แจ้งความอดีตผู้การนราธิวาสและพวก เอี่ยวแก๊งยา-ค้าอาวุธปืน

กรุงเทพฯ 15 มี.ค. – คณะพนักงานสืบสวนคดีตำรวจและฝ่ายปกครองพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เรียกรับสินบนขบวนการค้ายาเสพติดและอาวุธสงคราม มีมติแจ้งความเอาผิดอดีตผู้การจังหวัดนราธิวาสและพวก พร้อมเสนอลงโทษทางวินัยตำรวจอีกกว่า 10 นาย


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงดำเนินคดีเด็ดขาดผู้การนราธิวาส-ผกก.ตากใบ และร้อยเวร กรณีเรียกรับเงินช่วยเหลือผู้ต้องหาคดียาเสพติด และอาวุธสงคราม สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2565 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ยื่นหนังสือพร้อมเอกสารหลักฐานถึง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ขอให้ตรวจสอบกรณีข้าราชการตำรวจในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส มีส่วนเกี่ยวข้องในการเรียกรับสินบนแลกกับการให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหาคดียาเสพติด และอาวุธปืนสงครามเพื่อให้ไม่ถูกดำเนินคดี มีการออกบัตรแหล่งข่าว หรือบัตรเบ่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ขบวนการยาเสพติด รวมทั้งคดีลอบฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ สภ.สุไหงโก-ลก รวมถึงข้าราชการฝ่ายปกครองที่ให้ความช่วยเหลือในการออกใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนให้กับขบวนการค้ายาเสพติด เบื้องต้นพบว่ามีมูลความจริงเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องและช่วยเหลือผู้ต้องหาตามพยานหลักฐานที่ได้รับจากนายอัจฉริยะ

ต่อมา ผบ.ตร.มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานในการสืบสวนดังกล่าว โดยมี พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนจากพยานหลักฐานที่ได้รับจากนายอัจฉริยะ ตั้งข้อสังเกตและประกอบพยานหลักฐาน 4 ประเด็น ประเด็นที่ 1 กรณีคดีลอบสังหาร ส.ต.ต.ธนกฤต ฤกษ์ดี เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2565 ขณะปฏิบัติหน้าที่สายตรวจ ต่อมามีการจับกุมนายฮาฟิต อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่าได้รับการจ้างวานจากนายชญานนท์ อายุ 25 ปี แต่ พล.ต.ต.แวสาแม กลับให้การช่วยเหลือจนนายชญานนท์ ไม่ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย


ประเด็นที่ 2 กรณีนายอำเภอสุไหงโก-ลก ให้มีการออกใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนให้กับกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งมีประวัติเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด โดยไม่มีการตรวจสอบประวัติและออกให้กับบุคคลเดียวจํานวนหลายกระบอก โดยมีการออกใบอนุญาตให้กับผู้ต้องหาสูงสุดถึง 3 กระบอกภายในวันเดียว จากการสืบสวนพบว่า นายชญานนท์ ผู้ต้องหารู้จักกับนายอำเภอสุไหงโก-ลก (ตำแหน่งขณะนั้น) โดยได้ประสานขอใบอนุญาตมีและใช้อาวุธปืน หรือใบ ป.4 โดยได้มีการจ่ายเงินค่าอำนวยความสะดวกให้กระบอกละ 5,000-10,000 บาท จำนวน 7 กระบอก รวมเป็นเงิน 40,000 บาท

ประเด็นที่ 3 กรณีที่ พล.ต.ต.แวสาแม กับพวก ให้การช่วยเหลือกลุ่มผู้ต้องหาให้พ้นจากการถูกดำเนินคดี จากการสืบสวนพบว่า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สงขลา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันจับกุมนายอาชิ อายุ 33 ปี พร้อมกัญชาอัดแห่งรวม 128 กก. ส่งดำเนินคดีพื้นที่ สภ.ตากใบ ภ.จว.นราธิวาส สอบถามผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่าได้รับการว่าจ้างจากนายชญานนท์ ให้ขนส่งกัญชาดังกล่าวไปที่ประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน จนต่อมาเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2565 ได้มีการขอหมายเข้าค้นบ้านของนายชญานนท์ พบนายชญานนท์ กับพวกรวม 6 คน พร้อมอาวุธปืน AK-47 อาวุธปืนลูกซอง และอาวุธปืนพกสั้นรวม 3 กระบอก จึงได้จับกุมดำเนินคดี แต่ต่อมาพนักงานสอบสวน กลับสั่งไม่ฟ้องนายชญานนท์ กับพวก แต่สั่งฟ้อง 1 ในผู้ต้องหาเท่านั้น จากการสืบสวนกรณีดังกล่าวตรวจพบความเชื่อมโยงระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มผู้ต้องหา ทั้งด้านการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์และเส้นทางการเงิน จึงเชื่อได้ว่ามีการช่วยเหลือผู้ต้องหาให้พ้นจากการถูกดำเนินคดี

 และประเด็นที่ 4 กรณี พล.ต.ต.แวสาเม สาและ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้มีการออกบัตรแหล่งข่าว หรือบัตรเบ่ง ซึ่งปรากฏชื่อและเบอร์ โทรศัพท์ของ พล.ต.ต. แวสาแม โดยจะใช้ในการแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ได้รับการอำนวยความสะดวกในกรณีถูกเรียกตรวจ ทำให้กลุ่มผู้ต้องหากล้าพกอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย และก่อเหตุทำร้ายร่างกาย รปภ.โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก โดยในคดีดังกล่าวพบว่าพนักงานสอบสวนถูกแทรกแซงดุลพินิจในการดำเนินการทางคดี โดย พล.ต.ต.แวสาแม มีการโทรสั่งการให้ปรับเปลี่ยนพฤติการณ์ทางคดี เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อผู้ต้องหา พฤติการณ์ดังกล่าว ของ พล.ต.ต.แวสแม ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ภ.จว.นราธิวาส ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยากลำบากมากขึ้น


ทั้งนี้ 4 ประเด็นที่นายอัจฉริยะ ตั้งข้อสังเกตและมอบพยานหลักฐานให้กับคณะพนักงานสืบสวนได้ทำการ รวบรวมพยานหลักฐานและแสวงหาข้อเท็จจริง ล่าสุดคณะพนักงานสืบสวนมีมติให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งคดีอาญาและคดีวินัย คดีอาญา ประกอบด้วย พล.ต.ท.แวสาแม สาและ อดีต ผบก.ภ.จว นราธิวาส, พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผกก.สภ.ตากใบ ภ.จว.นราธิวาส, ร.ต.อ.นิมะอามิง วาเต๊ะ รอง สว.สืบสวน สภ.ตากใบ ภ.จว.นราธิวาส, นายรุ่งเรือง อดีตนายอำเภอสุไหงโกลก และนายชญานนท์ ผู้ต้องหาคดีครอบครองยาเสพติดและอาวุธปืน ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือโยชน์อื่นใดๆ, ปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และ เป็นเจ้าพนักงานยุติธรรมกระทำการเพื่อจะช่วยเหลือบุคคลใดให้มีต้องรับโทษฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 157 และ 200 โดยได้มีการมอบผู้แทนเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2566 เรียบร้อยแล้ว

ส่วนทางวินัย มีมติให้ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจํานวน 13 นาย โดยเป็นคดีวินัยร้ายแรง 3 ราย และคดีวินัยไม่ร้ายแรง 10 นาย โดยคณะพนักงานสืบสวนได้ส่งรายละเอียดพยานหลักฐานและรายชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กองวินัยพิจารณาข้อบกพร่องและดำเนินการทางวินัย แล้วเช่นกัน

พล.ต.อสุรเชษฐ์ ย้ำว่าจะต้องดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างเด็ดขาดไม่มีละเว้นแม้จะเป็นข้าราชการระดับสูงก็ตาม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย

สดุดี 3 ทหารกล้า สมรภูมิปราสาทตาควาย

25 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 สดุดี 3 ทหารกล้า สละชีพ สมรภูมิปราสาทตาควาย หลังกัมพูชายิงจรวด BM-21 หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันมีทหารไทยเสียชีวิต 3 นาย จากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ หลังกัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งกัมพูชานำไปจอดไว้ในพื้นที่ชุมชน โรงเรียน และวัด เพื่อเป็นโล่กำบัง โดยทหารที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ ได้แก่ 1.สิบเอกนพดล บุญเลิศ 2.สิบเอก กฤษฎา น้อยโคตร 3.สิบเอก จิรายุ สิงห์อ้น กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล ที่ 6 กองพลทหารราบที่ 6 ร้อย.ลว.ไกล 6 และมีสิบเอกสุทธิชัย เรื่อเรือง ได้รับบาดเจ็บ -สำนักข่าวไทย