กรุงเทพฯ 9 มี.ค.- คุณพระ (ไม่) ช่วย! สืบนครบาลรวบหนุ่มหลอกขายพระเครื่องผ่านเพจเฟซบุ๊กและกลุ่มไลน์ มีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินค่าจองพระเป็นกว่า 80,000 บาท แต่ไม่ส่งของให้ อ้างเอาไปใช้จ่ายเนื่องจากภรรยาท้องใกล้คลอด
สืบเนื่องจาก “ชุดลาดตระเวนออนไลน์” สืบสวนนครบาล IDMB ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนผู้เดือดว่าพบพฤติการณ์ผู้ต้องหาเปิดเพจหลอกให้สั่งจองพระเครื่องบูชาพระเกจิชื่อดังแล้วเชิดเงินหลบหนีไป อันสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนศรัทธาในศาสนาเป็นวงกว้าง
เมื่อวานนี้ (8 มี.ค.) เวลาประมาณ 21.30 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./ หัวหน้าชุด PCT ชุดปฏิบัติการ 5 พร้อมกำลัง ร่วมกันจับกุมนายพีรพงศ์ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ จ.107/2566 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ในคดีอาญาที่ 167/2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกหลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยจับกุมได้ที่หน้าบ้านในซอยสุทธิพงศ์ 1 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
นายพีรพงศ์ เป็นผู้จัดสร้างพระเครื่องบูชาสายหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน หลวงพ่อรวย ปาสาธิโก วัดตะโก และพระเครื่องต่างๆ โดยเปิดให้สั่งจองผ่านเพจเฟชบุ๊ก และกลุ่มไลน์พระเครื่องที่ตนเองเป็นแอดมินแต่ในช่วงกลางปี 2565 นายพีรพงศ์ เปิดสั่งจองพระเครื่องหลวงพ่อพัฒน์ จำนวน 100 กล่อง ราคากล่องละ 19,000 บาท และได้ให้คนชื่อ “ส้ม” เป็นผู้รับผลิต แต่ไม่สามารถจัดส่งพระเครื่องให้ผู้สั่งจองได้ครบตามจำนวน จึงถูกผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.กระทุ่มแบน จนถูกออกหมายจับ และจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา
จากการสอบถามนายพีรพงศ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเข้ามาสู่วงการให้เช่าและบูชาพระเครื่อง วัตถุมงคลพระเกจิชื่อดังที่ได้รับความนิยมในสื่อสังคมออนไลน์ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2563 เป็นระยะเวลา 2-3 ปี เป็นที่รู้จักทั่วไปในวงการผู้ชื่นชอบและนิยมบูชาพระเครื่องและวัตถุมงคลเป็นจำนวนมาก ต่อมาได้ใช้ความน่าเชื่อถือดังกล่าว และช่วงเวลาที่ทางวัดเปิดให้สั่งจองพระเครื่องและวัตถุมงคลดังกล่าวเปิดเพจหลอกลวง รับจองพระเครื่องจนมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินค่าจองพระเป็นจำนวนกว่า 80,000 บาท โดยมิได้มีเจตนาส่งสินค้าดังกล่าวให้แก่ผู้สั่งจองแต่อย่างใด จนมาถูกตำรวจจับกุมได้ในเวลาต่อมา และให้การรับว่าได้นำเงินดังกล่าวไปใช้จ่ายให้ภรรยาของตนซึ่งตั้งท้องได้ 8 เดือน ใกล้ครบกำหนดคลอดภายในเดือนนี้ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจสอบประวัติต้องโทษของนายพีรพงศ์ พบว่าเคยก่อเหตุในลักษณะพฤติการณ์คล้ายคลึงกัน ในข้อหา “ฉ้อโกง” ในพื้นที่ สภ.หันคา จว.ชัยนาท เมื่อเดือน เม.ย.2565 ที่ผ่านมา จากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงาน สภ.กระทุ่มแบน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. หัวหน้าชุด PCT ชุดปฏิบัติการ 5 กล่าวว่า ขอเตือนภัยไปยังประชาชนว่า ใครที่มีพฤติกรรมการฉ้อโกงหรือกลโกงในลักษณะเดียวกันให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว เนื่องจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ลาดตระเวนออนไลน์ในสื่อสังคมออนไลน์และรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนทั่วไปตลอด 24 ชั่วโมง และฝากเตือนประชาชนทั่วไป ขอให้ตรวจสอบข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์อย่างถี่ถ้วนและแน่ชัดเสียก่อน มิฉะนั้นอาจตกเป็น “เหยื่อ” ของเหล่ามิจฉาชีพได้โดยง่าย สามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม.-สำนักข่าวไทย