‘ชูวิทย์’ ฟ้อง ‘ทนายตั้ม’ หมิ่น ปมถุงเงิน 6 ล้าน

กทม. 7 เม.ย.-‘ชูวิทย์’ ควงทนายอนันตชัย ฟ้อง ‘ทนายตั้ม’ หมิ่นประมาท ตั้งโต๊ะแถลงข่าวใส่ร้าย ‘ชูวิทย์’ รับเงินจากบ่อนเว็บพนันออนไลน์ จำนวน 10 ล้านบาท ไม่ใช่ 6 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าปิดปากหยุดแฉบ่อนเว็บพนันออนไลน์ พร้อมเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง และนักธุรกิจกลางคืน พร้อมนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ได้เดินทางมาที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 เม.ย.) เพื่อยื่นฟ้องนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั๊ม ในข้อหา “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา” พร้อมทั้งเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท จากกรณีที่ทนายตั้ม ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่า ชูวิทย์ได้รับเงินจากบ่อนเว็บพนันออนไลน์ จำนวน 10 ล้านบาท ไม่ใช่ 6 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าปิดปากหยุดแฉบ่อนเว็บพนันออนไลน์ แล้วนำเอาเงินจำนวนนั้นไปทำบุญ รวมถึงกล่าวหาว่าลูกชายของนายชูวิทย์ ได้รับเงินสกุลดิจิทัลจากบ่อนเว็บพนันออนไลน์ จำนวน 50 ล้านบาท และกล่าวหาว่านายชูวิทย์ เรียกรับเงินจากสารวัตรซัว และบ่อนเว็บพนันออนไลน์


ก่อนขึ้นศาลนายอนันต์ชัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23-27 มีนาคม ที่ผ่านมา ทนายตั้ม ได้แถลงข่าวต่อผู้สื่อข่าวหลายสำนัก เพื่อนำคำสัมภาษณ์ดังกล่าวไปเผยแพร่ให้ประชาชนทราบ ต่อมาในห้วงวันที่ 24-27 มีนาคม ทนายตั้ม ก็ได้แถลงข่าวกล่าวหาว่านายชูวิทย์ เป็นโจรโรบินฮู้ด หมายถึง เป็นโจรปล้นเงินคนรวยมาให้คนจน โดยการเรียกรับเงินจากบ่อนเว็บพนันออนไลน์ดังกล่าวแล้วแสร้งเอาเงินที่ได้มาทำบุญบริจาค และกล่าวหาว่า ลูกชายของนายชูวิทย์พานายแทนไทมาที่โรงแรมเดอะเดวิส ในวันตรุษจีน แล้วนายชูวิทย์ เรียกรับเงินจากนายแทนไท เพื่อไม่ให้เปิดเผยเรื่องบ่อนเว็บพนันออนไลน์ของนายแทนไท ซึ่งเป็นความเท็จ

ความจริงก็คือ นายชูวิทย์ ได้รับเงินจากอดีตนายตำรวจท่านหนึ่ง จำนวน 6 ล้านบาท ไม่ใช่ 10 ล้านบาท เพื่อมอบให้นายชูวิทย์ นำไปทำบุญ หรือบริจาค ส่วนลูกชายของนายชูวิทย์ ก็ไม่เคยได้รับเงินดิจิตอล จำนวน 50 ล้านบาท และนายชูวิทย์ ก็ไม่เคยเรียกเงินจากบ่อนเว็บพนันออนไลน์ หรืออาบอบนวด และไม่เคยนำเงินจากเว็บพนันออนไลน์ไปทำบุญ ซึ่งเงินทำบุญเป็นเงินจากกิจการของนายชูวิทย์ เอง และนายชูวิทย์ ก็ไม่ใช่โรบินฮู้ด หรือโจรที่เรียกรับเงินจากเว็บพนันออนไลน์แล้วนำเงินไปทำบุญด้วย


การกระทำของทนายตั้ม ทำให้นายชูวิทย์ เสียชื่อเสียง ซึ่งขัดต่อความเป็นจริง จึงขอเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และให้ลงโฆษณาคำพิพากษา คำขอโทษต่อสื่อมวลชน โดยให้ทนายตั้ม เป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายเอง เป็นเวลา 7 วัน ผ่านสื่อรวม 45 สื่อ นอกจากนี้ การ กระทำของทนายตั้ม ยังเป็นการกระทำผิดมรรยาททนายความอีกด้วย โดย ในวันจันทร์ที่ 10 เมษายนนี้ นายชูวิทย์ก็จะเดินทางไปยื่นที่สภาทนายความเพื่อขอให้ลบชื่อทนายตั้มออกจากสารบบทนายความด้วย

ทนายอนันตชัย ยังกล่าวถึงเหตุผลที่ทำไมถึงต้องเรียกถึง 100 ล้านบาท เพราะว่าทนายตั้มเป็นคนมีฐานะใส่เครื่องประดับสินค้าแบรนด์เนมเต็มตัว อยากฝากเตือนไปยังทนายตั้มว่า ถ้าจะโพสต์อะไร อย่าทำเหมือนลักษณะโยนหินถามทาง เพราะจะทำให้วิชาชีพจรรยาบรรณทนายความเสื่อมเสีย ขอให้มาสู้กันในศาล อย่าสู้กันในโซเชียล ถือว่าเตือนกันในฐานะพี่น้อง ทนายความ

ส่วนประเด็นเรื่องเงิน6ล้าน ทนายอนันตชัย บอกว่า ตนเองเป็นคนช่วยนายชูวิทย์วางแผนเรื่องเงิน 6 ล้านบาท ซึ่งนายชูวิทย์ได้มาให้คำปรึกษาและตนเองก็ช่วยวางแผนไป


ทนายอนันตชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่นายชูวิทย์ ถูกโจมตีเรื่องสวนชูวิทย์ว่า คุณสนธิลิ้มทองกุล ควรหยุดพฤติกรรม หรือพูดอะไรที่ไม่เป็นความจริง ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์เคยให้สัมภาษณ์เรื่องเงิน 6 ล้านบาท ที่ไม่ตรงกับการให้การกับตำรวจ ทนายอนันตชัยบอกว่า ถ้าเคยดูสามก๊กก็จะเข้าใจ และสิ่งที่นายชูวิทย์ให้การกับตำรวจกับสัมภาษณ์สื่อ ถือว่าไม่คลาดเคลื่อน แต่ขอให้ดูที่พยานหลักฐานและไปสู้กันในศาลจะดีกว่า

นายชูวิทย์ บอกว่า ทนายตั้มไม่มีความจริงใจใช้สื่อไปเครื่องมือและหาลูกความโดยวิธีการแปลกๆ ทนายอนันตชัยถือเป็นทนายความที่ดีมีคุณธรรม แต่สิ่งนี้สอนกันไม่ได้ทนายตั้มควรต้องเรียนรู้ ซึ่งวิชาชีพทนายความต้องใช้จรรยาบรรณจริยธรรมเป็นอย่างสูง ยืนยันว่า จะไม่ยกโทษหรืออโหสิกรรมให้ทนายตั้ม ถ้าได้เงินจากการฟ้องร้องทนายตั้มก็จะเอาเงินไปทำบุญ ให้โรงพยาบาลหรือสถานที่ต่างๆ

ส่วนเรื่องกรณีสวนชูวิทย์นั้น นายชูวิทย์บอกว่า อยากฝากไปถึงคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ว่าคุณสนธิ อาจมีอำนาจบารมี แต่ตนเองมีเจตนาดีสร้างเพื่อชุมชน​ มีรั้วรอบขอบชิด เปิดปิดตามเวลา เสียภาษีทุกปี จะมายึดของๆตนได้เหรอ จากนี้จะปล่อยให้นายสนธิพูดไป อยากพูดไป และตนจะแถลงข่าวทีเดียว และอยากถามกลับไปว่าตนเองทำสวนมา 20 ปี ทำไมนายสนธิ ถึงไม่ออกมาพูดบ้าง

ทนายอนันตชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่นายชูวิทย์ จะไปขอเพิกถอนคุ้มครองชั่วคราว ไม่ให้นายชูวิทย์ พูดเรื่องกัญชา ว่า คุณชูวิทย์ พูดเรื่องกัญชาได้ แต่ไม่ต้องเอ่ยชื่อคู่กรณี ยืนยันไม่ใช่ศรีธนญชัย แต่ทำเพื่อประโยชน์สาธารณะ ยืนยัน “ชูวิทย์” ไม่ฟ้องกลับ เพราะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายสาธารณะต่อพรรคการเมือง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษทำเข้าใจคลาดเคลื่อน ปมเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน

สระแก้ว 24 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน กรณีเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน ยืนยันพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในราชอาณาจักรไทย ให้ประชาชนผู้มีหลักฐานยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินได้ วันที่ 23 ส.ค.68 เพจ สวท.สระแก้ว เผยแพร่สารจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ชี้แจงกรณีเอกสารสิทธิ์ชาวบ้านหนองจาน อ.โคกสูง ระบุว่า ผมกราบขอโทษพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่ทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกรณีพื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง ทั้งนี้ ผมขอยืนยันว่า พื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง อยู่ในราชอาณาจักรไทย ประชาชนผู้มีหลักฐานแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) ใบจอง (ส.ค.2) และหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) บริเวณบ้านหนองจาน และบริเวณหลักเขตแดนที่ 45-49 สามารถยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน ต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดสระแก้ว สาขาอรัญประเทศได้ โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนที่มีสิทธิทุกราย ภายใต้อำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด.-สำนักข่าวไทย