กทม. 3 มี.ค.- สืบนครบาล IDMB ตามรวบ ‘นภาพร หรือหวาน’ นักโกงออนไลน์ ผู้เสียหายรวมตัวกว่า 600 คน ตั้งกลุ่มแชร์ข้อมูลกลโกง พร้อมแจ้งเอาผิดตามกฏหมาย
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ ซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้เสียหายซึ่งเคยถูกคนร้ายชื่อ “นภาพร” (สงวนนามสกุล) ก่อเหตุโดยสร้างเฟซบุ๊กชื่อบัญชีต่างๆ หลอกให้โอนเงินค่าสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ถึงขนาดมีการรวมตัวกันกว่า 600 คน ตั้งกลุ่มเฟซบุ๊ก ชื่อ “จับคนโกง นภาพร-แสงจันทร์-ปนัดา-ปภัสสร-สุขใจ-napaporn sangjan” เพื่อรวมตัวกันแชร์ประสบการณ์ แนะวิธีการเก็บข้อมูลพยานหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีเมื่อถูกก่อเหตุ ตลอดจนหาวิธีการช่องทางเพื่อประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในการล่าตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยผู้เสียหายที่รวมกลุ่มได้มีการประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดลาดตระเวนออนไลน์จาก กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. เพื่อให้เร่งสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาคนดังกล่าวซึ่งยังหลบหนีก่อเหตุต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558
ต่อมาวันที่ 2 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 19.30 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง, พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี, พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์, พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.นภาพร อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 95/2564 ลงวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนอันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา” โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณข้างร้านสะดวกซื้อ ถนนประชาพัฒนา แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าตนเรียนจนชั้น ป.6 เมื่อช่วงประมาณปี 2558 ขณะนั้นอายุ 18 ปี มีอาชีพขายเสื้อผ้าผู้หญิงมือหนึ่งมือสองทางออนไลน์ รวมทั้งรับเป็นตัวแทนนายหน้าโพสต์ขายเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิวทางออนไลน์ ได้เปอร์เซ็นต์ตามยอดที่ขายได้ ซึ่งไม่พอค่าใช้จ่ายส่วนตัว จึงคิดโลภนำประสบการณ์จากการขายของออนไลน์มาหลอกผู้เสียหาย โดยมีความคิดว่าถ้าโกงผู้เสียหายในจำนวนยอดเงินโกงไม่เกิน 2,000 บาท น่าจะไม่ค่อยมีผู้เสียหายติดตามดำเนินคดี จึงได้สร้างบัญชีเฟซบุ๊ก เช่น ชื่อบัญชี “เอส เอ็มเอส”, ชื่อบัญชี “ใครกันนะ พวกสามกลีบ”, ชื่อบัญชี “Best Toy”, ชื่อบัญชี “Ta Carl”, ชื่อบัญชี “P Pis Tarlc”, ชื่อบัญชี “Ayou Nakl”, ชื่อบัญชี “ปนัดา สุขใจ”, ชื่อบัญชี “ปภัสสร สุขใจ”, ชื่อบัญชี “ napaporn sangjan” เข้าไปโพสต์หลอกขายของในกลุ่มเฟซบุ๊กต่างๆ กว่า 600 กลุ่ม อาทิเช่น กลุ่ม “ตลาดนัดสินค้าแม่และเด็กราคาไม่แพง”, กลุ่ม “ชุดนอนนำขเราคาส่งหลัก 10”, กลุ่ม “ซื้อ-ขายสินค้า (เมืองโคราช)”, กลุ่ม “กางเต็นท์กัน ณ จุดกางเต็นท์ธรรมชาติ”, กลุ่ม “ ตลาดนัดเสื้อผ้ามือ2 สุราษฎร์ธานี”, กลุ่ม “ ตลาดนัดสินค้าแม่และเด็กราคาย่อมเยาว์”, กลุ่ม “ ขายสินค้าผ้ามือสองจันทบุรี”, กลุ่ม “แบ่งปัน เสื้อผ้ามือ1/2 ราคาเบา สภาพนางฟ้า by pan”, กลุ่ม “ซื้อขายอุปกรณ์แคมป์ปิ้งทุกชนิด DoD/Coleman/SnowPeak/Black Desing”, กลุ่ม “ของแต่งบ้านมือสอง”, กลุ่ม “จุดกางเกต็นท์ สระบุรี”, กลุ่ม “ของแต่งบ้านมือสอง”, กลุ่ม “ เฟอร์นิเจอร์ ซื้อ-ขาย ราคาถูก”, กลุ่ม “ ส่งต่อเสื้อผ้าแบรนด์เนม H&M Zara Only Forever21” โดยเฉลี่ยมีผู้เสียหายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อเดือนละประมาณ 20 ราย มีรายได้จากผู้เสียหายที่หลงเชื่อรายละ 500- 1,500 บาท ที่ผ่านมาก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2558 มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000,000 บาท เงินที่ได้จากการก่อเหตุรับว่านำไปใช้จ่ายในครอบครัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนโปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกง อย่าเห็นแต่สินค้าที่มีราคาที่ถูกกว่าราคามาตรฐานที่ควรจะเป็นตามราคามาตรฐานในท้องตลาด เนื่องจากมิจฉาชีพมักใช้ความโลภ เห็นแก่ผลกำไร ราคาถูกมาเป็นจุดล่อใจให้ประชาชนหลงกล ควรมีสติวิเคราะห์ถึงพฤติกรรม กลโกง หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ เสนอขาย หรือชักชวนลงทุนในด้านต่างๆ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. -สำนักข่าวไทย