กรุงเทพฯ 16 มี.ค. – “สมศักดิ์” ทิ้งทวนเปิดงานเสวนากระท่อม ปิดท้ายในนาม รมว.ยุติธรรม ก่อนแถลงย้ายพรรคพรุ่งนี้ ฝาก ป.ป.ส.-ผู้ประกอบการบุกเบิกตลาดผลิตภัณฑ์ให้ได้ เพื่อประโยชน์เศรษฐกิจของประเทศและประชาชน เชื่อหลังเลือกตั้งจะสำเร็จ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นประธานเปิดงานโครงการสร้างการรับรู้แก่ผู้ประกอบการ “กระท่อมพืชเศรษฐกิจไทยแห่งอนาคต” โดยระบุว่าเป็นความภาคภูมิใจของตนและ ป.ป.ส.ที่ได้ทำให้พืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ หลังจากเป็นยาเสพติดมานานถึง 78 ปี ต้องขอขอบคุณผู้ประกอบการ สถาบันการศึกษาที่เข้ามาช่วยต่อยอด เพื่อทำให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ และที่สำคัญต้องขอบคุณ ป.ป.ส. เพราะตอนที่เข้ามาเป็น รมว.ยุติธรรม ไม่มีความรู้เกี่ยวกับพืชกระท่อมเลย แต่ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ก็ได้นำข้อมูลมาเล่าและชี้แจงให้ฟัง รวมถึงเรื่องการจัดทำประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่ด้วย ต้องถือว่า ป.ป.ส.เป็นหน่วยงานที่ดีของประเทศไทย เพราะทำงานเอาจริงเอาจังและให้ความร่วมมือกับภาคการเมือง จนงานทุกอย่างออกมาราบรื่น และเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า วันนี้การที่จะสร้างผลิตภัณฑ์จากพืชกระท่อมติดปัญหา อย.ยังไม่อนุญาต ซึ่งเข้าใจกระบวนการของราชการ ได้เร่งทำการวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยหลายแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อทำการหาค่ามาตรฐานกลาง และวิจัยถึงความปลอดภัยในการทำผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น อาหาร เครื่องสำอางค์และยา โดยที่ผ่านมาไปศึกษาดูงานในโรงงานหลายแห่งที่ทดลองทำผลิตภัณฑ์ ถือว่ามีผลที่ออกมาดีมาก ถ้าทำผลิตภัณฑ์ออกไปต้องมีมาตรฐานสินค้าตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดและเป็นไปตามมาตรฐานกลาง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในระบบการค้ากับต่างประเทศด้วย ซึ่งตนและ ป.ป.ส.ติดตามงาน ทำให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
“วันนี้ ป.ป.ส.ได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการ มีการทดลองร่วมกับมหาวิทยาลัย แม้ค่ามาตรฐานกลางจะเสร็จไม่ทันในช่วงที่เป็นรัฐมนตรี แต่ก็มีวันเวลาที่จะจบได้ อย่างน้อยหลังเลือกตั้งคงจะจบแล้ว ขอให้ทุกท่านอดใจรออีกนิด อย่าบ่นอย่าว่ากันเลย พวกเราตั้งใจทำให้จริง ๆ และพยายามเร่งรัดเต็มที่ นอกจากพืชกระท่อมแล้ว ยังมีการศึกษาเห็ดขี้ควายที่มีสรรพคุณทางยา เชื่อว่า รมว.ยุติธรรม คนต่อไปจะทำต่อ คงจะเป็นงานสุดท้ายในนาม รมว.ยุติธรรม จากนี้ขอให้ทุกท่านทำให้สำเร็จ บุกเบิกตลาดผลิตภัณฑ์ให้ได้ เพื่อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศและประชาชน” นายสมศักดิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย