กทม. 7 เม.ย.- ผบก.ปปป. เผยจ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม เจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวเรียกรับสินบน 3.2 ล้านบาท เลี่ยงภาษี 40 ล้านบาท ของหัวหน้าฝ่ายรายได้เขตราชเทวี เบื้องต้นพบมีทรัพย์สินหมุนเวียน กว่า 100 ล้านบาท เชื่อหลอกมาแล้วกว่า 100 บริษัท
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) เผยความคืบหน้า การดำเนินคดีกับนายประมวล หัวหน้าฝ่ายรายได้ เขตราชเทวี เบื้องต้นจากการเข้าค้นคอนโดฯ ของสาวคนสนิท พบสมุดบัญชีธนาคารมีเงินหมุนเวียนกว่า 5 ล้านบาท และเอกสารจำนวนมาก เจ้าหน้าที่เตรียมนำเอกสารทั้งหมดมาตรวจสอบ และพบว่ามีเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดกว่า 10 คน รวมถึงผู้ประกอบการที่เคยถูกเรียกรับเงินอีกกว่า 100 บริษัท ซึ่งจะต้องเรียกทั้งหมดมาสอบปากคำ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างประชุมแบ่งชุดทำงานตรวจสอบเอกสารและพยานหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติม จากสมุดจดบันทึก 10 เล่ม และเอกสาร กระดาษ A4 จำนวนกว่า 9 ถุง ซึ่งถือเป็นเอกสารสำคัญของผู้ต้องหาที่มีการจดแจงบัญชีไว้ทั้งหมด รวมถึงแผนผังเชื่อมโยงถึงบุคคลระดับสูงกว่า โดยรายชื่อผู้ที่รับผลประโยชน์ มีตั้งแต่ระดับต่ำกว่าไปถึงสูงกว่า แต่ยังไม่ขอเปิดเผย
ส่วนการตั้งข้อสังเกตที่ว่าเหตุใดมีการโอนเงินผ่านสาวคนสนิทเป็นจำนวนมาก ผบก.ปปป.เปิดเผยว่า เมื่อได้เงินมาจะเอาเงินโยกย้ายไปยังบัญชีของคนสนิท และเอาไปลงทุนในธุรกิจอื่นๆ จากการตรวจสอบเบื้องต้นมีการนำเงินไปลงทุนซื้อขายทองคำ อสังหาริมทรัพย์ สะสมพระเครื่อง และพระพุทธรูป รวมทรัพย์สินแล้วกว่า 100 ล้านบาท
ส่วนผู้ประกอบการที่ถูกเรียกรับเงินในขณะนี้ ถูกกันไว้เป็นพยานในคดี ขณะที่บริษัทอื่นๆ อีกกว่า 100 บริษัท จะเรียกมาสอบปากคำในฐานะพยานเพิ่มเติม หากบริษัทใดเคยถูกเรียกรับเงินในลักษณะนี้ สามารถเข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) ได้
ด้าน พ.ต.อ.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น ผกก.1.บก.ปปป.เผยว่า เบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหากระทำความผิดตั้งแต่ปี 61 ขณะนั้นทำงานอยู่ในส่วนของฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตพญาไท ต่อมาได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายรายได้ ที่สำนักงานเขตราชเทวี จนถึงปัจจุบัน ตลอดระยะเวลาที่ทำมีพฤติกรรมการเรียกรับเงินอย่างต่อเนื่อง ในส่วนนี้จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานในการเอาผิดเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย