รองเลขาธิการ ปปง. แจ้งความ “อัจฉริยะ” หมิ่นประมาท-PDPA

กรุงเทพฯ 28 มี.ค.- รองเลขาธิการ ปปง. แจ้งความ “อัจฉริยะ” หมิ่นประมาท-PDPA เรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท พร้อมทวงเงิน 20,000 บาท ที่ยืมไปนานแล้ว ลั่นจะเอาไปทำบุญล้างซวย ยืนยันไม่เกี่ยวข้องเรื่องหิ้วเงินสารวัตรซัว 6 ล้านบาท ให้ชูวิทย์ แย้มเตรียมดำเนินคดีทนายดังเป็นรอบต่อไป


เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เดินทางมาที่สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือ PDPA จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (27 มี.ค.) นายอัจฉริยะ ไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม ให้ดำเนินคดีอาญากับตำรวจ 4 นาย ที่นำเงินจำนวน 6 ล้านบาท จากสารวัตรซัว ไปมอบให้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ซึ่งนายอัจฉริยะ มีการนำรูปภาพมาเปิดเผย และให้สัมภาษณ์พาดพิงระบุชื่อ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. ว่าเป็นคนนำเงินไปให้ และยังระบุว่าพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนันออนไลน์โอนเข้าบัญชีของภรรยาของ พล.ต.ต.เอกรักษ์ จำนวนหลายล้านบาทด้วย

พล.ต.ต.เอกรักษ์ เปิดเผยภายหลังนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนว่า ที่ตนต้องเดินทางมาแจ้งความวันนี้ เนื่องจากเมื่อวานนี้อัจฉริยะ ให้สัมภาษณ์โดยมีถ้อยคำที่พาดพิงถึงตนและภรรยา รวมถึงยังพูดถึงตำแหน่งหน้าที่ของตน ทำให้สำนักงาน ปปง.เสียหาย ทั้งที่ตนไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้เลย โดยเหตุการณ์ในรูปภาพที่มีบุคคล 2 คน ยืนอยู่พร้อมถุงเงินนั้น ยืนยันว่าตนไม่ได้ไป และไม่ได้อยู่ในที่ดังกล่าวเลย ท้าให้ตรวจสอบได้ทุกอย่าง เพราะวิทยาศาสตร์โกหกไม่ได้ ซึ่งตนเองเกี่ยวข้องกับบุคคลในรูปเพียงแค่เป็นทางผ่านเท่านั้น คือเมื่อต้นปี 2565 ตั้งแต่ตนยังไม่ได้มาดำรงตำแหน่งที่ ปปง. ตนแนะนำให้ทั้ง 2 คน ในภาพรู้จักกัน แต่หลังทั้ง 2 คนแลกเบอร์กัน ตนก็ไม่รู้เรื่องอีกเลยว่าเขาติดต่ออะไรกัน


ส่วนตัวตนรู้จักกับบุคคลซ้ายมือ เพราะตอนที่ตนเป็นผู้กำกับการสืบสวนนครบาล 6 เจ้าตัวค้าขายอยู่ในเขตเยาวราช จึงได้เจอกันบ้าง และภรรยาตนกับภรรยาอีกฝ่ายก็รู้จักกัน โดยตอนที่แนะนำให้รู้จักกันกับพลตำรวจโทในภาพ ตนทำงานอยู่ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 จึงไม่ค่อยอยู่ที่กรุงเทพมหานคร เลยไม่รู้ว่าเจ้าตัวประกอบธุรกิจสีเทาหรือไม่ แล้วตอนที่ติดต่อมาบุคคลในภาพก็บอกว่า อยากจะทำบุญและติดต่อธุรกิจกับนายชูวิทย์ เป็นแฟนคลับของนายชูวิทย์ ตนจึงแนะนำให้รู้จักกับพลตำรวจโทในภาพ เพราะว่าพลตำรวจโทสนิทสนมกับนายชูวิทย์ แต่ในส่วนของตนเองนั้น ไม่ได้รู้จักกับนายชูวิทย์เป็นการส่วนตัว อาจเคยเจอและพูดคุยกันบ้าง แต่ยืนยันว่าตนไม่เคยไปที่โรงแรมเดวิส

นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ยังพาดพิงถึงภรรยาของตนว่าได้รับเงินโอนจากเครือข่ายพนันออนไลน์ ซึ่งยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยภรรยาตนประกอบอาชีพสุจริต เป็นเซลส์ขายไม้อัด ทำงานบ้านเอง ไม่จ้างคนใช้ ธุรกรรมทางการเงินสามารถตรวจสอบได้หมด ซึ่งหลังจากนายอัจฉริยะ ให้สัมภาษณ์เมื่อวาน พอตนกลับบ้านไป ตนเลยถูกภรรยาถามว่า ภรรยาคนไหนที่มีเงินหลายล้านเข้าบัญชี

ส่วนภาพคู่ของตนกับชายคนหนึ่งที่นายอัจฉริยะ อ้างว่าเป็นคนเคลียร์คดีพนันออนไลน์นั้น ก็ไม่เป็นความจริง โดยคนในภาพเป็นลูกชายของเพื่อนตน ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง เหตุการณ์ในภาพคือตนไปบรรยายอบรมที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอทเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พอเจอกัน เจ้าตัวเลยขอถ่ายรูปไปให้พ่อดูเท่านั้น แม้แต่เบอร์โทรก็ยังไม่มี


ส่วนกับสารวัตรซัวนั้น ตนเองก็ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว และไม่เคยติดต่อกัน แต่ยอมรับว่าหลายปีก่อน ตอนที่ตนยังเป็นตำรวจ เคยมีคนพาสารวัตรซัวมาสวัสดี ซึ่งตนก็รับไหว้ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร

สำหรับกรณีที่มีการกล่าวหาว่าตนใช้ตำแหน่งหน้าที่ในสำนักงาน ปปง. คอยเคลียร์คดีให้เว็บพนันออนไลน์ ยืนยันว่า ไม่มี เพราะอำนาจหน้าที่ทำไม่ได้อยู่แล้ว ตำแหน่งของตนจะรับผิดชอบแค่งานนโยบายด้านยุทธศาสตร์, การกำกับดูแลสถาบันการเงิน และการฝึกอบรมเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการยึดทรัพย์

พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ตนมาดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะก่อน เพราะมาลามปามถึงภรรยาที่ตนเคารพ ส่วนทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ที่ก็พาดพิงถึงตน ขอให้รอเป็นรอบสอง ทั้งนี้ ตนก็ไม่ทราบจุดประสงค์ที่นายอัจฉริยะ มาพาดพิงถึงตน ซึ่งส่วนตัวรู้จักกับนายอัจฉริยะ มานานแล้ว ตั้งแต่ตนยังเป็นรองผู้บังคับการตำรวจจราจร นายอัจฉริยะ ยังเคยเดือดร้อนมาขอยืมเงินตน 20,000 บาท ตนก็ไม่เคยทวง เจอกันก็ทักทายปกติ ซึ่งตนมองว่าหากนายอัจฉริยะ มีข้อสงสัยอะไรก็ให้โทรศัพท์มาถามตนก็ได้ ไม่ใช่ไปให้สัมภาษณ์ให้ตนเสียหาย

โดยที่ตนมาแจ้งความวันนี้ จะเรียกค่าเสียหายจากนายอัจฉริยะจำนวน 10 ล้านบาท พร้อมกับเปลี่ยนใจจะทวงเงิน 20,000 บาท ที่นายอัจฉริยะ ติดเอาไว้ด้วย จะเอาเงินไปทำบุญล้างซวย และหากหลังจากนี้พิจารณาแล้วพบความผิดข้อหาไหนเพิ่มเติมอีก ตนก็จะดำเนินการทั้งหมดแบบเต็มคาราเบล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]