ตร. 29 มี.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยสถิติประชาชนแจ้งความออนไลน์ลดลงเฉลี่ยสัปดาห์ละ 700 ราย หลัง พ.ร.ก.เอาผิดบัญชีม้า มีผลบังคับใช้ เดินหน้าหาความร่วมมือสื่อมวลชน เผยแพร่กลโกงให้ประชาชนรู้เท่าทัน ไม่หลงตกเป็นเหยื่อ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานประชุมคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมหารือ
พล.ต.ท.สมพงษ์ ระบุว่าจากสถิติการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา พบประชาชนตกเป็นเหยื่อ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์กว่า 200,000 ราย มูลค่าความเสียหายเกือบ 40,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงตั้งคณะทำงานดังกล่าวขึ้นมาเพื่อสืบจับ และให้ความรู้กับประชาชน ถึงกลโกงออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชน
ทั้งนี้ หลังจากธนาคารต่างๆ ให้ความร่วมมือ และพระราชกำหนดเกี่ยวกับบัญชีม้ามีผลบังคับใช้ ทำให้สถิติการรับแจ้งความออนไลน์ลดลงสัปดาห์ละประมาณ 700 ราย และปรากฏภาพประชาชนไปเข้าคิวปิดบัญชีม้า จึงขอเตือนว่าการที่ผู้ใดนำบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน ไปขอเปิดบัญชีธนาคาร แล้วนำบัญชีไปให้บุคคลอื่น มีความผิด โดยจะอ้างไม่รู้ไม่ได้ ประชาชนที่หลงผิดไปรับจ้างเปิดบัญชีม้าให้รีบไปปิดบัญชี เพื่อตัดช่องทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ให้นำเงินคนไทยออกไปยังต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งให้ตรวจสอบในแต่ละสัปดาห์รูปแบบการหลอกออนไลน์เป็นลักษณะใด เนื่องจากพบว่ามิจฉาชีพมักใช้สถานการณ์ปัจจุบันมาหลอกลวงให้ตกเป็นเหยื่อ
ในส่วนของสื่อมวลชน คณะทำงานมุ่งแสวงหาความร่วมมือให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงเผยแพร่กลโกงออนไลนในลักษณะต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รู้เท่าทัน เนื่องจากโจรออนไลน์ มีการพัฒนาและปรับวิธีการหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง เช่น การซื้อสินค้าออนไลน์ ขอให้ตรวจสอบให้มั่นใจก่อนโอนเงิน.-สำนักข่าวไทย