กรุงเทพฯ 21 มี.ค. – ตำรวจนครบาลร่วมแถลงผลการปฏิบัติการคดีสำคัญ 3 คดี โดย 2 คดีแรก จับเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติด ได้ของกลางยาบ้า รวมกว่า 1.2 ล้านเม็ด อีกคดีเป็นการทลายเครือข่ายชำแหละรถยนต์ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน มูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท
คดีแรกเป็นการจับกลุ่มเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดส่งพื้นที่ภาคกลาง จับกุมผู้ต้องหา 6 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 1,078,000 เม็ด รถยนต์ 3 คัน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 7 เครื่อง ภายในสถานีบริการน้ำมัน ถ.มิตรภาพ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
สืบเนื่องจากชุดสืบสวนสืบทราบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะไปรับยาเสพติดตามแนวชายแดน จ.นครพนม ก่อนจะใช้เส้นทาง จ.อุบลราชธานี ลงมาพื้นที่ภาคกลาง เพื่อนำมาส่งให้กับลูกค้า ซึ่งกลุ่มเครือข่ายนี้จะใช้รถเก๋งในการบรรทุกยาเสพติด และมีรถยนต์ จำนวน 2 คัน เป็นรถนำทาง เพื่อตรวจสอบเส้นทางในการเลี่ยงด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้รอดพ้นจากการตรวจค้นจับกุม จึงได้ทำการเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว กระทั่งพบรถต้องสงสัยขับมาบริเวณดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น พบยาบ้า จำนวน 1,078,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในท้ายรถ ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีดำ จึงได้ทำการตรวจยึด และแจ้งข้อหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า
คดีที่ 2 จับกุมนายสุริยา หรือ ยา อายุ 41 ปี, นายพรพรหม หรือ ปอนด์ อายุ 27 ปี และนายพิชัย หรือ เด้ง อายุ 27 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 130,000 เม็ด อาวุธปืน จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 10 นัด รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง โดยจับกุมได้ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ต่อเนื่อง บริเวณริมถนนรังสิต-นครนายก (คลองสอง) ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังสืบทราบว่าจะมีการซื้อขายส่งมอบยาเสพติด โดยใช้ห้างสรรพสินค้าดังกล่าวเป็นสถานที่ในการส่งมอบ จึงได้นำกำลังไปสังเกตการณ์ กระทั่งพบผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย อยู่ที่ห้างดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น จากการตรวจค้นพบของกลางดังกล่าว จึงได้ทำการตรวจยึด สอบสวนให้การรับสารภาพว่า ได้รับค่าจ้างในการจำหน่ายยาเสพติดครั้งนี้ประมาณ 100,000 บาท และจะนำค่าจ้างมาแบ่งกัน ซึ่งทั้งสามเป็นกลุ่มเครือข่าย “อาร์ทต่ำเอี่ยว” เอเย่นต์รายใหญ่ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่าทั้ง 3 ราย เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย
คดีที่ 3 เป็นการทลายเครือข่ายชำแหละรถยนต์ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีขบวนการโจรกรรมชำแหละรถยนต์ขายให้กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้อู่ซ่อมรถยนต์ไม่มีเลขที่ ถ.พุทธมณฑล ซ.20 แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร เป็นสถานที่ชำแหละ โดยกลุ่มคนร้ายมีพฤติกรรมกว้านหาซื้อรถยนต์หลุดจำนำ หรือรถยนต์หนีไฟแนนซ์ หรือหลอกลวงผู้ครอบครองรถยนต์ว่าจะเช่ารถยนต์ แต่แท้จริงแล้วตั้งใจเพื่อให้ได้รถยนต์มาในราคาถูก โดยใช้กลอุบายหลอกทำสัญญาเช่าระยะยาว ทำให้ยากต่อการตรวจสอบของผู้ให้เช่า ซึ่งกว่าผู้ให้เช่าจะทราบว่ารถยนต์ถูกนำมาถอดแยกชิ้นส่วน โดยนำเครื่องยนต์ โครงรถยนต์ไปขายให้ลูกค้า ตามที่ลูกค้าต้องการ และนำโครงคัทซีไปขายให้ร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่ใกล้เคียง โดยเริ่มเฝ้าติดตามพฤติกรรมเป็นเวลากว่า 1 เดือน พบรถยนต์ถูกนำมาถอดแยกชิ้นส่วนขายแล้วไม่ต่ำกว่า 7 คัน มูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งมีผู้เสียหายแจ้งความไว้หลายท้องที่ กระทั่งต่อมาชุดสืบสวนได้ติดตามจนพบรถยนต์ที่มีการแจ้งหายไว้ในท้องที่ สภ.บางเสาธง จอดเติมน้ำมันภายในปั๊มน้ำมัน ริมถนนเอเชีย 32 ต.หันสัง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้เชิญตัวนายเอก ซึ่งเป็นคนขับ มาทำการสอบสวน ก่อนนำกำลังไปตรวจค้นที่อู่ดังกล่าว พบของกลางโครงรถกระบะ และโครงรถยนต์หลายรายการ จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบเลขตัวถัง และประสานผู้เสียหาย เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป. -สำนักข่าวไทย