4 เม.ย. – กลุ่มผู้เสียหายจากการใช้บริการคลินิกเสริมความงามย่านห้วยขวางของแม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง นำหลักฐานใหม่ร้อง ผบช.น. หลังคดีความผ่านมา 15 เดือน แต่ไม่คืบหน้า
พ.ต.อ.อนุสรณ์ วะยาคำ ทนายความ พร้อมด้วยผู้เสียหายจากการเสริมความงามใบหน้า จากคลินิกแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ที่มีแม่ค้าออนไลน์ชื่อดังเป็นเจ้าของ นำหลักฐานและคลิปสนทนาระหว่างผู้เสียหายกับผู้บริหารรายหนึ่ง ที่ยอมรับว่าทางคลินิกมีการใช้ยาที่ไม่ถูกต้อง และเป็นพยานหลักฐานใหม่ เข้าร้องขอความเป็นธรรม กับผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โดยมี พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผู้บังคับการ ฝ่ายอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียน
พ.ต.อ.อนุสรณ์ ระบุว่าวันนี้ที่ต้องเดินทางมายื่นหนังสือถึงกองบัญชาการตำรวจนครบาล เนื่องจากระยะเวลาผ่านมานานกว่า 15 เดือน คดียังคงไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งที่ผู้เสียหายก็ได้มีการพยายามติดต่อทวงถามความคืบหน้ามาโดยตลอด
ขณะที่แพทย์หญิงเอ (นามสมมุติ) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย หลังมีแพทย์ในคลินิกดังกล่าว ได้มีการแอบอ้างใช้ชื่อและใบประกอบวิชาชีพ จนทำให้ได้รับความเสียหายสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ ระบุว่า ตนเองถูกปลอมแปลงเอกสารและสวมชื่อไปใช้ในการก่อเหตุซึ่งขณะนั้นตนเองยังคงศึกษาอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา และตลอดระยะเวลา 15 เดือนที่ผ่านมาตนเองต้องมีการพักการเรียนเพื่อกลับมาติดตามทวงถามความคืบหน้าในทางคดี เพราะคดีที่ตนเองตกเป็นผู้เสียหายไม่มีความคืบหน้า ความเสียหายที่เกิดขึ้น ชื่อของตนเองถูกปรากฏอยู่ในโซเชียล และยังคงมีคนเข้าใจผิดกล่าวหาว่าตนเองเป็นแพทย์ปลอม เพราะข่าวที่มีการนำเสนอปรากฏชื่อตนเองกับข่าวนี้ และทางคลินิกก็ยังคงไม่มีการออกมาชดใช้เยียวยาใดๆ
ขณะที่ นางสาวบี (นามสมมุติ) ระบุว่า คลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่ตนเองพูดคุยกับหนึ่งในผู้บริหารที่ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นแอดมินซึ่งในคลิปมีการพูดถึงยืนยันว่าทางคลินิกรู้ว่าจะมีหน่วยงานของรัฐเข้ามาตรวจสอบเพราะตอนนั้นตนเองต้องเข้าไปทำการฉีดสลาย สารที่ตนเองฉีดไว้แล้วมีปัญหาแต่ทางร้านมีการขอเลื่อน เพราะให้เหตุผลว่าจะมีหน่วยงานเข้ามาตรวจร้าน รวมถึงการสนทนาดังกล่าวทางผู้บริหารรายนี้ยังคงมีการพูดยอมรับกับตนเองว่าทางคลินิกมีการใช้สารบางชนิดที่ไม่ผ่านขั้นตอนถูกต้องมาใช้กับลูกค้าโดย มีการระบุไปที่กลุ่มลูกค้าที่ซื้อโปรโมชั่นในราคา 17,500 บาท แต่ขณะที่ในส่วนของตนเองที่ซื้อในโปรโมชั่นราคาที่ถูกกว่ากลับอ้างว่าเป็นของแท้จึงทำให้ตนเองไม่เกิดความเชื่อมั่นและค่อนข้างมั่นใจว่าอาจจะใช้ของที่ไม่ถูกต้องกับตนเองและกลุ่มลูกค้าคนอื่น ตนเองหวังว่าการเดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลในครั้งนี้จะรับความเมตตาในการช่วยเร่งรัดคดีเนื่องจากผู้เสียหายหลายคนมีความเดือดร้อนที่แตกต่างกัน และระยะเวลาก็ผ่านมานานนับปีแต่คดีไม่มีความคืบหน้าใดๆ
ขณะที่นายเอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหายอีกรายหนึ่ง เข้ารับบริการเสริมความงามโดยการ ร้อยไหมบนใบหน้า ได้ออกมาเปิดร่องรอยของไหมที่ทะลุออกจากบริเวณใบหน้าให้กับสื่อมวลชนดูเพราะมีการถอดหน้ากากโชว์ปัญหาระบบประสาทบนใบหน้าที่ปรากฏขึ้นเมื่อขณะที่ใบหน้ามีการยิ้มจะทำให้เกิดการกระตุกของบริเวณกล้ามเนื้อส่วนหน้า พร้อมระบุว่า ตนเองได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากขณะนี้ผ่านมาระยะเวลากว่า 1 ปี ไหมดังกล่าวที่ทางคลินิกใช้กับใบหน้าของตนเองยังคงไม่มีการสลายไปตามคำโฆษณา ซึ่งตนเองได้เข้าปรึกษากับแพทย์ที่สถาบันอื่นก็จะรับคำตอบว่าไม่สามารถดำเนินการผ่าตัดออกได้เนื่องจากเกินระยะเวลาและไม้ดังกล่าวมีการเชื่อมกับผังผืดและกล้ามเนื้อหน้าไปเป็นที่เรียบร้อย ส่วนเรื่องของระบบประสาทที่มีปัญหาทางแพทย์ระบุว่าอาจจะต้องใช้เวลานานถึง 2 ปี ถึงจะกลับมาปกติ ยอมรับว่าหลังจากเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นชีวิตของตนเองก็เปลี่ยนไปเพราะการผิดปกติบนใบหน้าส่งผลถึงการสื่อสารด้วยการพูดที่ทำให้พูดได้ช้าลงทำให้มีผลกับกิจวัตรประจำวันและการทำงาน จึงหวังว่าการเดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมในครั้งนี้จะช่วยให้ทางคดีมีความชัดเจน
ทั้งนี้ หลังรับเรื่องร้องเรียน พล.ต.ต.อนุวัตร มีการเข้าหารือร่วม กับ พ.ต.อ.สุกฤต มังคละสวัสดิ์ ผกก.สน.ห้วยขวาง พร้อมหัวหน้างานสอบสวนและพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องในคดี เพื่อหาแนวทางดำเนินการทางคดี เบื้องต้นมีรายงานว่า ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง จะมีการเสนอให้มีการรวมทุกคดี มาเป็นคณะทำงานเดียวกันเพื่อให้ง่ายต่อการดำเนินการทางคดี รวมถึงการสอบปากคำ. -สำนักข่าวไทย
