“บิ๊กโจ๊ก” ร่วมประชุมกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง-ออสเตรเลียฯ

16 มี.ค. – “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” ร่วมประชุมกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง-ออสเตรเลียด้านการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ


วันนี้ (15 มี.ค.66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศพดส.ตร. เดินทางไปยังกรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป ลาว) เพื่อร่วมการประชุมกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง-ออสเตรเลียด้านการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ (Mekong-Australia Partnership on Transnational Crime : MAP-TNC) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 มี.ค. 66 ณ โรงแรมคราวน์พลาซ่า กรุงเวียงจันทน์ สปป ลาว โดยมีผู้แทนจากกลุ่มประเทศในเขตลุ่มแม่น้ำโขง อาทิ ไทย ลาว กัมพูชา และเมียนมา รวมทั้งประเทศคู่เจรจา ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา โดยมีจุดประสงค์เพื่อแสวงหาความร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติในทุกรูปแบบ

ในการประชุม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้นำเสนอเกี่ยวกับการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทยให้กับทางการสหรัฐอเมริกาทราบ เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการนำเสนอผลการปฏิบัติทั้งในคดีค้ามนุษย์และคดีการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าหลายปีที่ผ่านมารวมกัน โดยปีนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการเยียวยาผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยเชิญผู้ที่เคยเป็นผู้เสียหายเข้ามาร่วมในคณะกรรมการชุดดังกล่าว เพื่อให้ตัวผู้เสียหายมีส่วนร่วมในการนำประสบการณ์มาใช้พัฒนากระบวนการให้บริการผู้เสียหายให้ดียิ่งขึ้น โดยใช้แนวคิดผู้เสียหายเป็นศูนย์กลางในการดำเนินการ


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังได้นำเสนอเกี่ยวกับการทำงานร่วมกับ NGOs อย่างใกล้ชิด และมีการซักซ้อมการปฏิบัติตามกระบวนการ NRM โดยมีการเริ่มใช้ใน จ.สตูล ในการคัดแยกผู้เสียหายจากการโยกย้ายถิ่นฐานของบุคคลต่างด้าว ซึ่งประเทศไทยไม่มีการกักตัวผู้เสียหายที่เป็นเด็กในห้องกักอีกต่อไป อีกทั้งได้ขยายการใช้กระบวนการ NRM ให้ครบทุกภูมิภาคของประเทศไทย

นอกจากนี้ในยุคปัจจุบันสถานการณ์ค้ามนุษย์จำเป็นจะต้องมองในระดับภูมิภาค เพื่อให้การขับเคลื่อนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หากประเทศใดไม่ให้ความร่วมมืออย่างจริงจังจะต้องมีการกดดันในระดับภูมิภาค นอกจากนี้อาชญากรรมหลายประเภทสามารถนำไปสู่การค้ามนุษย์ได้ และมีความเชื่อมโยงกันทั้งหมด จึงต้องพัฒนาแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการประสานงานร่วมกับหน่วยงานต่างชาติ มีการขอความร่วมมือจาก NGO ในการผลักดันการแก้ไขปัญหา รวมทั้งประสานข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาในการช่วยเหลือคนไทยที่ตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ในประเทศกัมพูชา และพื้นที่คิงส์โรมัน สปป ลาว ซึ่งเกิดปัญหาในการประสานงาน และการเข้าช่วยเหลือเป็นอย่างมาก ทำให้ยังคงต้องแสวงหาความร่วมมือมากขึ้น โดยได้มีการพูดคุยกับทั้งอเมริกาและจีนเพื่อทราบปัญหาดังกล่าวและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกันแล้ว


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การเดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะได้แสวงหาความร่วมมือจากกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ในการประสานงานกันเพื่อปราบปรามการค้ามนุษย์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์จำเป็นต้องร่วมมือกันแก้ไขในระดับภูมิภาค เพราะอาชญากรรมปัจจุบันไร้พรมแดนและมีความเกี่ยวเนื่องทับซ้อนกัน

นอกจากนี้ยังมีความต้องการจะทำ MOU กับหน่วยงาน ACCCE จากประเทศออสเตรเลีย เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลเหมือนกับ NCMEC เกี่ยวกับข้อมูลการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต เพื่อประสานความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมประเภทดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีการจับกุมมากขึ้น โดยมีการกู้ไฟล์ภาพมาเพื่อพิสูจน์ทราบผู้เสียหาย และขยายผลดำเนินคดีค้ามนุษย์ แต่ประเทศไทยยังต้องการการสนับสนุนทางเทคโนโลยี เช่น อุปกรณ์การเก็บกู้ไฟล์จากโทรศัพท์มือถือ หรือเซลเลไบรท์ เป็นต้น และการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานให้มีความรู้ความเข้าใจและความเชี่ยวชาญในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

ทั้งนี้ หากประเทศไทยยังสามารถพัฒนาแนวทางการแก้ไขปัญหาในทิศทางดังกล่าว เชื่อว่าจะสามารถขยับอันดับขึ้นเทียร์ 1 ได้สำเร็จต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ