กรุงเทพฯ 16 มี.ค. – ตำรวจ บก.น.8 จับผู้ต้องหาลักทรัพย์ร้านสะดวกซื้อต่อเนื่อง 6 สาขา ช่วงเช้ามืด ภายใน 90 นาที พบใช้เพียงกรรไกรข่มขู่ สาขาละ 10 นาที ได้เงิน 3,500 บาท อ้างจะไปซื้อนมให้ลูก-สารภาพดื่มน้ำกระท่อม เสพกัญชาก่อนก่อเหตุ
ตำรวจสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ควบคุมตัวนายทวี หรือเพชร อายุ 22 ปี มาสอบสวนหลังจากพบว่าเป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ร้านสะดวกซื้อย่านธนบุรี จำนวน 6 ร้าน ภายใน 1 ชั่วโมง 30 นาที ช่วงเช้ามืดวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ สว่างงาม รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 เปิดเผยว่า ตำรวจได้รับแจ้งจากพนักงานภายในร้านสะดวกซื้อว่ามีชายอายุประมาณ 20 ปี ใส่เสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงขายาว สวมหมวกกันน็อก ขี่จักรยานยนต์สีแดง มาที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งย่านประชาอุทิศ 113 เวลาประมาณ 04.00 น. โดยเข้ามาเลือกซื้อสินค้าภายในร้าน ระหว่างรอจ่ายเงินบอกพนักงานขอเงิน 500-1,000 บาท แต่พนักงานไม่ให้ จึงออกจากร้านขับรถหลบหนีไป
ต่อมาได้รับแจ้งจากร้านสะดวกซื้ออีกแห่งที่อยู่ใกล้เคียง คือ ซอยประชาอุทิศ 58/2 โดยกระทำการในลักษณะเดิม แต่ก็ไม่ได้เงินอีก จากนั้นขับรถไปที่ร้านสะดวกซื้อ ซอยประชาอุทิศ 27 แต่ครั้งนี้ได้ใช้กรรไกรข่มขู่พนักงานที่เคาน์เตอร์ จึงให้เงินส่วนตัวไป 300 บาท ผู้ก่อเหตุจึงหลบหนีออกไปจากร้าน จากนั้นขี่รถจักรยานยนต์ไปก่อเหตุที่ร้านสะดวกซื้อซอยสุขสวัสดิ์ 40 เป็นจุดที่ 4 โดยใช้กรรไกรข่มขู่พนักงานเช่นกัน บังคับให้เอาเงินให้ลิ้นชักมาให้ 1,000 บาท
จากนั้นไปก่อเหตุที่ร้านสะดวกซื้อสาขาบางปะแก้ว เป็นจุดที่ 5 โดยใช้กรรไกรก่อเหตุเช่นกัน ได้เงินไป 1,000 บาท จนกระทั่งไปร้านสะดวกซื้อปากซอยตากสิน 34 จุดที่ 6 ในพื้นที่ สน.บุคคโล ได้เงินไป 1,200 บาท รวมทั้ง 6 จุด ผู้ก่อเหตุได้เงินไปรวม 3,500 บาท
ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีกลับไปในบ้านพักย่านถนนเจริญกรุง 103 พื้นที่ สน.วัดพระยาไกร ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทาง โดยผู้ต้องหารับสารภาพตกงานมากว่า 2 เดือน ไม่มีเงิน อีกทั้งเอาเงินที่ได้ไปซื้อนมให้ลูกกิน ก่อนก่อเหตุยอมรับดื่มน้ำกระท่อมและเสพกัญชา
คดีนี้ตำรวจสืบสวนนครบาล 8 ต้องร่วมสืบสวนหาตัวผู้ต้องหากับฝ่ายสืบสวนอีก 5 สถานีตำรวจ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุที่ผู้ต้องหาใช้เวลาในการก่อเหตุสาขาละเพียง 10 นาที โดยผู้ต้องหาใช้เวลาก่อเหตุในช่วงเช้ามืด ตั้งแต่เวลา 04.00-05.30 น. ไม่มีลูกค้ามาใช้บริการ มีเพียงพนักงานภายในร้าน จับกุมได้เวลาประมาณ 12.00 น. หรือภายใน 6 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ และได้เงินของกลางของผู้เสียหายคืนครบทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย
