ตำรวจไซเบอร์พร้อมปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.ก.ป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ

20 มี.ค. – ตำรวจไซเบอร์พร้อมปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ขอประชาสัมพันธ์ชี้แจงกรณีตำรวจไซเบอร์พร้อมปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ดังนี้

ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้มีการประกาศเผยแพร่ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ซึ่งกำหนดให้มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 17 มี.ค.66 ที่ผ่านมานั้น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์อาชญากรรมทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน เพื่อคุ้มครองประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินผ่านการหลอกลวงด้วยวิธีการต่างๆ และเพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรมดังกล่าวให้ลดน้อยลง หรือหมดสิ้นไปโดยเร็ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์พร้อมปฏิบัติหน้าที่ เพื่ออำนวยความสะดวกและความยุติธรรมให้กับประชาชน


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญและมีความห่วงใยต่อภัยอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบรับจ้างการเปิดบัญชีธนาคาร และปัญหาการครอบครองหมายเลขโทรศัพท์ โดยได้ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมกันวางมาตรการในการป้องกันปราบปราม คุ้มครองประชาชนจากมิจฉาชีพโดยเร็ว

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการตาม พ.ร.ก.ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด รวมถึงประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมประเภทดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และยับยั้งความเสียหายได้ทันท่วงที รวมถึงสร้างการรับรู้ให้กับภาคประชาชน เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของอาชญากรไซเบอร์

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเร่งรัดปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคาร และใช้หมายเลขโทรศัพท์ รวมถึงเป็นธุระจัดหา หรือโฆษณา มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป รวมถึงกำชับให้พนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์ และดำเนินการตามกฎหมาย ภายใต้กรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด


ทั้งนี้ พ.ร.ก. ดังกล่าว มีประเด็นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องปฏิบัติ และประเด็นที่ประชานควรรับทราบ ดังต่อไปนี้

1.เมื่อประชาชนถูกหลอกลวง หรือสงสัยว่าตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ (มาตรา 7, 8) ให้รีบดำเนินการแจ้งธนาคาร หรือสถาบันการเงินผ่านหมายเลขศูนย์รับแจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพทันที เพื่อเป็นการยับยั้งการทำธุรกรรมการเงินที่ต้องสงสัย หรือที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดชั่วคราว จากนั้นให้เร่งดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ณ สถานีตำรวจได้ทุกท้องที่ทั่วประเทศ หรือพนักงานสอบสวน บช.สอท. ไม่ว่าความผิดนั้นจะเกิดที่ใดในราชอาณาจักรก็ตาม หรือแจ้งผ่านระบบการรับแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.com ภายในระยะเวลา 72 ชม. เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินการส่งหมายอายัดเงินในบัญชีให้กับสถาบันการเงิน หรือผู้ประกอบธุรกิจ ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับคำร้องทุกข์ โดยให้ถือว่าการร้องทุกข์ดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายแล้ว

2.กำหนดให้มีระบบการเปิดเผยและแลกเปลี่ยนข้อมูล (มาตรา 4, 5) ระหว่างสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจ (กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์) และระหว่างผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม หรือผู้ให้บริการอื่น โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มีอำนาจนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ได้ ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาการรับจ้างเปิดบัญชีเงินฝาก การครอบครองหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ไม่สามารถระบุผู้ใช้บริการได้ ป้องกันมิจฉาชีพเข้าถึงประชาชนในช่องทางต่างๆ และช่วยเหลือ ยับยั้ง ติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

3.บทกำหนดความผิดและกำหนดโทษ (มาตรา 9, 10, 11) ผู้ใดเปิด หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว เพื่อให้มีการซื้อขายบัญชีเงินฝาก มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี-5 ปี ปรับตั้งแต่ 200,000-500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดเป็นธุระ จัดหา โฆษณา หรือไขข่าว เพื่อให้มีการซื้อขายหมายเลขโทรศัพท์ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี-5 ปี ปรับตั้งแต่ 200,000-500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

4.การเปิดเผยแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคล ตาม พ.ร.ก.นี้ ไม่อยู่ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล แต่จะเปิดเผยให้ผู้อื่นซึ่งไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องไม่ได้ (มาตรา 12)

5.พระราชกำหนดนี้บังคับใช้ในวาระแรกเริ่ม 5 ปี โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการเพื่อกำหนดแนวทางการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมทั้งให้คำแนะนำ และคำปรึกษาเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ (มาตรา 13)

โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฉบับนี้ ถือเป็นกฎหมายที่สำคัญ ที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันผลักดัน และวางมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาที่สำคัญของการหลอกลวงออนไลน์ของอาชญากรไซเบอร์ ซึ่งมีทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงาน การยับยั้งการทำธุรกรรมการเงิน และมีบทลงโทษสำหรับผู้กระทำความผิด หรือเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลให้ปัญหาภัยจากอาชญากรรมออนไลน์ลดลงอย่างต่อเนื่อง และมีนัยยะที่สำคัญ. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟล้ม 24 ต้น ทำไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้าพัง

เชียงใหม่ 8 ก.ย.-วินาศสันตะโร กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟฟ้าล้ม 24 ต้น บนถนนหนองฮ่อ อ.เมืองเชียงใหม่ ทำให้ไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้ากว่า 10 หลัง พังเสียหาย ส่วนรถเสียหายนับสิบคัน ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง อุบัติเหตุเกิดขึ้นช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังรถกระบะบรรทุกน้ำดื่มเอกชนพุ่งชนเสาไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ก่อนถึง สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ประมาณ 300 เมตร โดยรถกระบะได้พุ่งชนเสาไฟฟ้าจนหักโค่นลงมา ก่อนที่รถจะเกี่ยวเข้ากับสายไฟลากไปอีกหลายสิบเมตร ทำให้สายไฟถูกดึงจนทำให้เสาไฟฟ้าโค่นล้มต่อๆ กันลงมาขวางถนนรวมแล้วกว่า 24 ต้น เสาไฟกิ่งเสียหาย 25 ต้น ทับบ้านเรือนประชาชนและร้านค้าพังเสียหายกว่า 10 หลัง และยังมีรถยนต์ที่จอดไว้ในบ้าน ริมถนน และที่ขับผ่านมา ถูกทับเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 10 คัน นอกจากนี้สายไฟฟ้าที่ถูกดึงจนขาดยังทำให้เกิดเพลิงไหม้ร้านอาหารบริเวณดังกล่าวจนวอดเสียหายเกือบทั้งหมด อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างและสร้างความแตกตื่นตกใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ขณะที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะสีขาว เป็นรถขนส่งน้ำดื่มอยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับ ถังน้ำดื่มตกเกลื่อน พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 คน เป็นพนักงานขับรถและคนงานที่นั่งมาด้วย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำออกมาจากรถนำส่งโรงพยาบาล โดยพนักงานที่นั่งมาด้วยบาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่ต้องปั๊มหัวใจก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาล […]

ราชทัณฑ์ ย้าย “ทักษิณ” เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม

คลองเปรม 9 ก.ย.- ราชทัณฑ์ ย้าย “ทักษิณ” จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม ขณะอยู่ในรถคุมขัง “ทักษิณ” ยิ้มเล็กน้อย พร้อมชูนิ้วโป้งขวาให้นักข่าวที่ตะโกนถาม ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งบังคับโทษ นายทักษิณ ชินวัตร 1 ปี และส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ล่าสุด เมื่อเวลา 17.10 น. ที่ผ่านมา ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีขบวนรถตู้เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร สีขาว จำนวน 3 คัน คันแรก ทะเบียน 1 นฉ 1576 กรุงเทพมหานคร คันที่สอง ทะเบียน 1 นง 7412 กรุงเทพมหานคร และคันที่สาม ทะเบียน 1 นฉ 1977 โดยทั้งหมดได้เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังเรือนจำกลางคลองเปรม โดยรถตู้คันที่สอง ทะเบียน 1 นง 7412 กรุงเทพมหานคร เป็นรถตู้คันที่นายทักษิณ […]

“พล.อ.ณัฐพล” เข้าพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน” พาโชว์ตัวนั่ง รมว.กลาโหม

พรรคภูมิใจไทย 9 ก.ย.- “พล.อ.ณัฐพล” มาตามนัด เข้าพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน” พาโชว์ตัวนั่ง รมว.กลาโหม ประกาศให้อำนาจเต็ม ก่อนบินประชุม GBC พรุ่งนี้ ให้กัมพูชารู้ว่าเป็น “เจ้ากระทรวงปืนใหญ่” ด้าน “บิ๊กเล็ก” มั่นใจแก้ปัญหาชายแดนเร็วที่สุด ปัดตอบอึดอัด ทำหน้าที่ด้านการทหารกับรัฐบาลที่แล้ว พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าพรรคภูมิใจไทย ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เพื่อพบกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงกรอบแนวทางการทำงาน โดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังที่ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวปรากฎชื่อในโผอนุทิน 1 นั่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” ในสัดส่วนคนนอก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยหลังจากการหารือร่วมกัน นายอนุทิน ได้พา พล.อ.ณัฐพล มาโชว์ตัว และให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอย่างเป็นทาง ถึงการรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน กล่าวว่า นี่เป็นสิ่งที่ตนปฏิบัติมาโดยตลอดช่วง 2-3 วันนี้ เมื่อตนได้เชิญผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่เป็นบุคคลภายนอก จะนำมาแนะนำให้กับประชาชนได้รับทราบ ตนได้ใช้เวลาในการหารือ ในที่สุดขอเชิญรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลชุด นส.แพทองธาร […]

“อนุทิน” ส่งรายชื่อ ครม. ตรวจประวัติครบแล้ว

พรรคภูมิใจไทย 9 ก.ย.-“อนุทิน” ส่งรายชื่อ ครม. ตรวจประวัติครบแล้ว ลั่นส่งเกินด้วย ย้ำใครไม่ผ่านก็แต่งตั้งไม่ได้ พร้อมแจงเหตุผลเลือก “บวรศักดิ์” นั่งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย เตรียมยกร่าง รธน. ไม่กดดัน มีเวลาทำงาน 4 เดือน บอกถนัดอยู่แล้ว แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง เผยคุย “บิ๊กเล็ก” วันนี้ เตรียมข้อมูลประชุมจีบีซี พรุ่งนี้ พร้อมทลายหลายข้อจำกัด ย้ำจุดยืนแก้ปัญหาชายแดนทุกมิติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้ส่งรายชื่อ บุคคลที่จะเสนอเป็นรัฐมนตรีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณสมบัติทุกครบทุกคนแล้ว โดยยังไม่ได้ระบุตำแหน่ง ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ส่งไปแล้ว พร้อมหัวเราะ และบอกว่า “ส่งเกินด้วย” ซึ่งคุณสมบัติ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ต้อง เป็นคนยุติธรรม พร้อมยอมรับว่าได้ทาบทามพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ และได้เชิญมาพูดคุยที่พรรคภูมิใจไทย ว่าท่านมีแนวทางดำเนินการอย่างไร เพราะวันพรุ่งนี้จะต้องเดินทางไปประชุม จีบีซี ที่กาะกง ส่วนเหตุผลที่เลือกพลเอกณัฐพล นายอนุทินกล่าวว่าเพราะต้องการให้งานของกระทรวงกลาโหม สืบเนื่องต่อไป ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าไม่เปลี่ยนม้ากลางศึกใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่ามีคำพังเพยอยู่ เรามองเรื่องประเทศชาติเป็นสำคัญ แต่เราอาจจะมีแนวทางใหม่ให้ท่าน […]