23 มี.ค. – ตำรวจ ปอท.บุกจับกุม 2 แฮกเกอร์หนุ่ม เจาะระบบขโมยข้อมูลโค้ดใต้ฝาเครื่องดื่มชูกำลังแลกรางวัลมากกว่า 6,000 code เพื่อนำไปแลกเป็นเงินสด คิดเป็นเงินกว่า 60,000 บาท
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร่วมกันจับกุมนายวัชนันท์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา และนายสมประสงค์ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในข้อหา “ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน, ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน, ร่วมกันกระทำการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ และร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร” ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 5, 7, 10(1), 14(1) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334, 335(1) พร้อมตรวจยึดของกลาคอมพิวเตอร์ แบบตั้งโต๊ะ จำนวน 6 เครื่อง, โน้ตบุ๊ก จำนวน 4 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน จำนวน 13 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม, ซิมโทรศัพท์ จำนวน 15 หมายเลข, บัตร ATM จำนวน 1 ใบ
พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้รับเรื่องร้องทุกข์กรณีบริษัทพาวเวอร์ไทเทเนียม ร่วมกับ บริษัททรูมันนี่ จัดแคมเปญนำรหัสใต้ฝาเครื่องดื่มพาวเวอร์ไทเทเนียมวิตามิน มาแลกรับเงินสดผ่านระบบทรูมันนี่วอเลท โดย 1 รหัสใต้ฝา นำมาแลกเป็นเงินในระบบทรูมันนี่ได้ 10 บาท ต่อมา บริษัททรูมันนี่ ได้ทำการตรวจพบว่ามีการใช้งานระบบแม่ข่ายหรือเซิฟเวอร์ของบริษัทมากจนทำให้ระบบการประมวลผลทำงานได้ช้าลงอย่างมาก และไม่สามารถเข้าใช้งานตามปกติได้ เมื่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ทำการตรวจสอบโดยละเอียด จึงพบว่าในช่วงวันที่ 11-13 ธันวาคม 2565 มีคนร้ายโจมตีเข้าระบบข้อมูลมากกว่า 300,000 ครั้ง อย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้ระบบทำงานช้าลง นอกจากนี้คนร้ายยังสามารถ hack code รหัสแลกรางวัลมากกว่า 6,000 code เพื่อนำไปแลกเป็นเงินสด คิดเป็นเงินกว่า 60,000 บาท
บก.ปอท. ได้ทำการสืบสวนร่วมกับบริษัทผู้เสียหาย โดยการนำข้อมูลที่ได้จากผู้เสียหายเข้าสู่กระบวนการวิเคราะห์ และใช้ระบบ Big Data จนพบหลักฐานเชื่อมโยงการกระทำผิด และยืนยันตัวคนร้ายได้ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลอาญาขอหมายจับผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อมาวันนี้ (23 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายวัชนันท์ และนายสมประสงค์ ในย่านบางกะปิ จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมตรวจยึดพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบข้อมูลเชื่อมโยงไปยังกลุ่มผู้ต้องหารายอื่น ซึ่งจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายสมประสงค์ ให้การว่า ตนเรียนจบและมีความรู้ทางไอที จึงได้ทดลองแฮกเว็บไซต์กิจกรรมดังกล่าว โดยในครั้งแรกสามารถแฮกเข้าระบบได้ จึงได้ชักชวน นายวัชนันท์ เพื่อนสนิทมาร่วมกระทำความผิดในครั้งนี้ด้วย. -สำนักข่าวไทย