กรุงเทพฯ 20 มี.ค. – สน.ทองหล่อ คุม 3 ผู้ต้องหาชาวจีนขออำนาจศาลอาญาฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว หลังร่วมกันก่อเหตุบุกอุ้มสาวชาติเดียวกัน ย่านเอกมัยเพื่อรีดทรัพย์ เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 15.20 น. พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ควบคุมตัวผู้ต้องหา ชาวจีน รวม 3 คน เป็นชาย 2 และหญิง 1 ไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ ฝากขังผัดแรกในคดี ร่วมกันก่อเหตุบุกอุ้มผู้เสียหาย ชาวจีนซึ่งเป็น นศ.ปริญญาโท อายุ 32 ปี จากย่านเอกมัย ไปรีดทรัพย์ ก่อนปล่อยตัวที่ย่านมีนบุรี หลังได้เงินโอนสกุลดิจิทัล คิดเป็นเงินไทย ประมาณ 3.3 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา โดยท้ายคำร้องขอคัดค้านการประกัน เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ก่อเหตุไม่เกรงกลัวกฎหมาย หากให้ประกันอาจหลบหนีได้
ด้าน พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่าเบื้องต้นได้สอบปากคำผู้ต้องหาได้เพียง 1 คนเท่านั้น ยังเหลือสอบปากคำผู้ต้องหาอีก 2 คน เพราะติดขัดปัญหาเรื่องล่าม ทำให้การสื่อสารยากลำบาก และผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ไม่ให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวน แต่กลุ่มผู้ต้องหายอมรับ ว่า รู้จักกันและมีความสนใจเรื่องเงินดิจิทัลเท่านั้น พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้ให้ผู้เสียหายโอนเงินให้ แต่ตำรวจมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและคำให้การที่ผู้เสียหายมาชี้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ชัดเจน ส่วนการเข้าตรวจค้นที่พักย่านสุขุมวิท 39 ของ 1 ในผู้ต้องหาวานนี้พบเอกสารที่สามารถพิสูจน์ตัวบุคคลได้ และอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เงิน รวม 9 รายการ แต่เปิดเผยรายละเอียดไม่ได้
ทั้งนี้ จากการสืบสวน เบื้องต้นพบว่าหญิงผู้ต้องหาที่เป็นนกต่อรู้จักกับผู้เสียหายได้ประมาณ 1 ปี โดยเจอกันที่สนามบินและเข้ามาตีสนิท พยายามชักชวนให้มากินข้าวด้วยกันหลายครั้ง จนล่าสุดสบโอกาสจึงก่อเหตุอุ้มรีดทรัพย์ โดยให้โอนทรัพย์เป็นคริปโตเพราะยากต่อการตรวจสอบและยึดคืน แต่ตำรวจมีหลักฐานการโอนเงินหยวนและเส้นทางการเงินชัดเจนที่สามารถใช้เป็นหลักฐานเอาผิดผู้ต้องหาได้ อีกทั้งเชื่อว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการเตรียมการมานานเพราะรู้ว่าผู้เสียหายมีทรัพย์สินจำนวนมาก ถึงแม้จะแต่งตัวปกติ ไม่ได้แสดงออกว่ามีทรัพย์สินมากมาย และจากการประสานกับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเพื่อตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เบื้องต้นไม่พบประวัติการกระทำความผิด ส่วนอยู่ระหว่างการขยายผลหาผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม
“การที่ผู้ต้องหาอ้างว่าถูกหลอกมาจากขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศจีน เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะกล่าวอ้างได้ แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบเบาะแสว่าเชื่อมโยงกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ส่วนกระแสไวรัลในประเทศจีนที่มีการรณรงค์ไม่ให้คนจีนมาเที่ยวในประเทศไทย เพราะมีการอุ้มเรียกค่าไถ่ นั้น ผกก.สน.ทองหล่อ มองว่าอยากให้รับฟังข่าวสารจากรัฐบาลหรือหน่วยงานรัฐในประเทศนั้น ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง. -สำนักข่าวไทย