต้องเก็บเงินสดไว้ที่บ้าน กระทั่งพบว่าครอบครัวของผู้เสียหายมีคุณสมบัติตรงตามที่กลุ่มคนร้ายต้องการ หนำซ้ำยังเป็นคนต่างด้าวชาวกัมพูชาอีกด้วย โดยตัวสามีเป็นผู้จัดการบริษัทรับแลกเปลี่ยนเงิน มีภรรยาและลูก 2 คน รวมถึงแม่บ้านเป็นชาวกัมพูชาทั้งหมด จึงลงมือก่อเหตุในวันที่ 11 เมษายน 2566 ผู้ต้องหามีด้วยกัน 6 คน แต่วันเกิดเหตุเดินทางไปยังบ้านพักของผู้เสียหาย ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในท้องที่ สน.หัวหมาก แค่ 5 คน พร้อมอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. มีหมายค้นและหมายจับทิพย์ เข้ามาขอตรวจค้นบ้านพัก โดยแจ้งว่าผู้เสียหายมีความผิดคดียักยอกทรัพย์ พร้อมกรรโชกเงินจำนวน 3.1 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายมีความหวาดกลัว เกรงภรรยาและลูกอีก 2 คน จะได้รับอันตราย จึงยอมมอบเงินให้ ก่อนจะเข้าแจ้งความ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหา ไม่พบมีประวัติกระทำผิดในลักษณะกรรโชกทรัพย์มาก่อน แต่จะขยายผลให้ลงลึกมากขึ้น เมื่อตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทุกคน เพื่อให้ชัดเจนว่า ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุมาก่อนหรือไม่ หรือมีความผิดคดีอาชญากรรมอื่นๆ อีกหรือไม่ รวมถึงประเด็นเกลือเป็นหนอน เนื่องจากต้องการพิสูจน์ทราบว่า เหตุใดกลุ่มคนร้ายจึงเลือกที่จะก่อเหตุกับครอบครัวชาวกัมพูชาดังกล่าว โดยอาจมีการวางแผน สะกดรอย เพื่อเก็บข้อมูลของผู้เสียหายมาก่อนล่วงหน้าที่จะลงมือก่อเหตุ
สำหรับผู้ต้องหาที่ตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมได้แล้ว 3 คน คือ นายยะฝาด อายุ 59 ปี หัวหน้าแก๊ง, นายธนพัฒน์ อายุ 26 ปี และนายธนมงคล อายุ 38 ปี ซึ่งทั้งหมดถูกนำตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา. – สำนักข่าวไทย