ผลตรวจค้นห้องพัก “จ่าสิบโท” มือแฮก คาดเป็นมืออาชีพ

กรุงเทพฯ 12 เม.ย. – ผบช.สอท.เผยผลตรวจค้นห้องพักมือแฮกข้อมูล 55 ล้านรายชื่อ พบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีจำนวนมาก คาดเป็นมืออาชีพ ไม่เชื่อซื้อข้อมูล 8,000 บาท หลังเป็นกระแส อ้างการเมืองมาเกี่ยวข้อง


พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อม พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. แถลงผลการตรวจค้นที่พักของจ่าสิบโท ทหารสังกัดกรมการขนส่งทหารบก ผู้ต้องหาในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นแฮกเกอร์นาม “9near” ที่นำข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านรายชื่อ ไปเผยแพร่บนโลกออนไลน์

พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า ได้รับมอบจาก ผบช.สอท. ให้ไปตรวจสอบที่ห้องพักของผู้ต้องหา พบมีฮาร์ดดิสก์อุปกรณ์รีโมทควบคุมทางไกล อุปกรณ์โน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และฮาร์ดดิสก์อีก 7-8 ตัว อุปกรณ์สำหรับการซ่อมคอมพิวเตอร์จำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ พบเราเตอร์ ซ็อกเก็ต เรื่องการใช้ wifi 3 ค่าย ถือเป็นผู้มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี มีความเชี่ยวชาญ ขณะนี้ยังรอผลการตรวจร่องรอยทางคอมพิวเตอร์


ด้าน พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้ พบพยานหลักฐานเชื่อมโยงกับคำให้การของผู้ต้องหาว่าเป็นคนซื้ออุปกรณ์มา ทางตำรวจมองว่า กลุ่มคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีก็จะหาช่องทางที่จะแสดงตัวตนและความสามารถของตัวเอง จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ส่วนการที่ไปซื้อข้อมูลในดาร์กเว็บ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล เนื่องจากเครือข่ายเว็บไซต์ที่ซื้อมาเป็นของต่างประเทศ ส่วนราคาซื้อที่จ่าสิบโทอ้างว่า ซื้อข้อมูลส่วนบุคคลมาในราคา 8,000 บาทนั้น เป็นเพียงคำให้การเบื้องต้น ตำรวจมีสิทธิจะเชื่อหรือไม่อยู่ที่พยานหลักฐาน

ส่วนการนำข้อมูลไปขายต่อหรือไม่นั้น ตามคำให้การยืนยันว่า จากการสอบปากคำมี 3 เจตนา ในการโพสต์ข้อมูลส่วนบุคคลนี้ 1. เพื่อต้องการประกาศขาย เนื่องจากต้องการเงิน 2. ต้องการโพสต์ให้คนสนใจ โดยใช้ข้อมูลของบุคคลมีชื่อเสียง ในลักษณะการข่มขู่ และ 3. เมื่อรู้ว่ามีการติดตามจับกุม ก็เบี่ยงเบนประเด็นไปเรื่องการเมือง เบื้องต้นจากการหลบหนี ผู้ต้องหาคิดว่าตำรวจไม่สามารถจับกุมตัวได้ จึงหลบหนีโดยขับรถไปยังภูมิลำเนา จ.เชียงราย ระหว่างหลบหนีไม่ใช้โทรศัพท์มือถือ และทิ้งเครื่องมือสื่อสารทุกอย่าง แต่มีการทิ้งเบาะแส คือการแวะไปหาเพื่อนตามสถานที่ต่าง ๆ ก่อนมุ่งไปที่ จ.เชียงราย เพียงคนเดียว

ส่วนเส้นทางการเงิน จากการตรวจสอบพบว่าไม่มีการเชื่อมโยงไปยังภรรยา เพราะในบัญชีภรรยามีจำนวนเงินหลักร้อยเท่านั้น


พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า จากการสืบสวนตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ตำรวจตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้ พบ IP อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตรงกับอุปกรณ์ที่ตรวจพบในที่พักของจ่าสิบโท และเมื่อตรวจพยานแวดล้อมและสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ก็นำไปสู่การรวบรวมหลักฐาน จนสามารถจับผู้ต้องหาได้ในวันนี้

ส่วนข้อสงสัยที่ว่าจะมีบุคคลอื่นหรือมีผู้บังคับบัญชาเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า ไม่น่าเกี่ยวข้อง เนื่องจากการตรวจสอบที่พักพบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเอง หากมีคนสั่งการหรือมีหน่วยงานที่ควบคุมดูแล ก็ควรจะมีสถานที่ที่เป็นความลับในการก่อเหตุมากกว่า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

สิ้นตำนานเจ้าแม่รถทัวร์แห่งเมืองย่าโม

กรุงเทพฯ 28 ก.ย.- อาลัย “เจ๊เกียว” สิ้นตำนานเจ้าแม่รถทัวร์แห่งเมืองย่าโม เสียชีวิตอย่างสงบ สิริอายุ 88 ปี ครอบครัวเชิดชัย แจ้งว่า นางสุจินดา เชิดชัย หรือ “เจ๊เกียว” เจ้าแม่รถทัวร์เมืองไทย เสียชีวิตอย่างสงบ สิริอายุ 88 ปี เจ๊เกียว เกิดเมื่อ 20 มีนาคม 2480 ณ จังหวัดนครราชสีมา เสียชีวิตในช่วงบ่ายของวันที่ 27 ก.ย.68 ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ กทม. ด้วยอาการชรา ประกอบกับอายุมาก มีโรคประจำตัวหลายโรค เจ๊เกียว เป็นลูกคนที่ 6 ของครอบครัว เป็นเด็กเรียนดี สอบได้ที่ 1 มาตลอด ครอบครัวมีกำลังให้เรียน ป.4 เจ๊เกียว ตั้งปณิธานกับตัวเอง “จะต้องรวยกว่าแม่ให้ได้” จึงกลายเป็นแรงผลักดัน ตลอดเส้นทางดำเนินชีวิต นับว่า เจ๊เกียว มีประวัติสู้ชีวิตตั้งแต่เด็กๆ หลังออกจากโรงเรียน […]

ครึ่งวันเช้าเรียบร้อยดี เลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ คนทยอยใช้สิทธิ

ศรีสะเกษ 28 ก.ย.- ครึ่งวันเช้าเรียบร้อยดี ประชาชนทยอยใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 คึกคัก เผยแม้กังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แต่อยากออกมาใช้สิทธิในฐานะคนไทย ด้านเลขาฯ กกต. ระบุตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเวลาเปิดหีบ ยังไม่พบสิ่งบ่งชี้เหตุฉุกเฉิน -สำนักข่าวไทย