กรุงเทพฯ 7 มี.ค.- ตำรวจ ปคบ.นำ “นอท กองสลากพลัส” และสำนวนคดีอีก 406 กรรม ส่งอัยการ ผิด 2 ข้อหา ขายสลากเกินราคา กับขายสลากให้ผู้ที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี ด้านเจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่อัยการนัดฟังคำสั่งฟ้องวันที่ 10 มีนาคมนี้
พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. นำสำนวนคดีที่แพลตฟอร์มกองสลากพลัสขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา จำนวน 7 แฟ้ม พร้อมกับนำตัวนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส ผู้บริหารแพลตฟอร์มกองสลากพลัส ให้พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 1 เพื่อพิจารณาสั่งคดี
พ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รองผู้กำกับการ 1 ในฐานะพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ในวันนี้นำสำนวนที่ตำรวจ ปคบ.รวบรวมพยานหลักฐานและสั่งฟ้องนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือนอท กองสลากพลัส และผู้บริหาร บริษัท ลอตเตอรี่ ออนไลน์จำกัดอีก 1 ราย ใน 2 ข้อกล่าวหา คือ จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา และจำหน่ายสลากกินแบ่งให้กับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี พร้อมกับนำตัวผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา เพื่อให้อัยการคดีพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 1 รับไว้พิจารณาฟังคำสั่งคดีต่อไป โดยวันนี้ยังไม่มีขั้นตอนการประกัน
จากการสืบสวนในคดีนี้ พบว่ามีพฤติการณ์การขายสลากกินแบ่งเกินราคา 2 งวด คือ งวดวันที่ 16 มีนาคม และ 30 เมษายน 2565 มีผู้ซื้อที่เป็นพยานจำนวน 384 คน รวม 406 กรรม ซึ่งพนักงานสอบสวนจัดทำสำนวนเรียบร้อยแล้ว เพราะมีความคล้ายกับสำนวนที่ได้ส่งไปที่อัยการคดีศาลแขวงนนทบุรีก่อนหน้านี้ แต่เป็นคนละกรรมกัน ส่วนจะมีการสอบสวนในประเด็นใดเพิ่มเติมหรือไม่ขึ้นอยู่กับอัยการ สำหรับกรณีที่นายพันธุ์ธวัช ยังคงให้การปฏิเสธนั้น ก็ถือเป็นสิทธิในการต่อสู้ของผู้ต้องหา
ทั้งนี้ เบื้องต้นพนักงานอัยการตรวจสอบแล้ว รู้สึกพอใจกับพยานหลักฐานที่ได้ ยังไม่มีการขอพยานหลักฐานเพิ่มเติม และนัดนายพันธุ์ธวัช มาฟังคำสั่งคดีในช่วงเช้าวันที่ 10 มีนาคมนี้
ด้านนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์หรือ นอท กองสลากพลัส และผู้บริหาร บริษัท ลอตเตอรี่ ออนไลน์ กล่าวภายหลังรับทราบข้อกล่าวหาว่า ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ทราบว่าตำรวจได้ข้อมูลจากลูกค้ามาด้วยวิธีการที่ถูกต้องหรือไม่ และในสำนวนได้ระบุหลักฐานที่ได้จากพยานว่า ซื้อสลากกินแบ่งมาในราคาเท่าใด จำนวนเท่าใด ซึ่งยืนยันว่าลูกค้าทราบอยู่แล้วว่ามีเงื่อนไขค่าดำเนินการและเป็นข้อที่ตนจะใช้ต่อสู้คดีต่อไป
นอกจากนี้ ตั้งข้อสังเกตถึงคดีอื่นๆ เช่น เฟซบุ๊กกองสลากพลัสปลอม มิจฉาชีพที่อ้างชื่อตน หรือคนที่จำหน่ายกล่องสุ่มที่มีผู้เสียหายกว่าหลายล้านบาทแต่ยังไม่มีการดำเนินคดี ในขณะที่คดีของตนเองตำรวจตรวจสอบข้อมูลผู้ซื้อ จำนวน 4,214 ราย ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ก็รวบรวมพยานหลักฐานและส่งสำนวนต่ออัยการได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ในส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรง และตลาดแบบตรง ที่กองกำกับการ 2 บก.ปคบ. เป็นผู้ดำเนินการนั้น พนักงานสอบสวนเตรียมส่งสำนวนให้พนักงานอัยการในสัปดาห์หน้า ซึ่งความผิดข้อหานี้มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.-สำนักข่าวไทย