กรุงเทพฯ 11 เม.ย. – ตำรวจสอบสวนกลางทลายเครือข่ายพนันออนไลน์รายใหญ่ “เฮียจิ๋ว ตลาดน้อย” เช่าห้องเปิดบ่อนไลฟ์สดที่ฝั่งกัมพูชา พบเงินหมุนเวียนกว่า 600 ล้านบาท/เดือน
พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท. นำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมเครือข่ายพนันบาคาราออนไลน์ 2 เครือข่าย คือ เครือข่าย “เฮียจิ๋ว ตลาดน้อย” และเครือข่ายย่านสีลม-พระราม 2 ในพื้นที่เป้าหมาย 21 จุด ใน 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ พระนครศรีอยุธยา และจันทบุรี สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 13 คน และจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดซึ่งหน้า ขณะกำลังให้บริการลูกค้าเล่นพนันออนไลน์อีก 10 คน รวมผู้ต้องหา 23 คน พร้อมยึดของกลางเกี่ยวกับการจัดให้เล่นการพนันออนไลน์กว่า 300 รายการ และยึดทรัพย์สินมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท เช่น รถยนต์หรู นาฬิกาหรู กระเป๋าแบรนด์เนมจำนวนมาก โฉนดที่ดิน 12 แปลง ย่านพระราม 3 กรุงเทพมหานคร และพระนครศรีอยุธยา รวมถึงตู้เซฟอีกจำนวนมาก
พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผู้กำกับการ 2 บก.ปอท. เปิดเผยว่า หนึ่งในเครือข่ายการพนันออนไลน์รายใหญ่ที่เข้าจับกุมครั้งนี้ คือ เครือข่ายของ “เฮียจิ๋ว ตลาดน้อย” หรือเครือข่ายของนายฉัตรชัย เดิมเคยเป็นบ่อนพนัน แต่ถูกจับกุม เมื่อพ้นโทษผันตัวมาทำบ่อนพนันแบบออนไลน์ประเภทไพ่บาคาราผ่านกลุ่มไลน์ โดยไปเช่าห้องเปิดบ่อนเพื่อไลฟ์สดที่ฝั่งกัมพูชา และชวนลูกค้าเก่าเข้ามากลุ่มไลน์ เดิมพันเอาทรัพย์สินกับเจ้ามือ โดยมีแอดมินเป็นผู้ดูแลการรับโอนเงินของกลุ่มนักพนัน โดยเฉพาะกลุ่ม VIP มีการกำหนดยอดเงินฝากขั้นต่ำสำหรับเล่นการพนัน ครั้งละ 20,000 บาท จากการสืบสวนเส้นทางการเงินพบว่า เครือข่ายเฮียจิ๋ว ใช้บุคคลใกล้ตัวเปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับโอนเงินจากลูกค้า และใช้สำหรับยักย้ายถ่ายเทเงิน พบเงินหมุนเวียนกว่า 600 ล้านบาท/เดือน
สำหรับเครือข่ายเฮียจิ๋ว ตำรวจสามารถจับกุมเฮียจิ๋วและภรรยา รวมถึงลูกน้องรวม 11 คน ยังหลบหนี 7 คน จากการสอบสวนลูกน้องของเฮียจิ๋ว ทั้งบุคคลที่ทำหน้าที่ดูแลเรื่องการเงิน บุคคลที่ถ่ายทอดสดการเล่นพนัน และทีม Admin คอยตอบคำถามลูกค้าที่มีปัญหา ตลอดจนหน้าที่อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายการพนันออนไลน์ ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจริง แต่ปฏิเสธข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ส่วนตัวเฮียจิ๋วและภรรยาให้การปฏิเสธทั้ง 2 ข้อหาข้างต้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเครือข่ายเฮียจิ๋ว มีลักษณะเป็นการเปิดบ่อนและไลฟ์สดมาจากกัมพูชา ดังนั้น พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานเสนออัยการว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักรด้วยหรือไม่
ส่วนบ่อนพนันออนไลน์เครือข่ายย่านสีลม-พระราม 2 มีการเปลี่ยนบัญชีที่ใช้ในการรับเล่นการพนันตลอด เพื่อให้ยากต่อการสืบสวนจับกุม และพบยอดเงินหมุนเวียนกว่า 70 ล้านบาท/เดือน ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อจะติดตามจับกุมเจ้าของบ่อนพนันออนไลน์รายนี้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย