“อัจฉริยะ” ยื่น อสส.ขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน คดี ส.ว.คนดัง

กรุงเทพฯ 15 มี.ค. – ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมยื่นอัยการสูงสุด ขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แทนผู้บังคับการปราบปรามยาเสพติด คดี ส.ว.คนดัง อ้างเพื่อความเหมาะสม


นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นเรื่องร้องต่ออัยการสูงสุดในคดีที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.คนดัง โดยมีนายโกศลวัฒน์ อินทุจรรยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียน

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า การยื่นเรื่องวันนี้ต้องการให้เปลี่ยนผู้รับผิดชอบคดีจากเดิมผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 หัวหน้าพนักงานสอบสวนชุดทำคดีนี้ ให้คดีมาอยู่ในความดูแลของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เนื่องจาก ผบก.ปส 3. มาจากตำรวจชุดควบคุมฝูงชนไม่เคยทำคดียาเสพติดสำคัญ จึงไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ทำให้ผ่านมาเกือบ 2 เดือน คดียังไม่มีความคืบหน้า ผ่านมามีนายตำรวจยศสูงเข้ามาแทรกแซงคดีตลอด หาก ผบ.ตร.เข้ามาทำคดีนี้แทนจะไม่มีนายตำรวจคนไหนเข้ามาแทรกแซงคดีได้


นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า เรื่องหลักฐานการฟอกเงินของขบวนการยาเสพติดผ่านการซื้อไฟฟ้าที่ จ.เชียงราย  ก่อนหน้านี้ทางตำรวจบอกว่ามีเอกสารนับพันแผ่นที่ต้องแปลภาษา ทำให้กระบวนการล่าช้า ซึ่งตนมองว่าเป็นข้ออ้างในการประวิงเวลาให้คดีล่าช้า ถ้ามีเอกสารจริงตัวเองยินดีรับไปจ้างแปลให้

รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า จะนำเสนอคำร้องถึงอัยการสูงสุดบ่ายนี้ให้พิจารณาสั่งการต่อไป ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นทุกเรื่องที่ร้องเรียนต้องมีคำตอบและได้รับความเป็นธรรม นอกจากนี้ ยังมีการชี้แจงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพถอนหมายจับ ส.ว.คนดัง วันที่ 28 ก.พ. เป็นเรื่องการสืบสวนยังไม่ถึงขั้นสอบสวน อีกทั้งระหว่างนั้นยังเสนอเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ที่ อสส.มีส่วนช่วยแนะนำคดี จึงถือเป็นการทำงานของทางตำรวจกับศาล เมื่อคดีมาถึงอัยการสูงสุด และเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ทางอัยการสูงสุดได้สั่งการให้ตำรวจ ปส.3 เร่งดำเนินการ ซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้นสั่งการให้สอบประเด็นสำคัญเพิ่มเติม 4 ประเด็น สำหรับคดีนี้ทางอัยการสูงสุดได้รับสำนวนเป็นคดีนอกราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ซึ่งขณะนี้ผ่านมาเดือนกว่า ถือว่าคดีไม่ได้ล่าช้า.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทีมกู้ภัยเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายแผ่นดินไหวเมียนมา

ทีมกู้ภัยยังเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายจากเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา แม้จะผ่านมา 4 วันแล้ว จนกลิ่นศพเริ่มคละคลุ้งไปทั่ว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตใกล้แตะหลัก 3,000 ราย

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

ตึกถล่ม

ปูพรมค้นหาทุกจุด ตึก สตง.ถล่ม

ปฏิบัติการปูพรมทุกจุด ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม ได้กลิ่นค่อนข้างแรง พบลักษณะคล้ายน้ำเหลืองและคราบเลือดในโซน B แต่ก็ยังไม่สามารถทลายปูนและตัดเหล็กเข้าไปได้

ไทยตอนบนอากาศร้อนและร้อนจัดบางพื้น มีฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอากาศร้อน และร้อนจัดบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือและภาคกลาง ฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนอง

“อนุทิน” เผยยังไม่สรุปสาเหตุตึก สตง.ถล่ม ต้องรอตรวจสอบเชิงลึก

“อนุทิน” ระบุยังไม่สรุปสาเหตุตึก สตง. ถล่ม บอกต้องรอตรวจสอบเชิงลึก ชี้สภาพหน้างานตอนนี้ยังเก็บหลักฐานไม่ได้ อยู่ระหว่างกู้ภัย คาดใช้เวลาอีกเป็นเดือน

คุมตัวผัวเมียชิงทอง 8 บาท ย่านบางพลี ทำแผนฯ

ตำรวจคุมตัวสามีภรรยา ชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังร่วมกันก่อเหตุชิงทอง 8 บาท ร้านทองย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ อ้างต้องการเงินไปเป็นเจ้าภาพงานบุญผ้าป่า หลังสัญญากับทางวัดไว้