“ทนายตั้ม” ไม่หวั่นถูกฟ้อง-ท้าสาบานหากรับเงินมาแฉ ขอให้มีอันเป็นไป

กรุงเทพฯ 27 มี.ค.- “ทนายตั้ม” อ้าง 2 อดีตตำรวจและนายบ่อนถือเงินไปมอบให้ “ชูวิทย์” แนะนำเงินไปคืนคนให้ หากไม่มีใครกล้ารับ ส่วนตัวเองท้าสาบาน หากรับเงินใครมาแฉ ขอให้มีอันเป็นไป ไม่หวั่นถูกฟ้องคดีละ 100 ล้านบาท


นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม แถลงปมนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง รับเงินจากเว็บพนันออนไลน์เพิ่มเติมว่า นายชูวิทย์ มีความสนิทสนมกับอดีตตำรวจ 2 นายที่เกษียณราชการไปแล้ว มีนายหนึ่งเคยเป็นผู้บังคับการภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนอีกนายเคยดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ซึ่งตัวเองก็รู้จักกันดี และยังมีความสนิทสนมกับสารวัตรซัว ชนิดที่ไปไหนมาไหนกันได้ โดยอดีตตำรวจนายนี้เองเป็นผู้นำเงินสารวัตรซัวมามอบให้นายชูวิทย์ เพื่อปิดปากการแฉเรื่องลาลิซ่าอาบอบนวดด้วยตัวเอง ซึ่งในวันนั้น นอกจากตำรวจสองนาย ยังมีเจ้าของบ่อนการพนันย่านพระราม 3 ที่มีตำรวจถูกยิงเสียชีวิตเมื่อ 2 ปีก่อน เป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย โดยเรื่องนี้ น่าเชื่อได้ว่าอดีตตำรวจทั้งสองนายนี้ได้รับอนุญาตจากสารวัตรให้นำเงินมามอบกับนายชูวิทย์ โดยรูปถุงเงินดังกล่าวนั้นเป็นการส่งงานให้เจ้าของเงินอีกครั้ง โดยผู้นำมาให้ต้องการแสดงให้เห็นว่าเงินถึงมือแล้ว

นายษิทรา ระบุส่วนตัวยังมองว่า หากนำเรื่องดังกล่าวไปร้องเรียนกับหน่วยงานที่เคยเป็นต้นสังกัดของอดีตตำรวจทั้งสองนาย การตรวจสอบก็คงไม่เกิดขึ้น แต่ขณะนี้กำลังเตรียมทำเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบในวันพรุ่งนี้ ยืนยันว่าเจตนาที่ออกมาแฉนั้น เพราะต้องการทำให้รองเลขาฯ ปปง.ออกจากราชการให้ได้ และจะให้ตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินสกุลดิจิทัลกว่า 50 ล้านบาท ที่โอนเข้าไปให้ลูกชายนายชูวิทย์ ซึ่งตัวเองพร้อมไปให้ข้อมูลด้วยตัวเอง


พร้อมยืนยันว่าตนเองไม่รู้จักหรือเกี่ยวข้องกับสารวัตรซัว ก่อนจะโพสต์ภาพทำบุญและสาปแช่งผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะตัวเองไม่ยุ่งกับคนเหล่านี้ พร้อมสาบานหากตนรับเงินจากฝ่ายใดก็ตามมาโจมตีนายชูวิทย์ ขอให้ตัวเองล่มสลายและมีอันเป็นไป ส่วนพรรคการเมืองที่นายชูวิทย์ โจมตีอยู่นั้นก็ยังฟ้องร้องตัวเองเช่นกัน ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมือง แต่สาเหตุที่ตัวเองนำเรื่องราวมาเปิดเผยด้วยวิธีนี้ ไม่ไปพูดคุยกับนายชูวิทย์ก่อน มองว่าหากนำหลักฐานต่างๆ ไปนั่งพูดคุยกันโดยตรง นายชูวิทย์ ก็คงไม่ยอมรับ ตนเพียงแค่อยากให้ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำเท่านั้น ไม่ได้โกรธเคืองอะไร ขอแนะนำว่า หากไม่มีหน่วยงานใดรับเงินบริจาคสีเทาดังกล่าว ขอให้ไปคืนกับอดีตสองตำรวจที่นำมาให้จะดีที่สุด

สำหรับประเด็นที่นายชูวิทย์ จะฟ้องร้องเอาผิดฐานหมิ่นประมาท พร้อมเรียกค่าเสียหายคดีละ 100 ล้านบาทนั้น นายษิทรา ยืนยันพร้อมจะพิสูจน์ตามขั้นตอนกฎหมาย หากแพ้คดีก็ต้องฟ้องร้องให้ตนล้มละลาย เพราะไม่มีเงินขนาดนั้น ส่วนตัวเองก็นับถือทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ในฐานะรุ่นพี่ ไม่มีความกังวลใด เพราะตนไม่เคยแพ้คดีหมิ่นประมาท

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ตนเองจับมือกับนายเอกภพ เหลืองประเสิร์ฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อถล่มพรรคภูมิใจไทยนั้น นายษิทรา ยอมรับว่าเพิ่งรู้จักกับนายเอกภพ ไม่นาน ก่อนนัดหมายไปทานข้าวร่วมกันกับคนมีชื่อเสียง จนมีมีภาพไปปรากฏตามสื่อโซเชียลต่างๆ ยืนยันไม่เคยนำเรื่องดังกล่าวไปพูดคุยกับนายเอกภพ เพราะเกรงจะถูกนำไปเปิดเผยก่อน


นายษิทรา กล่าวถึงกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ แจ้งความสองอดีตตำรวจดังกล่าวว่า ตัวเองขอชื่นชมที่กล้าออกมาเปิดเผยข้อมูล และขอขอบคุณ ซึ่งอาจเป็นครั้งเดียวหรือครั้งสุดท้าย เพราะที่ผ่านมาไม่เคยยอมรับการทำงานของนายอัจฉริยะ เพราะเคยมีคดีฟ้องร้องกันอยู่

สำหรับกรณีคณะกรรมการจเรตำรวจเรียกไปให้ข้อมูลเรื่องนายพล จ. ซึ่งเกี่ยวข้องกับสารวัตรซัวนั้น มีการนัดหมายวันที่แล้ว แต่พอถึงวันนัด ทางคณะกรรมการขอเลื่อนออกไปก่อน และจนถึงทุกวันนี้ยังไม่ติดต่อให้เข้าไปชี้แจงอีก โดยนายษิทรา ต่อสายโทรศัพท์ถึงหนึ่งในคณะกรรมการขณะให้สัมภาษณ์ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าสิ่งที่ตนเองพูดนั้นเป็นเรื่องจริง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”