กรุงเทพฯ 19 เม.ย. – “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” เสนอให้ติดตั้งระบบ AI ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง เพิ่มประสิทธิภาพคัดกรองคนเข้าประเทศ หวังลดปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ หลังพบคนจีนเข้ามาก่อเหตุในไทยมากขึ้น พร้อมหารืออุปทูตจีนประจำประเทศไทย วางแนวทางป้องกันเหตุ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงคดีการอุ้มตัวคนจีนไปเรียกค่าไถ่ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สน.ลุมพินี และ สน.บางโพงพาง ในช่วงนี้ โดยเฉพาะคดีที่ สน.บางโพงพาง ที่พบมีผู้ต้องหาทั้งคนไทย และคนจีนร่วมกัน 11 คน ในการก่อเหตุอุ้มตัวคนจีนไปเรียกค่าไถ่ ขณะนี้สามารถจับตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 4 คน และอยู่ระหว่างการติดตามตัวที่เหลือ
ส่วนที่มีเหตุคนจีนเข้ามาก่อเหตุอาชญากรรมในไทยมากขึ้นนั้น วันนี้ได้นัดหมายอุปทูตจีนประจำประเทศไทยเข้ามาร่วมหารือถึงแนวทางการป้องกัน และการกวาดล้างอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคนจีนให้เข้มงวดมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาหลังจากเปิดประเทศก็มีคนจีนเข้ามาอยู่ในไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังยอมรับว่า ประเทศไทยเข้า-ออกได้ง่าย หลังจากที่ก่อนหน้านี้จะอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้กลุ่มผู้ต้องหาที่กระทำผิดในจีนเข้ามาในไทย แม้ว่าทางการไทยจะพยายามคัดกรองแล้ว แต่ก็ยังพบมีหลุดรอดเข้ามาได้ ในช่วงนี้ก็ได้สั่งการให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศเข้มงวดในการตรวจสอบ อีกทั้งกำหนดเป้าหมายการเข้าตรวจค้นในพื้นที่พักอาศัยของคนจีน ทั้งกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต อยู่เป็นประจำ เพื่อตรวจหาผู้ต้องหา หรือบุคคลต้องสงสัยที่หลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
นอกจากนั้นยังเสนอให้ภาครัฐจะต้องช่วยเหลือผู้ปฏิบัติโดยเฉพาะด่านตรวจคนเข้าเมือง ปรับปรุงระบบตรวจสอบบุคคลเข้าออกประเทศ ให้เป็นระบบตรวจจับอัจฉริยะ หรือ AI เพราะจะสามารถตรวจจับจดจำใบหน้า ม่านตา ใบหู ของผู้ที่เดินทางเข้าออกประเทศได้ ซึ่งมีหลายประเทศได้ใช้ระบบนี้แล้วทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งหากมีระบบนี้เข้ามาใช้ก็เชื่อว่าผู้ต้องหาที่คิดจะหลบหนีเข้ามาในไทยลดน้อยลง เพราะเข้าประเทศได้ยากขึ้น และระบบเทคโนโลยีในสมัยนี้ราคาไม่แพงแล้ว
ส่วนระบบไอโอเมตทริกซ์ ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ไม่สามารถจดจำใบหน้า ม่านตา และไม่เชื่อมข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้ แต่ก็ไม่โทษผู้ที่สั่งซื้อเข้ามาใช้เพราะเป็นนโยบายในอดีต แต่หากมีการพัฒนาระบบตรวจคนเข้าเมืองที่ล้าหลังไม่เท่าเทียมกับประเทศอื่น ก็จะทำให้มีปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งก็จะทำให้มีปัญหาคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้นไปด้วย
สำหรับปัญหาอีกเรื่องที่เป็นปัญหาการสืบสวนคือ การโอนเงินในสกุลดิจิทัล ที่พบกลุ่มชาวจีนนิยมใช้ ทำให้ยากต่อการสืบหาร่องรอยการโอนเงิน แม้ว่าจะสืบได้แต่ต้องใช้เวลาประสานงานกับหน่วยงานอื่น ทำให้บางครั้งจำนวนเงินของผู้เสียหายที่สูญเสียไปอาจตามคืนมาไม่ได้. -สำนักข่าวไทย